ผบ.เรือนจำกลางโคราชคุมเข้มโยนยาเสพติดเข้าเรือนจำ แฉวิธิสุดพิสดารฆ่าแมวยัดยาบ้าในท้องหวังตบตาเจาหน้าที่ นอกจากนี้ยังมีการยัดมือถือในซากแมวด้วย
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. นางสุดสวาท สรรเสริญ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครราชสีมา
เปิดเผยว่า ปัจจุบันเรือนจำกลางนครราชสีมา มีนักโทษในความดูแล 3,434 คน กว่าร้อยละ 70 ต้องโทษในความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติด ซึ่งมีนักโทษที่ถูกคุมขังประมาณ 20 คน มีพฤติกรรมน่าสงสัย ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ที่ผ่านมาสามารถติดตามจับกุมขบวนการลักลอบส่งสิ่งของผิดกฎหมายเตรียมนำเข้า เรือนจำด้วยวิธีการต่าง ๆ หลายรายการ ทั้งโทรศัพท์มือถือ พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ และยาเสพติด นอกจากนี้ยังได้รับข้อมูลเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการจับกุมผู้กระทำ ผิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่อยู่ด้านนอกเรือนจำฯ มาอย่างต่อเนื่อง
ผบ.เรือนจำกลางนครราชสีมา เปิดเผยอีกว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน
เข้าจู่โจมค้นหาสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือนจำฯ สามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 27 เครื่อง ยาบ้า 148 เม็ด ยาไอซ์ 3 ถุง อุปกรณ์การเสพ 12 ชุด สาโท 10 ลิตร มีด 10 ด้าม และเครื่องชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ 3 ชุด จากค่าจ้างที่สูงในการว่าจ้างลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้าเรือนจำ จึงเป็นสิ่งล่อใจ ทำให้มีผู้ลักลอบกระทำผิด แม้จะรู้ว่ามีโอกาสพลาดถูกจับกุมสูง โดยในช่วงที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้หลายราย
"วิธีการที่สุดพิสดารคือพบว่า มีการฆ่าแมวเพื่อนำยาบ้าจำนวนหลายร้อยเม็ดยัดใส่ท้องซากแมว แล้วนำมาโยนข้ามกำแพงเรือนจำฯ แต่มีสิ่งพิรุธ ต้องสงสัย เนื่องจากเป็นแมวที่มีสีไม่เหมือนกับแมวที่แอบปีนเข้ามาในเรือนจำฯ รวมทั้งมีนักโทษ แสดงตัวขอฝังซากแมวฯ ผิดปกติวิสัย จึงตรวจพบก่อน ขณะนี้ได้เพิ่มมาตรการตรวจเข้ม เกี่ยวกับการควบคุมตัวนักโทษออกไปด้านนอกเพื่อผลัดฟ้องฝากขังหรือฟังคำ พิพากษาที่ศาลจังหวัด เพื่อป้องกันการหลบหนี และมีการตรวจสิ่งของที่ญาตินำมาฝากผู้ต้องขังอย่างละเอียดเพื่อป้องกันอย่าง เข้มขนในทุกช่องทาง" นางสุดสวาท ระบุ
ด้านนายพลเดช จอมกระโทก เจ้าพนักงานชำนาญงาน เรือนจำกลางนคราชสีมา ในฐานะหัวหน้างานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการติดตามความเคลื่อนไหว พร้อมกับได้ประสานกับทาง พ.ต.ท.นิรันทร์ แก้วอิน รอง ผกก.กก.สส.2 บก.สส.ภ.3 ในการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุโยนโทรศัพท์ และยาบ้าเข้าเรือนจำ โดยมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด และประสานการทำงานกันอย่างต่อเนื่อง เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง จนทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา พบว่ามีวิธีการทำผิดในหลายรูปแบบ ทั้งนำยัดใส่กล่องนำโยน หรือให้หนังสติ๊กยิงข้ามกำแพง รวมทั้งมีการนำโทรศัพท์ยัดในซากแมวที่ตายแล้วโยนข้ามกำแพงไปด้วย
ขณะที่ พ.ต.ท.นิรันทร์ แก้วอิน รอง ผกก.กก.สส.2 บก.สส.ภ.3 เปิดเผยว่า หลังจากที่พบว่าในหลายพื้นที่มีการลักลอบโยนยาบ้า
และสิ่งผิดกฎหมายเข้าเรือนจำหลายแห่ง รวมทั้งในส่วนของเรือนจำกลางนครราชสีมา จึงได้รับการประสานงานจากทางเรือนจำให้ประสานการทำงานป้องกันปราบปรามอย่าง เข้มข้น โดยประสานงานกันตลอด 24 ชั่วโมง จึงทำให้สามารถจับกุมได้อย่างต่อเนื่อง และพบว่ามีวิธีการโยนสิ่งผิดกฎหมายหลากหลายวิธี โดยในช่วงเดือนที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุโยนยาบ้า ยาไอซ์ และโทรศัพท์เข้าเรือนจำได้รวม 4 คดี และสามารถขยายผลจับเครือข่ายนักค้ายาร้ายใหญ่ในพื้นที่ได้อีกด้วย จากการร่วมกันประสานการทำงานดังกล่าวจึงทำให้สามารถในช่วงนี้การกระทำผิดใน เรื่องดังกล่าวลดน้อยลง.