ฆ่าโหดพ่อเฒ่า! หักคอลากศพทิ้งข้างกำแพง

ฆ่าโหดพ่อเฒ่า! หักคอลากศพทิ้งข้างกำแพง-หญ้าคลุมอำพรางคดี พบเงิน 5 หมื่นหาย

 เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 เม.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.อ.อุดม โกยเก็บ ร้อยเวรสภ.ศรีราชาได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาว่า พบศพผู้เสียชีวิตถูกฆาตกรรมอยู่ในซอยศรีราชา-หนองยายบู่ 19 หลังบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 7 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา โดยมีใบไม้และหญ้าแห้งคลุมศพอำพรางไว้ พบแต่เพียงเท้าโผล่ออกมาให้เห็น ให้ไปสอบสวน หลังรับแจ้งจึงรายงานให้พ.ต.อ.มนตรี รอดปราณี ผกก.สภ.ศรีราชาพ.ต.ท.พิศิษฎ์ พูลทรัพย์ รอง ผกก.ป.สภ.ศรีราชา พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ เรืองนวมดี สวป.สภ.ศรีราชา พ.ต.ต.เดชชาติ อาสว่าง สว.สส. ทราบ พร้อมร่วมเดินทางไปตรวจสอบ

 ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตถูกอำพรางด้วยใบไม้และหญ้าแห้งคลุมไว้

ทางตำรวจจึงให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาช่วยกันโกยหญ้าและใบไม้ออก ก่อนที่ให้นำศพนายจันทร์ เอี่ยมกลั่น อายุ 74 ปี ผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากร่องระบายน้ำข้างกำแพง เมื่อตรวจสภาพศพพบว่าศีรษะมีบาดแผลเล็กน้อยที่คอหักหมุนจนรอบได้ ตามร่างกายไม่มีบาดแผลแต่สภาพศพเริ่มอืดส่งกลิ่นเหม็นแล้ว โดยเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ชม.

 สอบสวนนายธนวิชญ์ เอี่ยมกลั่น อายุ 44 ปี บุตรชายผู้เสียชีวิตได้ให้การว่า พบบิดาเมื่อวานในช่วงเช้า
 
ก่อนออกไปทำงานพอกลับมาถึงบ้านก็ไม่พบบิดาอยู่ในบ้าน พบแต่เพียงกระเป๋าสะพายที่ใส่เงินอยู่ประมาณ 50,000 บาท วางทิ้งไว้ในห้อง โดยพบว่าเงินหายไปหมด จึงได้เดินตามหาในละแวกบ้านก็ไม่พบ จึงได้ไปแจ้งความคนหายไว้ที่สภ.ศรีราชาเมื่อคืนที่ผ่านมา ต่อมาในช่วงเช้าวันนี้ จึงได้ไปเดินตามหาที่ริมกำแพงหลังบ้านก็พบว่ามีขาโผล่ออกมาจากใบไม้และหญ้าที่คลุมไว้ จึงเปิดดูเห็นเสื้อผ้าก็พบว่าบิดาถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้เสียชีวิตเพิ่งไปเก็บเงินค่าเช่าที่มาจากบ้านเกิดที่ จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 40,000 บาท เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว และยังมีเงินสดอีกกว่า 10,000 บาทที่ตนได้ให้ไว้ติดตัว

 โดยผู้เสียชีวิตจะสะพายกระเป๋าใส่เงินสดติดตัวไว้ตลอดเวลา
 
ซึ่งทางตำรวจคาดว่าคนร้ายคงรู้ว่าผู้เสียชีวิตมีเงินสดจำนวนมากพกติดตัวอยู่ จึงได้หาโอกาสลงมือช่วงที่ผู้เสียชีวิตอยู่บ้านคนเดียว โดยการทำร้ายและหักคอก่อนที่จะลากศพไปหลังบ้านแล้วโยนศพลงไปร่องระบายน้ำข้างกำแพงก่อนอำพรางศพด้วยการใช้ใบไม้และหญ้าแห้งคลุมไว้กันผู้พบเห็น โดยผู้เสียชีวิตเพิ่งมาอยู่กับบุตรชายได้เพียง 3 เดือน และเป็นคนอัธยาศัยดีไม่ดื่มสุราเข้ากับเพื่อนบ้านได้ดี และไม่มีศัตรูแต่อย่างใด ซึ่งทางตำรวจจะได้สอบสวนคนในละแวกบ้านที่เกิดเหตุเพื่อหาตัวคนร้ายซึ่งคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 คน ที่พากันมาก่อเหตุในครั้งนี้ มาดำเนินคดี โดยทางชุดสืบสวนสภ.ศรีราชา ได้นำกำลังออกหาข่าวบุคคลผู้ต้องสงสัยที่จะก่อเหตุในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน โดยคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะรู้จักกับผู้เสียชีวิตเป็นอย่างดี ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้ให้หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชานำส่งโรงพยาบาลแหลมฉบังเพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป