ครูประจำชั้นเผย น้องเติ้ล เป็นเด็กสู้ชีวิต

ครูประจำชั้นเผย น้องเติ้ล เป็นเด็กสู้ชีวิต

ครูประจำชั้นเผย “น้องเติ้ล” เรียนดีปานกลาง เข้าใจชีวิตเด็กที่อยู่กับพ่อเพียง 2 คน ต้องช่วยเหลือตัวเอง

กรณีสื่อต่าง นำเสนอเรื่องราวของ “น้องเติ้ล” ด.ช.ป่านธนา มาลาศรี อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนจักราชราฎร์สามัคคี อ.จักราช จ.นครราชสีมา ซึ่งต้องพักอาศัยอยู่กับ ด.ต.ทองทวี มาลาศรีอายุ 51 ปี ผบ.หมู่ สภ.จักราช ผู็เป็นพ่อ ที่ถูกส่งมาปฏิบัติหน้าที่ตำรวจปราบจราจลที่ศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.)  จนต้องใช้ชีวิตตามลำพัง ทนคิดถึงพ่อไม่ไหว ใช้เวลาช่วงปิดเทอม นั่งรถเข้ากรุงเทพฯ มาเยี่ยมและใช้ชีวิตอยู่กับพ่อ ทั้งกินนอนในเต๊นท์ สร้างความประทับใจให้ผู้ที่ทราบเรื่องราว ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความ คืบหน้าเมื่อวันที่ 14 มี.ค.  นางอำไพ จีบโพธิ์ ครูประจำชั้น ซึ่งเป็นผู้ดูแลและใกล้ชิดกับน้องเติ้ล

เปิดเผยว่า น้องเติ้ลเป็นเด็กที่มีผลการเรียนปานกลาง ไม่ถึงกับดีและไม่ถึงกับแย่ครูต้องคอยให้การช่วยเหลือและคอยติดตามเรื่อง การบ้าน หรืองานที่ครูมอบหมายอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด แต่ก็เข้าใจว่า เด็กต้องพักอาศัยอยู่กับพ่อซึ่งเป็นตำรวจ ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่จนไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูกอย่างเต็มที่ ยิ่งช่วงใกล้สอบปลายภาคพ่อน้องเติ้ลต้องไปปฏิบัติหน้าที่ที่กรุงเทพฯน้อง เติ้ลก็ต้องอยู่บ้านพักข้าราชการตำรวจตามลำพัง ครูก็คอยติดตามพฤติกรรมอยู่เป็นประจำสอบถามตลอดว่ากินข้าวหรือยัง ทำการบ้านหรือยัง พยายามช่วยดูแลตลอด

ครูประจำชั้น ยังกล่าวต่อไปว่า ปกติน้องเติ้ลต้องหุงหาอาหารกินเองแทบทุกเช้า

ก่อนจะขี่รถจักรายานมาโรงเรียน บางครั้งหากพ่อไปราชการต่างพื้นที่นานหลายวัน น้องเติ้ลก็จะไปอยู่บ้านย่า ซึ่งห่างจากโรงเรียนประมาณ20 กิโลเมตร ต้องนั่งรถรับส่งมาโรงเรียน บางวันก็ไม่มาโรงเรียนบอกว่าตื่นสายมาไม่ทันรถรับส่ง บางครั้งก็ทำงานไม่ทันเพื่อน ครูก็เข้าใจพยายามช่วยเหลือตักเตือน แต่โดยรวมแล้วน้องเติ้ลเป็นเด็กดี อารมณ์ดี เข้ากับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนได้ดี หลังจากนี้ปีการศึกษาต่อไปน้องเติ้ลก็จะเลื่อนชั้นเป็น ป.4 แล้วก็อยากให้กำลังใจลูกศิษย์ได้เดินตามความฝันว่าอยากเป็นตำรวจเหมือนพ่อ ให้เป็นจริงในอนาคต

ด้าน พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา กล่าวว่า

ตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา มีกองร้อยควบคุมฝูงชน 5 กองร้อย กองร้อยละ 155 นาย รวมทั้งหมด 775 นาย  ส่งไปปฏิบัติหน้าที่ที่กรุงเทพฯแล้ว3 กองร้อย และยังเหลืออีก 2 กองร้อย ที่เตรียมความพร้อมในที่ตั้ง กำลังที่ส่งไปนั้นจะอยู่ปฏิบัติหน้าที่รวม 10 วัน จากนั้นจะสลับสับเปลี่ยนกองร้อยชุดที่เหลือเข้าไปแทน เพื่อป้องกันกำลังพลเหนื่อยล้าสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติภารกิจควบ คุมฝูงชน ได้คัดเลือกกำลังพลจากสถานีต่าง ๆในจังหวัด สถานีละ 10 นาย ที่มีสภาพร่างกายแข็งแรง พร้อมปฏิบัติงานอยู่ตลอดเวลา ส่วนกรณี ด.ต.ทองทวี เป็นตำรวจที่ถูกคัดเลือกจากสภ.จักราช เคยไปปฏิบัติหน้าที่ที่กรุงเทพฯแล้วประมาณ 3 รอบ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายต้องปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่าง เคร่งครัด หากมีความจำเป็น ก็อาจมีการปรับเปลี่ยนให้คนที่มีความพร้อมไปแทน.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์