ห้ามรถบัส2ชั้นขับขึ้นดอย! กันหล่นเหวอีก

 จากอุบัติเหตุสยองรถทัวร์สองชั้น ทะเบียน 31-5633 กรุงเทพมหานคร ที่ทางเทศบาลตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก

จ้างให้พาผู้นำชุมชน แม่บ้าน อสม.และผู้สูงอายุไปทัศนศึกษายัง สปป.ลาว เสียหลักแหกโค้งพุ่งชนขอบปูนกั้นทางและพลิกตกเหวจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและ บาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดบนดอยรวก ถนนสายตาก-แม่สอด ระหว่างหลักกิโลเมตรที่15-16 หมู่ 9 ต.แม่ท้อ อ.เมืองตาก ช่วงค่ำวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมาตามข่าวที่นำเสนอไปนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (25 มี.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคมนำคณะเดินทางไปตรวจจุดเกิดเหตุ

พร้อมเยี่ยมผู้บาดเจ็บและดูแลญาติผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากสภาพทางซึ่งเป็นเส้นทางลาดชันลงเขาและจากการสอบถามในที่เกิด เหตุทราบว่า รถคันเกิดเหตุพยายามจะแซงรถชาวบ้านตรงทางโค้งซ้ายทำให้หลุดโค้งและเสียหลัก ตกเหว โดยขณะนี้ทางกรมการขนส่งทางบกได้ส่งวิศวกรและชุดสืบสวนอุบัติเหตุ ในพื้นที่แล้วพร้อมสั่งให้ประสานงานเรื่องการประกันภัย ทั้งยังตรวจสอบเรื่องการบรรทุกผู้โดยสารเกินหรือไม่ด้วย อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินประกันภัยรายละ 3.5 แสนบาท ส่วนผู้บาดเจ็บจะได้รับการช่วยเหลือรายละไม่เกิน 50,000 บาท

รมว.คมนาคม กล่าวต่อว่า ส่วนตัวต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทุกราย

สำหรับถนนสายนี้เป็นเส้นทางที่มีจุดอันตรายหลายแห่ง แม้จะเป็นถนนกว้างถึง 4 เลน แต่ในช่วงเกิดเหตุบริเวณ กม. 69+700 กลับถูกบีบจนเหลือแค่ 2 เลนหากคนขับเป็นคนในพื้นที่จะไม่มีอะไร อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากผู้ขับขี่ที่เป็นคนต่างพื้นที่ซึ่งไม่ชำนาญเส้น ทาง ทั้งที่ก่อนถึงจุดเกิดเหตุมีทางลงฉุกเฉินซึ่งห่างกันไม่ถึง 50 เมตรอยู่ทางด้านซ้ายมือแต่คนขับกลับมองไม่เห็นจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ทั้ง นี้โค้งดังกล่าวชาวบ้านมักเรียกว่า “โค้งพันศพ” เพราะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นประจำ ซึ่งมีโครงการจะขยายเป็นถนน 4 เลน โดยตั้งไว้เป็นโครงการลำดับต้นใน พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท แต่เมื่อ พ.ร.บ.นี้ต้องยุติไปจึงทำให้กรมทาง หลวงต้องปรับแผนเพื่อเสนอรัฐบาลใหม่ต่อไป

ด้าน นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า

จากการประชุมผ่านดาวเทียมกับเจ้าหน้าที่ประจำขนส่งจังหวัดทั่วประเทศเพื่อหา แนวทางลดอุบัติเหตุ ได้ข้อสรุปว่า จะมีการประสานขอความร่วมมือกับบรรดาผู้ประกอบการรถขนส่งสาธารณะประจำและไม่ ประจำทางทั้งหมดให้งดใช้รถสาธารณะประเภท 2 ชั้นออกวิ่งบริการรับส่งในเส้นทางคดเคี้ยว ขึ้นหรือลงเขา ทางลาดชันทั่วประเทศ โดยกำหนดให้รถลักษณะดังกล่าววิ่งรับส่งเฉพาะทางตรงและจำกัดความเร็วในระดับ ที่เหมาะสม ซึ่งจะเริ่มก่อน 2-3 เดือนนี้ หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นอาจจะต้องหารือกับกรมทางหลวงอีกครั้งเพื่อออกเป็น ประกาศให้ชัดเจน เพราะในปัจจุบันมีรถสาธารณะ 2 ชั้นอยู่ในระบบประมาณ 20,000 คัน จากทั้งหมด 40,000 คัน

