ตำรวจแถลงข่าวจับกุม นศ.ชั้นปี 1 ก่อคดีสะเทือนขวัญฆ่าหมู่พ่อแม่และน้องชาย รวม 3 ศพ
ก่อนป้ายความผิดให้น้อง แต่ไม่รอดหลังถูกเค้นอย่างหนัก เปิดปากรับสารภาพ แค้นที่แม่ดุด่าเรื่องการเรียนตกต่ำ ตั้งใจฆ่าแม่คนเดียว แต่กลัวความผิดเลยต้องฆ่าพ่อกับน้องปิดปาก พร้อมเล่าถึงนาทีลงมือสังหาร เผยข้อหาหนักฆ่าบุพการีโทษถึงประหารชีวิต
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 มี.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รองผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.ตระกูล เกียวประเสริฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ และญาติๆ ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายหนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ลูกชายคนโตของครอบครัว ศรพรหม ในข้อหาฆ่าบุพการี โดยมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต หลังรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายภานุวัฒน์ ศรพรหม อายุ 44 ปี นางเยาวลักษณ์ ศรพรหม อายุ 41 ปี และนายภัทรยุทธ ศรพรหม อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นพ่อแม่และน้องชาย เสียชีวิตคาบ้านพักในหมู่บ้านเมลาวิลล์บ้านเลขที่ 99/15 ถนนเสมา-ฟ้าคราม ต.ประชาธิปัตย์ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.สมิทธิ เปิดเผยว่า หลังพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบปากคำนายหนึ่ง
ซึ่งเป็นสมาชิกคนเดียวในครอบครัวที่รอดชีวิต และสันนิษฐานเบื้องต้นว่า นายภัทรยุทธ น่าจะเป็นผู้ก่อเหตุยิงนายภาณุวัฒน์และนางเยาวลักษณ์ ซึ่งเป็นพ่อและแม่เสียชีวิต เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกดุด่า จากนั้นจึงประสานเจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐาน เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ อย่างละเอียดก่อนจะนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง แต่เนื่องจากผลการชันสูตร พลิกศพ มีความขัดแย้งกับพยานหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ประกอบกับลักษณะการเสียชีวิตของผู้ตายทั้ง 3 ราย มีลักษณะเหมือนกันคือ คล้ายกับเสียชีวิตในขณะนอนหลับ เนื่องจากในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวนายหนึ่งมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นจึงนำตัวไปค้นที่บ้านเกิดเหตุและคอนโดฯ หรูภายในซอยลาดพร้าว17 กระทั่งนายหนึ่งยอมรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุยิงพ่อแม่และน้อง ชาย
เบื้องต้นนายหนึ่ง ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ สารภาพว่า
ก่อนเกิดเหตุ ถูกแม่ดุด่าเรื่องผลการเรียนตกต่ำอย่างหนัก ทำให้โกรธแค้นและผูกใจเจ็บ จึงวางแผนซื้อยานอนหลับชนิดละลายน้ำ มาใส่ให้พ่อแม่กิน ครั้งแรกไม่ได้ผล จึงไปซื้อยานอนหลับ ชนิดน้ำมาเพื่อก่อเหตุอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าขวดยาตกแตกก่อน กระทั่งวันเกิดเหตุ หลังสมาชิกในครอบครัวร่วมวงสังสรรค์กินหมูกะทะกันจนอิ่มหนำสำราญ และแยกย้ายกันเข้านอนพักผ่อน ด้วยความที่ยังคงผูกใจเจ็บแม่ตลอดเวลา จึงย่องเข้าไปหยิบปืนของพ่อที่วางไว้ในตู้บนชั้นสอง แล้วเข้าไปในห้องนอน ของพ่อและแม่
โดยตั้งใจจะยิงแม่เพียงคนเดียวแต่เกรงว่าพ่อ และน้องชายจะตื่นมาพบจึงตัดสินใจยิงพ่อ แม่ และยิงน้องชายที่นอนตะแคงด้านซ้าย
แต่ก็ต้องตกใจสุดขีดเนื่องจากน้องชายยังไม่เสียชีวิต และบิดตัวกลับมาทางขวาและร้องด้วยความเจ็บปวด จึงรีบเผ่นหนีออกไปตั้งหลักนอกห้องจนแน่ใจว่าทั้งหมดเสียชีวิตแล้ว เลยย้อนเข้าไปในห้องแล้วนำอาวุธปืนไปวางไว้ที่บริเวณมือด้านขวาของน้องชาย เพื่อจัดฉากกลบเกลื่อนความผิด ก่อนจะลงมานอนด้านล่างด้วยความกระวนกระวาย กระทั่งรุ่งเช้าจึงขับรถยนต์ออกจากบ้านกลับไปคอนโดฯแล้วโทรศัพท์หาป้าว่า ทำเป็นว่าติดต่อพ่อแม่ไม่ได้ให้ป้าช่วยติดต่อและเดินทางมาที่บ้านหลังจาก นั้นได้ขับรถยนต์ไปรับแฟนสาวมาที่เกิดเหตุเพื่อใช้เป็นพยานยืนยันความ บริสุทธิ์ของตัวเอง เมื่อมาถึงบ้านพบว่าห้องล็อก จึงไปตามหา ช่างกุญแจมาเปิดแต่ไม่มีช่างจนกระทั่งป้ากลับมาช่วยงัดลูกปิดส่องดูพบศพ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเปิดประตูจนพบศพดังกล่าว
นายหนึ่งยังเปิดเผย ต่อสื่อมวลชนทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากฝากเตือน ให้ทุกคนคิดให้ดีก่อนที่จะลงมือทำอะไร อย่าใช้อารมณ์เพียงชั่ววูบเพราะสิ่งที่ทำไปไม่สามารถแก้ไขได้ สาเหตุที่ตนทำลงไปเพราะถูกครอบครัวกดดันเรื่องผลการเรียนและมีปากเสียงกัน บ่อยครั้ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับ
สารภาพที่จุดเกิดเหตุพร้อมกับจุดธูปขอขมาต่อหน้าภาพถ่ายของ นายภานุวัฒน์ นางเยาวลักษณ์ และด.ช.ภัทรยุทธ ศรพรหม พ่อแม่ละน้องชายโดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพด้านในจนกระทั่งทำแผน เสร็จจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำเพิ่มที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป.