กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
บุกฆ่ายกครัว 3 ศพ ร.ต.ท.กับพ่อ-แม่ คาบ้านสวนย่านหลักสอง
บุกฆ่ายกครัว 3 ศพ ร.ต.ท.กับพ่อ-แม่ คาบ้านสวนย่านหลักสอง
สุดโหดยิงกรอกปากแม่ ก่อนจ่อยิงหัวลูกชายที่เป็นร.ต.ท. ส่วนพ่อซึ่งเป็นพันเอกนอกราชการถูกยิงอยู่ที่ชั้นสอง โดยก่อนตายลูกชายโทร.ปรึกษาเพื่อนรุ่นพี่ว่ามีปัญหาขัดแย้งรุนแรงกับญาติเรื่องที่ดินมรดกนับร้อยล้าน น้องชายคนเล็กรู้ข่าวรุดดูศพพ่อ-แม่-พี่ รองผบ.ตร.สั่งสอบคนใกล้ชิดทั้งหมดเพื่อคลี่คลายคดี
เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 3 เม.ย. พ.ต.ท.สมชาย นาคสะอิ้งศาสน์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ศพ เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 1279 ถ.กาญจนาภิเษก แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รองผบก.น.9 พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.พัฒนา ปรีชานันท์ ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.อ.ภาณุเดช สุขวงศ์ ผกก.สน.หลักสอง แพทย์นิติเวช ร.พ.ศิริราช มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
เมื่อไปถึงพบที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ลักษณะครึ่งตึกครึ่งไม้ มีรั้วรอบขอบชิด ปลูกอยู่ภายในสวนเนื้อที่ 2 ไร่ ตรวจสอบภายในห้องนอนชั้นล่างพบศพนางวนิดา หอมชง อายุ 57 ปี ครูโรงเรียนราชวินิตประถมบางแค สภาพศพนอนหงายอยู่บนพื้นในห้องนอน มีบาดแผลถูกยิงกรอกปาก
ใกล้ๆ กันพบศพร.ต.ท.ธรรมณัฐ หรือหมวดเติ้ล หอมชง อายุ 27 ปี นรต.รุ่น 66 เป็นพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะด้านหลัง โดยคนร้ายใช้หมอนกด ก่อนจะยิงผ่านหมอนเพื่อเก็บเสียง ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุน ขนาด 9 ม.ม. 1 ปลอก
จากการตรวจสอบที่หน้าห้องนอนชั้นที่ 2 ยังพบศพที่ 3 คือ พ.อ.วิชัย หอมชง อายุ 63 ปี ข้าราชการบำนาญ กรมแพทย์ทหารบก ถูกยิงที่ศีรษะโดยมีรอยเลือดเป็นทางออกมาจากในห้อง คาดว่าผู้ตายจะคลานออกมาก่อนจะเสียชีวิต โดยทั้ง 3 ศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนางวนิดาได้นัดเพื่อนซึ่งเป็นครูโรงเรียนเดียวกันไว้ในช่วงเย็น จากนั้นเพื่อนคนดังกล่าวได้โทรศัพท์เข้ามาแต่ไม่มีใครรับสาย จึงได้เดินทางมาที่บ้านกระทั่งพบว่าทั้งหมดถูกยิงเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบดังกล่าว
จากการตรวบสอบที่เกิดเหตุไม่พบอาวุธปืนภายในที่เกิดเหตุ พบเพียงแค่ปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม. เพียง 1 ปลอกเท่านั้น ที่ข้างศพของร.ต.ท.ธรรมณัฐ พร้อมกันนี้อาวุธปืนประจำกายของร.ต.ท.ธรรมณัฐนั้นได้หายไปด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสการเสียชีวิตในครั้งนี้ต่อไป
พล.ต.อ.เอกเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบาดแผลพบว่าทั้ง 3 รายถูกจ่อยิงที่ศีรษะทีละคน โดยในที่เกิดเหตุไม่พบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบริเวณรั้วบ้านด้านหลัง พบร่องรอยการปีนเข้าออก ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บร่องรอยไว้แล้ว นอกจากนี้จะได้เร่งสอบสวนลูกชายอีกคนและญาติของผู้เสียชีวิต เพื่อหาสาเหตุของการสังหารโหดต่อไป
ต่อมามีนายกิตินันท์ หรือเต้ย หอมชง อายุ 22 ปี บุตรชายคนเล็กได้เดินทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ ก่อนให้การว่า ไม่ทราบเรื่องว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะไม่ได้พักอยู่ที่บ้าน โดยออกไปพักอยู่กับเพื่อนที่ซอยจรัญฯ 13
นายกิตินันท์ยังให้การอีกว่า พ่อหวังให้ตนได้สอบเข้ารับราชการทหาร แต่ตนสอบไม่ได้ จึงได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยสยาม คณะบริหารฯ ชั้นปีที่ 3 แต่เมื่อปีที่ผ่านมาตนได้ดร็อปเรียน เพื่อไปศึกษาอาชีพด้านฟิตเนส เพื่อจะมาเปิดฟิตเนสเป็นของตัวเอง เนื่องจากไม่ต้องการเป็นลูกน้องใคร โดยไม่ได้บอกให้พ่อรับรู้ มีพี่ชายกับแม่เท่านั้นที่ทราบเรื่องดังกล่าว และได้ปิดเรื่องนี้ไม่ให้พ่อทราบเรื่องตลอดมา เนื่องจากพ่อเป็นทหารเก่า มีนิสัยเคร่งครัด ตรงไปตรงมา ในบ้านจะเป็นคนที่ควบคุมทุกอย่างในบ้านถ้าสั่งอะไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น ทำให้ตนไม่กล้าที่จะบอกความจริงเรื่องที่ดร็อปเรียนเพื่อไปศึกษาด้านฟิตเนส หลังจากศึกษาอาชีพดังกล่าวเป็นอย่างดีแล้วคิดไว้ว่าจะมาขอทุนพ่อ เพื่อไปเปิดกิจการดังกล่าว โดยเมื่อหัวค่ำวานนี้ตนเพิ่งจะนัดกินสุกี้กับร.ต.ท.ธรรมณัฐ พี่ชาย ที่ห้างเดอะมอลล์ บางแค ก่อนจะแยกย้ายกันกลับช่วง 4 ทุ่ม จนกระทั่งวันนี้ได้รับโทรศัพท์จากญาติว่ามีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจึงเดินทางมาดู
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปว่าสาเหตุการสังหารโหดครั้งนี้เกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อวานนี้ ร.ต.ท.ธรรมณัฐได้โทร.ไปปรึกษาเพื่อนรุ่นพี่ นรต.รุ่น 65 ว่าจะขอลางาน เพื่อมาจัดการปัญหาเรื่องที่ดินหลายสิบไร่ริมถนนกาญจนาฯ มูลค่านับร้อยล้านบาท ซึ่งมีปัญหาขัดแย้งอย่างรุนแรงกับคนใกล้ชิด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนบุคคลใกล้ชิดผู้ตายเพื่อจะคลี่คลายปมสังหารโหดครั้งนี้ต่อไป
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
