จากกรณี การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของนายอเล็กซี่ สลาบินสกี้ อายุ 39 ปี นักธุรกิจการเงิน และ น.ส.ยานา สตริเซอุส อายุ 28 ปี สองสามีภรรยาชาวรัสเซีย ที่เดินทางมาเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต ตั้งแต่เดือนเม.ย.56 กระทั่งเมื่อวันที่ 3 มี.ค.57 ทั้งคู่ได้ติดต่อญาติที่ประเทศรัสเซียเพื่อขอยืมเงินจำนวน 1 แสนเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.5 ล้านบาท) อ้างว่าจะนำเงินไปแก้ไขปัญหาบางอย่าง ต่อมาวันที่ 13 มี.ค. พี่สาวของ น.ส.ยานา แจ้งว่าน้องสาวได้โทรศัพท์กลับมาหาอีกครั้ง คราวนี้พูดด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบาคล้ายกับกลัวมีคนจะได้ยินว่า ถูกคนร้ายลักพาตัวมา
หากในวันที่ 14 มี.ค. ยังหาตนไม่พบ แสดงว่าถูกคนร้ายฆ่าตายแล้ว จากนั้นน้องสาวได้รีบตัดสายทิ้งไป และก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จนญาติๆ เกรงว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้นจริง จึงรีบเดินทางมาที่ จ.ภูเก็ต เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ทางการไทย และสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทยช่วยกันตามหาบุคคลท้ังสอง ต่อมา วันที่15มี.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจได้แกะรอยจนพบ น.ส.ยานา ภายในที่โรงแรมแห่งหนึ่งในต.เชิงทะเลอ.ถลางจ.ภูเก็ต สภาพบาดแผลเต็มตัวอาการสาหัส จึงนำส่งไป รพ.กรุงเทพภูเก็ตส่วนฝ่ายสามียังไม่รู้ชะตากรรม
ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ตำรวจชุดสืบสวน บก.ภ.จว.ภูเก็ต ฝ่ายสืบสวน สภ.เชิงทะเลสภ.กมลา ตชด.ทุ่งสง และสุนัขตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบบริเวณป่าโคกโตนด ซอย 3ต.เชิงทะเลอ.ถลาง หลังสืบทราบว่าพบโครงกระดูกมนุษย์ถูกเผานั่งยาง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เป็นศพเพศชายรูปร่างสูงใหญ่คล้ายชาวต่างชาติ โดยถูกคนร้ายฆาตกรรมก่อนจะนำมาเผานั่งยางอำพรางคดีจนเหลือแต่ซากโครงกระดูก จึงรีบนำทั้งหมดส่งให้แพทย์ชันสูตรและตรวจดีเอ็นเอว่าตรงกับนายอเล็กซี่หรือไม่
ซึ่งทางญาติค่อนข้างมั่นใจว่าใช่คนอันเป็นที่รักจริง โดย พ.ต.อ.อรุณแกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า ในวันที่ 30 มี.ค. เจ้าหน้าที่จะทำการขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่ต้องสงสัยว่าเอี่ยวกับการหายไปของนายอเล็กซี่ ซึ่งมีทั้งหมด 3 รายเป็นชาวรัสเซีย ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวกักขังและกรรโชกเบื้องต้นคาดว่าได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว