เผาสถานีอนามัย-ร.ร.ปัตตานี เหตุแค้นปลุกม็อบต้านรัฐไม่ขึ้น

คม-ชัด-ลึก

16 เมษายน 2550 11:49 น.

โจรใต้สวมเสื้อเกราะใช้เอ็ม 16 ยิงนายกอบต. คนขับรถปลัดอาวุโสยะลา ดับหน้าบ้านพัก 2 ศพ ตร.เชื่อฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบ ขณะที่ชาวบ้านปักหลักประท้วงหน้าศาลากลางจังหวัดต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 มีเผาอนามัย-โรงเรียนปัตตานีวอด ผู้ว่าฯเผยเหตุแค้นส่งแนวร่วม 50 คนปลุกม็อบต้านรัฐไม่ขึ้น

เมื่อเวลา 07.15 น. วันที่ 16 เมษายน ศูนย์วิทยุ สภ.ต.ลำใหม่ จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 2 รายในพื้นที่ ต.ลิดล อ.เมือง จ.ยะลา จึงได้แจ้งให้ ร.ต.ต.เชษฐา กุสุมาลย์ ร้อยเวร สภ.ต.ลำใหม่ พร้อม พ.ต.ท.สราวุธ วงค์เดิม รอง ผกก.หัวหน้า สภ.ต.ลำใหม่ นำกำลังตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการเขต 45 ยะลา รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

ที่เกิดเหตุที่บ้านเลขที่ 17/4 หมู่ 4 บ้านบาตัน ต.ลิดล บริเวณหน้าบ้านเจ้าหน้าที่พบศพนายมะลาเซ็ง ดอกอ อายุ 63 ปี นอนเสียชีวิตในลักษณะคว่ำหน้า โดยสภาพศพถูกยิงเข้าที่ศีรษะ และลำตัว ในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนแต่อย่างใด

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นายมะลาเซ็ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลลิดล กำลังนั่งอยู่ที่หน้าบ้านดังกล่าว ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนยิงใส่จนนายมะลาเซ็ง เสียชีวิตแล้วหลบหนีไป

นอกจากนั้นห่างจากจุดเกิดเหตุจุดแรก ประมาณ 2 กม. ที่หน้าบ้านเลขที่ 13 หมู่ 5 บ้านตาโล๊ะ ต.ลิดล ซึ่งเปิดเป็นร้านน้ำชา เจ้าหน้าที่พบศพ อส.แวหามะ หะยีสะมะแอ อายุ 35 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ที่หน้าบ้านดังกล่าว สภาพศพถูกยิงเข้าที่ศีรษะ สมองกระจาย ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด เอ็ม 16 ตกอยู่ 4 ปลอก และขนาด 9 มม. จำนวน 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายแวหามะ ซึ่งเป็นคนขับรถของนายนิมิตร ภูมิประเสริฐ ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองยะลา กำลังนั่งอยู่ที่หน้าบ้าน ได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 3 คน สวมเสื้อเกราะ ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ สีดำ จำนวน 2 คัน มาจอดที่หน้าบ้าน ต่อมา 1 ใน 3 ของคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดยิงเข้าใส่ทันที แต่กระสุนไม่โดนผู้ใด

จากนั้นคนร้ายคนดังกล่าวได้ลงจากรถแล้วเดินเข้าหานายแวหามะ พร้อมใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงใส่ศีรษะนายแวหามะจำนวน 1 นัด จนเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าทั้ง 2 เหตุการณ์น่าจะเป็นกลุ่มคนร้ายกลุ่มเดียวกันที่ก่อเหตุ

ป่วนไม่เลิกเผาอนามัย-โรงเรียนปัตตานี

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 16 เม.ย กลุ่มก่อความไม่สงบได้กระจายออกก่อเหตุป่วนในเขต อ.เมือง จ.ปัตตานี โดย พ.ต.อ.สมจิตร นาสมยนต์ ผกก.สภ.อ.เมือง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักสถานีอนามัย หมู่ 9 ต.ตะลุโละ และบ้านพักครูโรงเรียนชุมชนบ้านกรือเซะ หมู่ 5 อ.เมือง จ.ปัตตานี จึงได้แจ้งให้รถดับเพลิงเข้าไปดับไฟทันที

ต่อมาเวลาไล่เลี่ยกันยังได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงอาคารโรงเรียนบ้านบานา หมู่ 2 ต.บานา โรงเรียนบ้านจือโระ หมู่ 6 ต.บานา โรงเรียนบ้านปะกาฮารัง หมู่ 1 โรงเรียนบ้านกือยา หมู่ 3 และโรงเรียนบ้านกอแลบีเละ ต.ปะกาฮารัง ทำให้โรงเรียนหลายแห่งที่อาคารเรียนเป็นแบบครึ่งไม้ครึ่งปูน 2 ชั้น พร้อมทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอนเครื่องคอมพิวเตอร์ และเอกสารต่าง ๆ ของนักเรียนถูกเปลวเพลิงเผาเสียหายทั้งหมด

นอกจากนี้คนร้ายยังก่อเหตุลอบวางเพลิงอาคารอเนกประสงค์และตู้โทรศัพท์ตามหมู่บ้านได้รับความเสียหายอีกด้วย

สอบสวนเจ้าหน้าที่เชื่อคนร้ายไม่ต่ำกว่า 10 คนได้กระจายกำลังไปก่อเหตุโดยมีการวางแผนไว้แล้วและใช้เวลาก่อเหตุในเวลาเดียวกันโดยหลายจุดที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไประงับเหตุได้ทำให้เพลิงได้เผาอาคารเสียหายทั้งหมด

