น้องโต้ฆ่าพ่อแม่พี่ สอบทั้งคืนก่อนปล่อย! คุ้ยปมศึกที่ดิน-เดินโพย

น้องโต้ฆ่าพ่อแม่พี่ สอบทั้งคืนก่อนปล่อย! คุ้ยปมศึกที่ดิน-เดินโพย

"คำรณวิทย์" ประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดีฆ่าหมู่ 3 ศพร.ต.ท.กับพ่ออดีตพันเอก และแม่คาบ้านพัก ให้ 2 รองผบช.ดูแลคดีใกล้ชิด

เชื่อคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน และน่าจะเป็นคนรู้จัก ด้านน้องชายร.ต.ท.ถูกตำรวจสอบปากคำตลอดคืนก่อนปล่อยตัวในตอนบ่าย เปิดใจไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะพักอยู่คนละที่จะกลับมาเฉพาะ วันหยุด ก่อนเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมงเพิ่งนัดกินข้าวกับพี่ชายและเพื่อนอีกคน จากนั้นแยกย้ายกันกลับและมาทราบข่าวในตอนหลัง ชี้ปมสงสัยเรื่องญาติของพ่อเคยมอมเหล้าแล้วหลอกให้เซ็นโอนที่ดินให้ แต่ตามกลับมาเรียบร้อย ส่วนแม่รับเดินหวยให้เจ้ามือรายใหญ่งวดละหลายแสนบาท นิติเวชระบุร.ต.ท.ถูกยิงจากระยะไกลไม่ต่ำกว่า 50 เมตร ส่วนพ่อ-แม่ถูกยิงในระยะประชิด พบร่องรอยการต่อสู้ที่ศพร.ต.ท.กับพ่อด้วย

จาก คดีฆ่าหมู่ 3 ศพร.ต.ท.ธรรมณัฐ หอมชง พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน

เสียชีวิตพร้อมพ.อ.วิชัย หอมชง อายุ 63 ปี ข้าราชการบำนาญ กรมแพทย์ทหารบก บิดาและนางวนิดา หอมชง มารดา ในบ้านพักถ.กาญจนาภิเษก แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ต่อมานายกิตินันท์ หอมชง อายุ 22 ปี บุตรชายคนเล็กซึ่งเรียนอยู่ปี 3 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง กลับมาที่บ้าน โดยระบุว่าพักอยู่กับเพื่อน ที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.

พร้อมด้วยพล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กก.สส.บก.น.9 บก.สส.บช.น. และชุดสืบสวนสน.หลักสอง ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า เร่งจัดชุดสืบสวนหลายชุดลงไปคลี่คลายคดี มอบหมายให้พล.ต.ต.ฐิติราช และพล.ต.ต.อิทธิพล ดำเนินการเร่งติดตามจับกุมคนร้าย ตั้งปมสาเหตุการฆาตกรรมไว้หลายประเด็น ทั้งขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน การปฏิบัติหน้าที่ของ ผู้ตาย ประเด็นเกี่ยวข้องกับน้องชายหรือไม่ รวมทั้งเรื่องชู้สาว โดยต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจนทุกประเด็น

พล.ต.ท. คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า เบื้องต้นยังไม่มีพยานที่เห็นเหตุการณ์ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเชื่อว่า คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุนั้นคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 2 คน
 
ส่วนจะรู้จักกับครอบครัวผู้ตายก็น่าจะเป็นไปได้โดยดูลักษณะจากการเข้าไปภาย ในบ้าน ที่ สน.หลักสอง พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พร้อมด้วยพ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 และ พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ รอง ผบก.น.9 สั่งการให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำนายกิตตินันท์อย่างละเอียดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา กระทั่งช่วงบ่ายจึงให้ออกมาทานข้าว

นายกิตตินันท์ ซึ่งมีสีหน้าดีขึ้นแล้วกล่าว กับผู้สื่อข่าวว่า คดีนี้ความจริงเป็นเช่นไรขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็น ผู้ลงมือ

เมื่อเย็นวันที่ 2 เม.ย.ก็มีพยานยืนยันว่า ตนกับพี่เติ้ล(ร.ต.ท.ธรรมณัฐ) และเพื่อนอีก 1 คน ไปกินบะหมี่ที่เดอะมอลล์ บางแค แล้วแยกย้ายกันตอน 5 ทุ่ม พี่เติ้ลมุ่งหน้ากลับไปที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ ส่วนตนและเพื่อนย้อนกลับไปพักที่บ้านในซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 จากนั้นช่วงเที่ยงคืนครึ่งวันที่ 3 เม.ย. พี่เติ้ลยังโทรศัพท์มาหา บอกว่าคืนนี้อย่าลืม ดูถ่ายทอดสดฟุตบอล