“กรณีที่ผ่านมามีการตั้งข้อสังเกต ถึงความปลอดภัยในตัวรถ 2 ชั้นว่าไม่เหมาะกับการวิ่งทางคดเคี้ยว และลาดชัน เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัวเพราะรถแบบนี้จะเหมาะเฉพาะเส้นทางตรงและ จำกัดความเร็วมากกว่า ดังนั้นจึงได้กำชับให้พนักงานขับรถปฏิบัติตามคู่มือการขับรถสาธารณะอย่าง เข้มงวดอาทิ การใช้ความเร็วในเส้นทางลาดชันและคดเคี้ยว การศึกษาเส้นทางก่อนเดินทางนอกจากนี้ทางกรมฯ กำลังพิจารณากำหนดอายุการใช้รถโดยสารสาธารณะให้มีระยะเวลากำหนดจากเดิมที่ ไม่ได้กำหนดเลยซึ่งจะศึกษาชัดเจนภายในสิ้นปีนี้” นายอัฌษไธค์ กล่าว

ขณะ ที่นายสุริยะ ปราสาทบัณฑิตย์ ผวจ.ตาก กล่าวว่า การแก้ไขหรือขยายถนนจุดนี้คงต้องเกิดขึ้นในอนาคต

แต่ตอนนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่แขวงการทางรีบติดตั้งสัญญาณเตือนแก่ผู้ สัญจรเบื้องต้นไปก่อนพร้อมติดตั้งเสากั้นตลอดแนวโค้ง เพื่อป้องกันรถตกลง  ไปซ้ำอีก สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตประกอบด้วย นางเอื้อย บุยต่าง,นางลัดดา โพเท, นางอรุณ บุญเกิด, ศศิธร หมี้แสน, นายศรีนวล สะขัดอ้อย, นายวรรณ กิตติรัชตานันท์, นางราตรี สว่างจันทร์, นายสนั่น ไพโรจน์จิรพันธ์, นางจันตา จันพอ, นายจักรี ใจเครือ, นางบัว อินเต, นายสุรเดช หล้าเมือง, นางราตรี เพียงโง๊ก,  นางพรทิพย์ กาวินำ, นายบุญธรรม กาวินำ, นายวรชิต กิตติโชค ส่วนอีก 13 คนยังไม่ทราบชื่อที่แน่ชัดคงต้องรอญาติมายืนยัน ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง 23 ราย ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  มีเพียง 1 รายที่อาการสาหัสต้องลำเลียงส่งต่อไปยังโรงพยาบาลพุทธชินราช

สำหรับ ข้อมูลของรถคันเกิดเหตุเป็นรถโดยสารไม่ประจำทาง ทะเบียน 31-5633 กรุงเทพมหานคร ยี่ห้ออีซูซุ

ลักษณะเป็นรถโดยสาร 2 ชั้นปรับอากาศ จดทะเบียนเมื่อ 26 ต.ค. 2548 ตรวจสภาพครั้งล่าสุด เมื่อ 25 ก.ย.2556 โดยมีบริษัท จงเจริญแคปปิตอล จำกัด เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ส่วนผู้ประกอบการ คือหจก.มิ้ง แอนด์ ม้อ ทราเวล ตั้งอยู่ย่านมีนบุรี ใบอนุญาตเลขที่ กท 311/2553 สิ้นอายุวันที่ 7 ส.ค. 2558 คนขับรถชื่อนายธรรมนูน ขัดโพธิ์ อายุ 41 ปี มีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ เลขที่ 1072/2556 สิ้นอายุ 26 พ.ค. 2559.