"ลูกชายคนโต" ยอมรับสารภาพเป็นฆาตรกรลั่นไกสังหารบุพการีและน้องชาย รวม 3 ศพ หลังถูก ตร. เค้นสอบมาราธอน อ้างถูกกดดันเรื่องการเรียน แถมพ่อแม่ผิดสัญญาไม่ซื้อรถให้เป็นของขวัญสอบเข้ามหาวิทยาลัย ขณะที่ "ตร." เตรียมแถลงข่าว 11 มี.ค. นี้
จากกรณีพบศพ นายภานุวัตร ศรพรหม นางเยาวลักษณ์ ศรพรหม และนายสอง (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี พ่อแม่และบุตรชายคนเล็ก
ถูกยิงเสียชีวิตภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้านพักภายในหมู่บ้านเมลาวิลล์ ถนนเสมา-ฟ้าคราม ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า อาจเป็นการก่อเหตุของนายสอง บุตรชาย ที่เกิดความเครียดจากการถูกพ่อแม่ดุด่าเป็นประจำ เนื่องจากติดเล่นเกมจนทำให้ผลการเรียนตกต่ำ จึงใช้อาวุธปืนยิงพ่อแม่จนเสียชีวิต และยิงตัวเองตายตาม เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 10 มี.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้นำตัวนายหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ลูกชายคนโตของผู้ตาย ไปสอบปากคำที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ขณะที่เดินทางมารับศพพ่อแม่และน้องชายที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อจะนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความ คืบหน้าล่าสุด ช่วงเย็นวันที่ 10 มี.ค. ภายหลังจากสอบปากคำนายหนึ่ง เป็นเวลา 1 ชม.
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายหนึ่ง ขึ้นรถออกจาก สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุคือบ้านเลขที่ 99/11 หมู่บ้านเมลาวิลล์ ถนนเสมา-ฟ้าคราม ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรีจ.ปทุมธานี เพื่อนำนายหนึ่งไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยมีเพื่อนบ้านและเพื่อน ๆ ของนายหนึ่งเกือบ 10 คน อยู่ภายในบริเวณบ้านและหน้าบ้าน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นรถเก๋งของนายหนึ่ง พร้อมกับนำเสื้อผ้าบางส่วนที่อยู่ท้ายรถกลับมาตรวจสอบด้วย หลังจากใช้เวลาเก็บหลักฐานไปตรวจสอบประมาณ 1 ชม. จนเวลาประมาณ 18.30 น. จึงพานายหนึ่ง เดินทางกลับมาที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จากนั้นเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายหนึ่ง ขึ้นรถอีกครั้งโดยแจ้งเพียงว่าจะนำตัวไปที่ดอนโดที่พักของนายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ
ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถาม นายหนึ่งว่าอยากจะพูดอะไรหรือบอกอะไรกับสื่อมวลชนที่มาทำข่าวอย่างไรหรือไม่ แต่นายหนึ่ง ได้แต่ส่ายหัวปฎิเสธเพียงอย่างเดียว
ด้าน พ.ต.อ.ตระกูล เกียวประเสริฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ หรือจับกุมตัวนายหนึ่ง เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้แต่อย่างใด เพียงแต่ตำรวจมีเหตุบางอย่างที่ยังสงสัยจึงได้ไปเชิญตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องมาจากการที่ได้ติดต่อกับแพทย์ที่ทำการผ่าชันสูตรศพเป็นการภายในซึ่ง ระบุว่า บาดแผลของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายเป็นการยิงเข้าบริเวณขมับซ้ายทะลุขวาทั้ง 3 ราย แต่ขัดกับสภาพในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้บาดแผลของผู้เป็นพ่อแม่นั้นจะถูกยิงจากทางด้านซ้ายหรือด้านขวาไม่ใช่ ประเด็น และไม่สงสัย เพราะขณะถูกยิงทั้งสองนอนหลับ จึงอาจจะยิงเข้าทางซ้ายก็เป็นไปได้อยู่แล้ว แต่บาดแผลของนายสอง ลูกชายคนเล็ก ที่ตอนแรกมีการสงสัยกันว่าจะเป็นผุ้ก่อเหตุนั้น จากบาดแผลที่แพทย์ระบุว่า มีรอยกระสุนปืนยิงเข้าทางขมับซ้ายทะลุขวา แต่จากสภาพศพในที่เกิดเหตุนั้นกลับพบว่าพบอาวุธปืนตกอยู่ใกล้มือขวาซึ่งขัด กันกับความเป็นจริง ทำให้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
รายงาน ข่าวแจ้งว่า นายหนึ่งพี่ชายคนโตยังคงให้การแบบเดิมว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและยังให้การในทำนองว่าน้องชายมีความกดดันจนอาจจะก่อเหตุขึ้นมา
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังต้องประสานงานกับศูนย์พิสูจน์หลักฐานเข้ามา ตรวจสอบที่เกิดเหตุซ้ำอีกครั้งเพื่อเก็บพยานหลักฐานทุกอย่างทั้งหมดมาประกอบ เพื่อคลี่คลายคดีให้เรื่องทุกอย่างออกมาชัดเจน ต่อมาเวลา 22.50 น.หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เค้นสอบอย่างหนักตั้งแต่ช่วงบ่าย นายหนึ่ง ได้รับสารภาพว่าเป็นคนลั่นไกลงมือฆ่าพ่อแม่และน้องชาย สาเหตุมาจากเครียดที่ถูกครอบครัวกดดันเรื่องการเรียน ประกอบกับพ่อและแม่ไม่ยอมซื้อรถยนต์ให้ตามสัญญาหลังจากตนสอบเข้าเรียน มหาวิทยาลัยได้
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้มีการแถลงข่าวคดีดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้งในวันที่11 มี.ค.