"ผมกับพี่เติ้ลสนิท กันมากไปกินเที่ยวและเตะฟุตบอลด้วยกันตลอด พี่เติ้ลกับแม่ช่วยโกหกพ่อ เรื่องที่ผมออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อไปศึกษาด้านฟิตเนส ตั้งแต่ช่วงอยู่ปี 2 โดยตบตาพ่อด้วยการออกมาใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ และจะกลับเข้าบ้านเอาเสื้อผ้าไปซักทุกวันเสาร์-อาทิตย์ แม่และพี่เติ้ลให้เงินใช้จ่ายตลอด ส่วนเรื่องที่ดินมรดกของพ่อในหมู่พี่น้องของพ่อ 6 คนไม่มีปัญหาเพราะแบ่งกันเรียบร้อยแล้ว" นายกิตตินันท์กล่าว

นาย กิตตินันท์กล่าวอีกว่าที่ดินมรดกของพ่อได้มา 3 ไร่ครึ่งอยู่ด้านหลังบ้าน ให้บริษัทขนส่งสินค้าเช่า
 
แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาพ่อถูกญาติสนิทเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง พาไปมอมเหล้าให้เซ็นโอนที่ดินให้ แต่แม่ไปจัดการนำที่ดินกลับมา ส่วนอื่นๆ เท่าที่ทราบแม่รับหวยใต้ดินส่งต่อให้เจ้ามือรายใหญ่คนหนึ่ง งวดละหลักแสนบาท ส่วนงานของพี่ชายอาจจะมีบ้างเพราะเป็นตำรวจ ก่อนหน้านี้เคยมาเล่าติดตลกให้ฟังว่า เคยทำคดีเพื่อนของลูกชายนายทหารใหญ่คนหนึ่งและถูกเบ่งใส่แต่ก็ไม่มีอะไร

"ส่วนที่พี่ชายโทรศัพท์ไปปรึกษากับเพื่อนตำรวจเพื่อลางานมาจัดการเรื่องที่ดิน นั้น ช่วงนั้นอยู่กับผมที่เดอะมอลล์ บางแค เข้าใจว่าพี่ชายอยากลาพักเลยหาข้ออ้างมากกว่า เพราะพี่ชายนอกจากเป็นพนักงานสอบสวนแล้ว ยังมีหน้าที่แกะเทปที่ฝ่ายสืบสวนแฝงตัวไปในที่ชุมนุมอีก จึงต้องการหยุดพักกลับบ้านไปพักผ่อน จึงอ้างว่ากำลังเคลียร์ปัญหากับครอบครัวอยู่" นายกิตตินันท์กล่าว

นาย กิตตินันท์กล่าวอีกว่าตำรวจจับตรวจคราบเขม่าดินปืนตั้งแต่เมื่อคืนแต่ก็ไม่ พบ ถึงตอนนี้จะถูกสงสัยแต่เชื่อมั่นในระบบยุติธรรม
 
ส่วนผู้ที่ก่อเหตุหรือสมรู้ร่วมคิดนั้นอยากบอกว่าคงโกหกได้ไม่นาน สุนัขที่บ้านก็ไม่เคยเห่าคนแปลกหน้าอยู่แล้ว ประตูรั้วเข้าบ้าน ก็ไม่เคยล็อกเอาไว้ พ่อกับแม่นอนกี่โมง เรื่องนี้มีแต่บรรดาคนใกล้ชิดเท่านั้นที่รู้ดี

ผู้สื่อข่าว รายงานเพิ่มเติมว่าจากนั้นนายกิตตินันท์เข้าไปให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติม เล็กน้อย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้เดินทางกลับได้

ที่ สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บัญชาการสถาบันนิติเวชวิทยา กล่าวถึงผลชันสูตรศพว่าพ.อ.วิชัย ถูกยิง 2 นัดเข้าที่ใบหน้าและบริเวณหัวไหล่ขวา เป็นการยิงในระยะใกล้แต่ไม่ถึงระยะจ่อยิง ส่วนรายของร.ต.ท.ธรรมณัฐ กระสุนปืนยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด ระยะการยิงมากกว่า 50 เมตร ส่วนนางวนิดา ถูกกระสุนปืนยิงที่ริมฝีปากด้านซ้ายในระยะจ่อยิง

"การ ชันสูตรพลิกศพพบร่องรอยบาดแผลฟกช้ำและแผลถลอกของ พ.อ.วิชัย และ ร.ต.ท.ธรรมณัฐ คาดว่ามีการต่อสู้ก่อนถูกยิง แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในส่วนนี้เนื่องจากอาจกระทบต่อรูปคดี เบื้องต้นจากการตรวจสอบบาดแผล คาดว่าไม่ใช่การยิงกันเองภายในครอบครัวก่อนฆ่าตัวตายตาม แต่น่าจะเป็นการกระทำของบุคคลภายนอก อย่างไรก็ตามก็ต้องรอผลการตรวจสารเคมีในร่างกายว่ามีการวางยาหรือดื่ม แอลกอฮอล์เข้าไปก่อนเสียชีวิตหรือไม่" พล.ต.ต.พรชัยกล่าว