การก่อเหตุครั้งนี้เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งต้องการที่จะเชื่อมโยงเหตุการณ์ให้เข้ากับเหตุทหารยิงเด็กเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา และเพื่อต้องการให้เกิดการเข้าใจผิดระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจากการประท้วงดังกล่าวประชาชนเพียงขอเจรจาเพื่อความยุติธรรม ทำให้กลุ่มก่อความไม่สงบไม่สามารถควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุม จึงเกิดความแค้นเลยก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ผู้ว่าฯเผยเหตุส่งแนวร่วมปลุกม็อบต้านรัฐไม่ขึ้น

นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า กรณีคนร้ายลอบวางเพลิงโรงเรียน ศาลาเอนกประสงค์ สถานีอนามัยและตู้โทรศัพท์ ในเขต อ.เมือง จ.ปัตตานี ช่วงคืนวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมารวมทั้งหมด 7 แห่ง เป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อเหตุความไม่สงบจากนอกพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา และพื้นที่อื่นๆ บางส่วนที่แฝงตัวเข้าปลุกระดมชาวบ้านให้ก่อม็อบประท้วงกรณีเจ้าหน้าที่ทหารยิงเด็กเสียชีวิต 3 รายที่ ต.บานา เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้ได้เข้ามาปลุกปั่นแต่ไม่สำเร็จทำให้เกิดความโกรธแค้นจึงก่อเหตุประชด

"กลุ่มขบวนการเหล่านี้จะร่วมกันทำงานเป็นทีมประมาณ 50 คน กระจายกำลังปลุกระดมชาวบ้านทุกรูปแบบให้ก่อม็อบประท้วงเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดการยืดเยื้อ โดยอาศัยจังหวะที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆเข้ามาสร้างสถานการณ์ให้เกิดการแตกแยกแต่เนื่องจากกลุ่มช่วบ้านผู้เดือดร้อนจริงๆ มีความเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้นจึงไม่หลงเชื่อทำให้กลุ่มเหล่านี้ไม่พอใจจึงได้ย้อนกลับมาเผาสถานที่ราชการเพื่อประชดและข่มขู่ชาวบ้านไปด้วย"นายภาณุ กล่าวและว่า

ล่าสุดได้สั่งการให้นายประมุข ละมุล นายอำเภอเมืองและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเร่งเข้าไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านพร้อมขอความร่วมมือจากผู้นำชุมชน หมู่บ้านและผู้นำศาสนาช่วยค้นหาหลักฐานะและเจ้งแจ้งเบาะแสกลุ่มแนวร่วมที่ก่อเหตุอย่างเร่งด่วนแล้ว และให้จัดกองกำลังประชาชนคุมเข้มดูแลพื้นที่รับผิดชอบอย่างเต็มที่ 24 ชั่วโมงในช่วง 1-2 วันนี้ ขณะเดียวกันได้ประสานฝ่ายกองกำลังให้เข้ามาตรึงกำลังในพื้นที่เพื่อยังหยั้งและสกัดการก่อเหตุไม่ให้ลุกลามไปยังนอกพื้นที่เพื่อเชื่อว่ากลุ่มเหล้านี้มีความพยายามที่จะก่อเหตุต่อเนื่อง

ปักหลักประท้วงหน้าศาลากลางยะลาเป็นวันที่ 6

ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 16 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมประท้วงหน้าศาลากลางจังหวัดยะลา ยังคงมีกลุ่มประชาชนชุมนุมประท้วงอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน พร้อมออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ในนามเครือข่ายพลังแผ่นดินขจัดภัยก่อการร้ายเรื่องผนึกกำลังขยายผลการชุมนุมประท้วงการบังคับใช้กฏหมายที่หน้าศาลากลางจังหวัดยะลา โดยได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารองค์การเพื่อยืนหยัดว่าการประท้วงการบังคับใช้กฏหมายที่หน้าศาลากลางจังหวัดยะลาเป็นชอบธรรมต้องดำเนินต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย โดยมีข้อสรุป 6 ข้อจากนั้นได้มีอาการออกเป็นใบแถลงการณ์ดังนี้

"1. ให้ศูนย์ประชาสังคมสงเคราะห์จังหวัดยะลา แปรสภาพเป็นเครือข่ายพลังแผ่นดินขจัดภัยก่อการร้าย 2.ให้มีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการฌาปณกิจศพออกไปจนกว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ โดยส่งคณะอนุกรรมการไปเจรจากับเจ้าภาพพิธีศพ 3.หาวิธีพิเศษกราบบังคมทูลขอพระราชทานเพลิงศพนางสาวพัชราภรณ์ บุญมาศ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้วายชนม์ ซึ่งก่อให้เกิดประชาสังคมอันชอบธรรม 4.เชิญผู้สูญเสียจากภัยก่อการร้ายมาร่วมกิจกรรมชุมนุมครั้งนี้ด้วย

5.เชิญศพอื่น ๆ ที่เกิดจากภัยก่อการร้ายมาร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพ ณ.หน้าศาลากลางจังหวัดยะลาด้วย 6.รวมพลังคนรักแผ่นดิน ในการทำประชาพิจารณ์ร่วมกับนายกรัฐมนตรี ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติและประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในตอนท้ายยังระบุว่า จึงขอให้มวลชนผู้รักชาติ รักความถูกต้อง และเสียสละเพื่อเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายให้ศักดิ์สิทธิได้แสดงพลังร่วมกันอย่าหลงเชื่อข่าวลวงใดๆ โปรดติดตามข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงจากเครือข่ายพลังแผ่นดินขจัดภัยก่อการร้ายแต่เพียงแห่งเดียว"

ลงชื่อนายสมนึก ระฆัง ประธานกรรมการเครือข่ายพลังแผ่นดินขจัดภัยก่อการร้าย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์