เมื่อวันที่ 13 มี.ค. พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม. พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชยวุฒิ จันทร์สมบูรณ์ ผกก.1
บก.สส.สตม. ร.ต.ต.กิตติพันธ์ เอี่ยมจรูญ รอง สว.กก.1 ร่วมกันจับกุมนายสมารี อิกอร์ อายุ 39 ปี ชาวยูเครนพร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (เอทีเอ็ม) ต่างประเทศปลอม จำนวน 18 ใบ บัตรเล็กทรอนิกส์จริง 2 ใบ เงินสด 1,790 บาท กระเป๋าสะพายข้าง สีดำ 1ใบ และกระเป๋าเงินสีน้ำตาล 2 ใบ โดยจับกุมได้บริเวณตู้เอทีเอ็ม ด้านหน้าร้านเซเว่นฯ ซอยสามเสน 2 ถนนสามเสน แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร
ร.ต.ต.กิตติพันธ์ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานจากฝ่ายตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตของ ธนาคารไทยพาณิชย์
ว่ามีชาวต่างชาติใช้บัตรเอทีเอ็มปลอมกดเงินย่านถนนสามเสน 2 และถนนข้าวสาร ช่วงวันที่ 6 และวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงจัดชุดสืบสวนลงพื้นที่และไล่ดูกล้องวงจรปิด จนกระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่ธนาคารได้ตรวจพบนายสมารียืนกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารไทยพาณิชย์ บริเวณหน้าร้านเซเว่นฯ ซอยสามเสน 2
โดย ขณะที่กดเงินอยู่นั้น ข้อมูลของบัตรเอทีเอ็มที่ใช้ได้แสดงพิรุธที่หน้าจอของเจ้าหน้าที่ธนาคาร
รวมทั้งลักษณะรูปพรรณสันฐานเหมือนกับชาวต่างชาติที่เคยพบว่ามีการใช้เอที เอ็มปลอม ชุดสืบสวนจึงเข้าทำการตรวจสอบ ก่อนจับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว ทั้งนี้ภายหลังจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ขยาย ผล เข้าตรวจสอบห้องพัก ย่านซอยรามบุตรี เขตพระนคร หลังทราบว่ามีชายชาวยูเครน ไม่ทราบชื่อเป็นผู้ร่วมขบวนการอีก 1 ราย แต่เมื่อไปถึงที่พักกลับไม่พบ
สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.57 ผ่านทางด่านตม.สุวรรณภูมิ ในฐานะนักท่องเที่ยว
ส่วนบัตรเอทีเอ็มปลอมทั้งหมด ได้รับมาจากเพื่อนชาวยูเครนที่รู้จักกัน ทั้งนี้ยอมรับว่ากดเงินมาจริง โดยทำลักษณะนี้มาประมาณ 10 ครั้ง ได้ค่าจ้างเป็นเปอร์เซ็นต์เงินที่กดได้ เมื่อหักส่วนแบ่งแล้วจะส่งเงินให้กับพรรคพวกที่ร่วมขบวนการต่อไป
อย่าง ไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลการใช้บัตรเอทีเอ็มปลอมของกลางเพื่อ ประเมินความเสียหาย
พบว่าบัตรดังกล่าวเป็นของธนาคารต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของประเทศรัสเซียและยูเครน ที่ถูกแก๊งสกิมเมอร์ดึงข้อมูลบัตรจริงมาทำเป็นบัตรปลอมแล้วติดกล้องขนาดเล็ก ไว้ดูรหัสบัตร โดยก่อเหตุในต่างประเทศ ก่อนจะนำบัตรปลอมมากดใช้ในประเทศไทยสำหรับความเสียหาย เบื้องต้นประมาณ 1 แสนบาท แต่คาดว่ายอดรวมอาจจะสูงถึง 1 ล้านบาท เนื่องจากผู้ต้องหากดเงินมาแล้วหลายครั้ง