ตร.สภา ยิงหัวเมียพยาบาลดับสยอง ก่อนลั่นกระสุนเจาะกะโหลกตัวเองตายตาม

ตร.สภา ยิงหัวเมียพยาบาลดับสยอง ก่อนลั่นกระสุนเจาะกะโหลกตัวเองตายตาม

 เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 24 มี.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.ท.วรพล มลตรี พงส.ผนก.สน.พหลโยธิน รับแจ้งพบศพผู้ถูกยิงเสียชีวิตจำนวน 2 ศพภายในห้องพักหมายเลข 407 แมนชั่นแห่งหนึ่งในซอยพหลโยธิน 34 แยก 11-2 แขวงเสนานิเวศน์ เขตจตุจักร จึงรายงานผู้บังคับบัญชา 

แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เจริญ ศรีศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่ พฐ. แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู 

 พบอาคารดังกล่าวเปิดเป็นอพาร์ตเม้นท์ สูง 5 ชั้น โดยที่หน้าห้องพักหมายเลข 407 ชั้น 4 เจ้าหน้าที่พบกลุ่มเพื่อนสาวของผู้เสียชิวิตยืนร้องไห้รอเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยควมตกใจ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในห้อง พบศพชายหญิงนอนเสียชีวิตคู่กันอยู่บนเตียงนอน ในสภาพฝ่ายหญิงนอนหงาย สวมเสื้อลายจุดสีครีม สวมกางเกงยีนส์ขาสั้นสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกยิงด้วนอาวุธปืนเข้าบริเวณขมับขวากระสุนทะลุขมับซ้าย 1 นัด และที่ลำคออีก 1 นัด 

ทราบชื่อคือ นางจุฑามาศ ทิพย์สุข อายุ 31 ปีเจ้าของห้อง ทำงานเป็นพยาบาลวิชาชีพ ประจำอยู่รพ.เมโย ส่วนฝ่ายชายสภาพไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสั้นสีดำ นอนตะแคงขวา ติดอยู่กับศพฝ่ายหญิง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขมับซ้าย 1 นัด ทราบชื่อคือ ว่าที่ ร.ต.สำราญ ทิพย์สุข อายุ 32 ปีทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภา นอกจากนั้นยังพบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.ยี่ห้อซิกซาวเออร์ สีดำ ตกอยู่ระหว่างศพทั้งคู่  นอกจากนั้นบนตู้เสื้อผ้ายังพบภาพถ่ายของทั้งคู่อยู่จำนวนหลายรูป

 สอบสวนนางยุพิน จันทรักษ์ พยาบาลวิชาชีพ ร.พ.เมโย หัวหน้างานนางจุฑามาศ ให้การว่า เมื่อวานช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.ตนได้โทรศัพท์หาผู้ตาย เพื่อพูดคุยเรื่องการแทนเวรแต่ติดต่อยังไงผู้ตายก็ไม่รับ จนวันนี้ก็ไม่เห็นผู้ตายมาทำงาน ให้เพื่อนโทรศัพท์ติดต่อก็ติดต่อไม่ได้ 

จึงชวนน้องๆ ที่ทำงานพากันมาหาที่ห้องพัก เมื่อมาถึงพบห้องพักถูกล็อกจากด้านใน ตนพยายามเคาะเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบ จึงไปเรียกแม่บ้านให้นำคีการ์ดมาเปิดประตูเข้าไปก็พบทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว ปกตินางจุฑามาศ ก็เป็นคนตั้งใจทำงาน และทำงานดีมาก เข้ามาทำงานเป็นพยาบาลอยู่ที่เมโยได้ประมาณเกือบ 3 ปีแล้ว ส่วนเรื่องชีวิตคู่ รู้ว่าแต่งงานแล้ว แต่ไม่เคยทราบปัญหาชีวิตคู่

 ด้านผู้บังคับบัญชาและเพื่อนว่าที่ ร.ต.สำราญ ให้การว่า ว่าที่ ร.ต.สำราญ ต้องมาเข้าเวรที่รัฐสภา ในเวลา 08.30 น.วันนี้ แต่พบว่าผู้ตายไม่ได้เดินทางมาเข้าเวร เมื่อถามเพื่อนร่วมงานก็ไม่มีใครทราบเหตุผลการไม่มาเข้าเวร นอกจากนั้นยังติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ จึงให้เพื่อนที่สนิทกับผู้ตายเดินทางมาหาที่ห้องพัก จนพบว่าเสียชีวิตไปแล้ว สำหรับ ว่าที่ร.ต.สำราญ เป็นตำรวจประจำอยู่รัฐสภามาตั้งแต่พ.ศ.2550 นิสัยเป็นคนร่าเริง

 ด้านร.ต.ท.วรพล เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่า ฝ่ายชายน่าจะเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงฝ่ายหญิงก่อน แล้วจึงใช้อาวุธปืนยิงตัวตายตามไปอีกศพ สำหรับสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการทะเลาะกันมาก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไร เนื่องจากมีญาติของฝ่ายหญิง เปิดเผยว่า ฝ่ายชายได้โทรศัพท์ไปหาครอบครัวฝ่ายหญิงแล้วบอกเรื่องการทะเลาะกันมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว 

โดยที่ทางครอบครัวฝ่ายหญิงก็บอกว่าจะช่วยพูดกับฝ่ายหญิงให้ แต่ฝ่ายชายก็บอกไม่เป็นไร จะแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เรียกตัวญาติๆของทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป 

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด