จตุคามหาย-หนุ่มสติแตกจี้จับตัวประกัน

ทำลายข้าวของเละก่อเหตุให้ตร.สนใจ



หนุ่มจยย.รับจ้างเครียดถูกเพื่อนขโมยจตุคามรามเทพรุ่นดังไป เมื่อไปแจ้งตำรวจกลับไม่ได้รับความสนใจ

บุกขึ้นแฟลตการเคหะกลางเมืองภูเก็ต

ใช้มีดดาบจี้สาวเข้าไปในห้อง พร้อมพี่ชาย ก่อนใช้โทรศัพท์แจ้งตำรวจและนักข่าว ส่วน 2 พี่น้องรีบหนีตายออกมาได้ทัน ส่วนหนุ่มคลั่งลงมือทำลายข้าวของในห้องเสียหาย

ตำรวจต้องใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง

ปีนรถกระเช้ายิงแก๊สน้ำตาใส่ บุกชาร์จจับตัวมาสงบสติอารมณ์ได้ สารภาพไม่ตั้งใจทำร้ายใครแค่เรียกร้องความสนใจเท่านั้น

เมื่อเวลา 22.45 น. วันที่ 16 เม.ย.

ตำรวจสายตรวจ 191 ภ.จว.ภูเก็ต รับแจ้งว่าที่อาคารการเคหะแห่งชาติ อาคาร 4 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีชายไม่ทราบชื่อ บุกจี้ตัวประกัน 2 ราย ที่ชั้น 2 ของแฟลต ขอให้ไปให้ความช่วยเหลือด้วย

จึงรายงานให้ร.ต.อ.นิกร ชูทอง ร้อยเวรสภ.อ.เมืองภูเก็ต

ทราบ ร.ต.อ.นิกรจึงพร้อมด้วยพ.ต.ต.พงศ์นรินทร์ สุทิน สวป.สภ.อ.เมืองภูเก็ต เดินทางไปตรวจสอบพร้อมกำลังจำนวนหนึ่ง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต



พบว่ามีประชาชนจำนวนมาก

มุงดูเหตุการณ์จนเต็มลานด้านหน้าแฟลต ส่วนห้องที่เกิดเหตุชั้น 2 เลขที่ 72/38 ต.รัษฎา พบว่านายสรพงศ์ ทองสลับ อายุ 28 ปี และน.ส.กรทิพย์ แซ่หล่าย อายุ 23 ปี น้องสาว ฉวยโอกาสหนีคนร้ายออกมาได้อย่างปลอดภัย

สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุทราบชื่อต่อมา

ว่า นายอภินันท์ หรือยาว จันทนา อายุ 41 ปี ชาวจ.ตรัง อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง อยู่ที่หน้าโรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อ.เมืองภูเก็ต อยู่บ้านเลขที่ 66 บ้านโหนทรายทอง ซอย 3 ต.รัษฎา

ยังอยู่ภายในห้อง โดยนายอภินันท์

ได้ทำลายข้าวของภายในห้องได้รับความเสียหายทั้งหมด พร้อมปิดประตูอย่างแน่นหนา แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามเกลี้ยกล่อมก็ไม่ยอมรับข้อเสนอใดทั้งสิ้น

น.ส.กรทิพย์ให้การว่า

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ตนเดินขึ้นมาจากด้านล่างแฟลตเพื่อเข้าห้อง ระหว่างนั้นนายอภินันท์เดินเข้ามาทางด้านหลัง แล้วใช้ดาบยาวประมาณ 1 เมตรจี้ พร้อมกับบอกว่าจะไม่ทำอันตรายใดๆ

แต่ขอเข้าไปดูโทรทัศน์ภายในห้องด้วย

ซึ่งขณะนั้นนายสรพงศ์พี่ชายกำลังนอนดูโทรทัศน์อยู่ เมื่อตนพาเดินเข้าไปด้านใน นายอภินันท์ได้บอกนายสรพงศ์ว่าจะไม่ทำอันตราย แต่ขอยืมโทรศัพท์มือถือเพื่อโทร.ไปหาตำรวจ



และผู้สื่อข่าวเพื่อร้องขอความเป็นธรรม

หลังจากจตุคามรามเทพของตนหายไป แล้วไปแจ้งความไว้ที่สภ.อ.เมืองภูเก็ต แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สนใจ หากไม่ให้ยืมโทรศัพท์จะใช้มีดแทง นายสรพงศ์จึงให้ยืมโทรศัพท์ไป

หลังจากนั้นนายอภินันท์จึงเดินไป

โทรศัพท์ด้านหลังห้อง ตนกับพี่ชายจึงฉวยโอกาสวิ่งหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย นายอภินันท์จึงปิดประตูล็อกห้องทั้งด้านหน้าและหลัง ก่อนจะลงมือทุบทำลายข้าวของภายในห้อง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้กุญแจมือ

ล็อกประตูด้านหน้าห้องไว้ เพื่อไม่ให้นายอภินันท์ซึ่งอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งออกมาทำร้ายประชาชนที่มามุงดูเป็นจำนวนมาก พร้อมกับเจรจาให้นายอภินันท์ยอมมอบตัว แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ

จึงประสานขอรถยกไปยังองค์การบริหารส่วนตำบล

รัษฎา ขึ้นไปฉีดแก๊สน้ำตาใส่ทางด้านหลังห้อง เมื่อนายอภินันท์โดนแก๊สน้ำตาเจ้าหน้าที่จึงพังประตูเข้าไป บอกให้นายอภินันท์ถอดเสื้อผ้า พร้อมกับชูมือทั้ง 2 ข้างขึ้น เดินออกมาหน้าประตูห้อง ก่อนจะนำลงไปสงบสติอารมณ์ด้านล่างได้อย่างปลอดภัย หลังจากใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง

จากการสอบสวนนายอภินันท์ให้การว่า

ก่อนเกิดเหตุเพื่อนของตนได้ขโมยองค์จตุคามรามเทพ รุ่นสร้างอุโบสถ 2549 ของวัดพระธาตุวรมหาวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ไป ตนจึงไปเจรจาขอคืนแต่กลับถูกเพื่อนคนดังกล่าวไล่ยิง



ต่อมาเพื่อนคนดังกล่าวได้นำเงินมาให้

จำนวน 2,000 บาท แต่ยังไม่ยอมคืนจตุคามรามเทพให้ ตนจึงไปแจ้งความที่สภ.อ.เมืองภูเก็ต แต่ไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้รู้สึกเครียดจนก่อเหตุขึ้นดังกล่าว แค่เรียกร้องความสนใจเท่านั้น แต่ไม่มีเจตนาทำร้ายใครทั้งสิ้น

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา

แก่นายอภินันท์ 2 ข้อหา คือบุกรุกเคหสถานของผู้อื่นในยามค่ำคืน โดยมีอาวุธ และทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะที่นายสรพงศ์กล่าวว่า ความเสียหายของทรัพย์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็ไม่รู้ว่าจะเอาจากใครที่ไหน คิดว่าเป็นคราวเคราะห์ ตัวเองกับน้องสาวปลอดภัยก็ดีแล้ว



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์