ค้านหัวชนฝา"ไม่ได้ทำ"น้าชายสุดมึนเคลียร์ใจหลานก่อเหตุฆ่ายกครัว 3 ศพ "ผกก.สืบนครบาล" เผยเส้นทางฆาตกรรมโหด ชี้คู่ขาทายาทลูกชายคนเล็กตระกูล "หอมชง" มีญาติเป็นขาใหญ่คุมลานจอดแหล่งช็อปปิ้งดัง ระบุมือปืนใช้เวลาแค่ 10 นาที ก่อเหตุช่วงเด็กแว๊นป่วนถนนหวังกลบเสียงปืน
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ภายหลังการแถลงข่าวที่ บช.น.เกี่ยวกับคดีฆาตกรรม ร.ต.ท.ธรรมนัฐ หอมชง พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน นรต.รุ่น66
เสียชีวิตพร้อมพ.อ.วิชัยหอมชง และนางวนิดา หองชงพ่อและแม่ คาบ้านพักย่านบางแค เหตุเกิดช่วงหัวค่ำของวันที่ 3เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ต่อมาเวลา 18.00 น.พ.ต.อ.ประยูรศาลาทอง ผกก.สส.1บก.สส.บช.น.เปิดเผยถึงคดีนี้ว่า กรณีดังกล่าวแบ่งผู้ก่อเหตุเป็น 2 กลุ่มกลุ่มแรก คือ ผู้จ้างวานมีนายกิตตินันท์ หรือเต้ย หอมชง อายุ 23 ปี บุตรชายคนเล็ก กับนายสักรินทร์ หรือกอล์ฟ เพื่อนชายคนสนิท ซึ่งเป็นหัวหน้าชุมชนซอยเชิดสิงโต ย่านจรัญสนิทวงศ์ 13 วางแผนฆ่าคนในครอบครัวหอมชง ทั้ง 3 ราย เนื่องจากต้องการมรดกมูลค่ามหาศาล โดยนายสักรินทร์มีญาติเป็นผู้มีอิทธิพลคุมที่จอดรถที่แหล่งช็อปปิ้งชื่อดังริมแม่น้ำเจ้าพระยาจึงทำหน้าที่ติดต่อเพื่อจัดหามือปืน
ส่วนกลุ่มที่ 2 คือทีมมือปืน ที่นายสักรินทร์จัดหามาแล้วลงมือสำเร็จจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย
1.นายสิริชัยหรือ ป้อม เพิ่มพูนศักดิ์ มือปืนคนที่ยิงปลิดชีวิตทั้ง 3 ศพ ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี 2.นายสุระพงษ์ หรือจ่าแอ๊ด ชูพันธ์ อายุ 47 ปี ขณะก่อเหตุคอยทำหน้าที่ฝ้าระวังหลังให้นายสิริชัยและ3.นายฉลาดหรือป๊อด เที่ยงธรรม อายุ 53 ปี เป็นคนขับรถแท็กซี่พานายสิริชัย และนายสุระพงษ์มาส่งและหลบหนีหลังก่อเหตุ
พ.ต.อ.ประยูรเปิดเผยด้วยว่า สำหรับพฤติการณ์นั้นนายกิตตินันท์ได้นำกุญแจบ้านหลังเกิดเหตุไปให้กับนายสักริทน์เพื่อปั้มกุญแจ
ต่อมาเวลาประมาณ 02.30น.ของวันที่2เข้าวันที่3เม.ย.ก่อนที่จะมีการพบศพทั้ง3รายทีมมือปืนนำโดย นายสิริชัยนายสุรพงษ์ ได้เดินทางไปที่บ้านโดยมีนายฉลาดเป็นคนขับรถให้และรออยู่ด้านนอกส่วนนายกิตตินันท์ไม่ได้เดินทางไปด้วย ทั้งนี้เมื่อถึงบ้านทีมของนายสิริชัยได้ใช้กุญแจที่ปั้มมาไขเข้าบ้านจากนั้นนายสิริชัยก็เข้าไปยิงร.ต.ท.ธรรมนัฐที่บริเวณห้องชั้นล่าง ก่อนจะเดินไปยิงนางวนิดาซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน หลังจากนั้นได้ขึ้นไปบนชั้น 2 ลงมือยิง พ.อ.วิชัย หลังก่อเหตุเสร็จก็กลับขึ้นรถนายฉลาดเพื่อหลบหนี โดยใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 10 นาที สำหรับสาเหตุที่ลงมือช่วงดึกเนื่องจากในเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่กลุ่มวัยรุ่นแข่งรถ จยย.กันบนถนนกาญจนาภิเษก ทำให้ส่งเสียงดังไปทั่วผู้ต้องหาจึงใช้เสียงนั้นกลบเสียงปืน
“หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายกิตตินันท์ไปสอบปากคำพบว่ามีพิรุธสีหน้าและท่าทางดูไม่สะทกสะท้านที่ครอบครัวเสียชีวิต จึงสอบสวนอย่างละเอียด กระทั่งนายกิตตินันท์ยอมรับสารภาพว่าวางแผนร่วมมือกับใคร รวมถึงวิธีลงมือก่อเหตุ เมื่อได้ข้อมูลเจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนขยายผลจนจับกุมนายสักรินทร์(จับได้พร้อมนายกิตตินันท์)นายฉลาดนายสุระพงษ์ ตามลำดับเหลือเพียงนายสิริชัยมือปืนที่ยังหลบหนีอยู่ ”
ขณะเดียวกันนายเด่นชัย บุญกระพือ อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นน้องชายของภรรยา พ.อ.วิชัย และเป็นน้าชายผู้ก่อเหตุกล่าว
ภายหลังจากเดินทางไปพบ นายกิตตินันท์ หลานชายที่ศาลอาญาธนบุรี ก่อนที่จะส่งตัวไปควบคุมที่เรือนจำว่า "หลังจากสอบถามแล้ว หลานก็บอกว่าไม่ได้ทำ ตนจึงถามกลับว่า แต่ตำรวจมีหลักฐานจากการสอบปากคำแล้วว่าเต้ยให้การรับสารภาพนี่ ซึ่งหลานก็ย้ำอีกว่าไม่ได้ทำ นายกอล์ฟซึ่งเป็นเพื่อนก็ไม่ได้ทำ และจะสู้คดีด้วย" ทำให้ตนสับสนว่าจะทำเช่นไรต่อไปดีคงต้องรอให้จัดการเรื่องงานศพก่อนจึงจะปรึกษากับญาติว่าจะเอาอย่างไร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
