‘ธาริต’ ลั่นลุยจับ ‘เทพเทือก’ ไม่รอให้มามอบตัว

‘ธาริต’ ลั่นลุยจับ ‘เทพเทือก’ ไม่รอให้มามอบตัว - นปช.นัดใหญ่ภาคเหนือรวมตัวที่เชียงใหม่

 เมื่อวันที่ 6 มี.ค.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงการติดตามตัวนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. อดีตผอ.ศอฉ. มาส่งให้อัยการยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา คดีที่ร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่า และพยายามฆ่า กรณีออกคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ในการขอคืนพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. เมื่อปี 2553 จนมีผู้เสียชีวิต 99 ศพ และบาดเจ็บจำนวนมาก ว่า หลังจากศาลอาญาออกหมายจับนายสุเทพแล้ว ดีเอสไอหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อร่วมกันวางแผนจับกุมนายสุเทพส่งอัยการ ซึ่งผลการหารือสรุปว่าจะไม่รอให้นายสุเทพเลิกชุมนุม แต่จะรอโอกาสเหมาะสมในการเข้าจับ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหมายจับของนายสุเทพครั้งนี้ถือเป็นหมายที่ 3 ที่ศาลอาญาอนุมัติ

หลังจากก่อนหน้านี้ศาลอาญาออกหมายจับนายสุเทพแล้ว 2 ฉบับ ข้อหากบฏ และข้อหาอื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 116, 215 และ 216 และฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ส่วนนายอภิสิทธิ์นั้นอัยการยื่นฟ้องเป็นจำเลยไปแล้วในคดีหมายเลขดำ อ.4552/2557  ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 24 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

 วันเดียวกันที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล เวิลด์ ลาดพร้าว นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษกนปช.
 
แถลงว่า วันเสาร์นี้เป็นการเคลื่อนพลครั้งสำคัญในพื้นที่ภาคเหนือ ตอนนี้พร้อม 95% แล้ว การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการซ้อม แต่ถ้าสถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ มีการรัฐประหาร หรือใช้องค์กรอิสระจัดการรัฐบาล เราพร้อมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทันที ทั้งนี้ นัดหมายพบกันที่หน้า สภ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ถ้าเป็นไปได้ขอให้อย่าเกินเวลา 13.00 น. ขอให้ นปช.ภาคเหนือตอนล่างมาร่วมให้พร้อมเพรียงเพื่อเคลื่อนขบวนไปที่ จ.เชียงใหม่ ให้เป็นภาพที่สวยงาม ส่วนที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ให้พร้อมกันเวลา 12.00 น. อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เคลื่อนเวลา 12.00 น.เหมือนกัน และไม่เกิน 13.00 น. จะเคลื่อนเข้าศูนย์ประชุมนานาชาติ จ.เชียงใหม่ ให้พร้อมเพรียงกัน

 นางธิดา โตจิราการ ประธานนปช. กล่าวว่า หวังว่าที่ จ.เชียงใหม่ จะมีประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
 
และขอบอกว่าการมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่ สปป.ล้านนา แต่เป็นการเคลื่อนไหวของนปช. ส่วนการที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. กล่าวหาตนเรื่องสปป.ล้านนานั้น ตนไม่อยากตอบโต้นายเอกนัฏ เพราะเรามันคนละรุ่นกัน แต่อยากบอกนายเอกนัฏว่าอย่าพูดในสิ่งที่ไม่รู้เรื่อง

 นางธิดากล่าวต่อว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พูดออกมาอย่างชัดเจนว่าต้องให้มีนายกฯ คนกลางที่มาจากมาตรา 7

การอ้างถึงนายกฯ มาตรา 7 นั้นหมายความว่าการล้มรัฐบาลด้วยวิธีอื่นของม็อบ กปปส.ไม่ได้ผลแล้ว จึงเหลือวิธีนี้อีกวิธี นายสุเทพอ้างว่าการกระทำลักษณะเช่นนี้เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมาย “ต่อจากนี้ไปขอให้การเคลื่อนไหวของ นปช.ระมัดระวังคำพูดและการกระทำให้มากขึ้น และถ้ามีท่าทีอย่างไรที่ต้องการแสดงออกขอให้ปรึกษาแกนนำ ถือว่าเราขอความร่วมมือ ทั้งนี้หลังจากการเคลื่อนไหวที่เชียงใหม่ดิฉันและแกนนำจะนำเงินไปฝากกองทุนช่วยเหลือชาวนา จึงอยากเชิญชวนคนเสื้อแดงให้ช่วยกันนำเงินไปฝากเพื่อช่วยเหลือชาวนา คนเสื้อแดงต้องการช่วยเหลือชาวนาจริงๆ ไม่ใช่เอาชาวนามาเป็นเครื่องมือเพื่อขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองเหมือนที่กลุ่ม กปปส.ทำ” ประธาน นปช.กล่าว

 ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวในรายการถลกหนังเทือกว่า
 
ที่ศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายสุเทพ ฐานฆ่าคนตายนั้น ดีเอสไอต้องติดตามจับกุมนายสุเทพมาดำเนินคดีให้ได้ นอกจากนี้ยังมีคดีรออยู่อีกจำนวนมาก ทั้งคดีทุจริตการเลือกตั้ง ส.อบจ.ที่ จ.สุราษฎร์ธานี คดีทุจริตโรงพัก คดีกบฏ ฉะนั้นหลังเลิกม็อบไม่มีทางกลับบ้านไปนอนสบายๆ ได้อย่างแน่นอน

 นายจตุพรกล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ท.บ. เลิกพูดเสียทีเถอะเรื่องการแบ่งแยกประเทศ

เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย และจะทำให้ฝ่ายการเมืองนำไปใช้เป็นประเด็นโจมตีฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น สำหรับกรณีเกิดเหตุการณ์ยิงและขว้างระเบิดใส่ศาลอาญา ศาลแพ่ง และบ้านแกนนำกปปส. เป็นเรื่องการเมืองทั้งหมด เป็นสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลดำเนินการ เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความแตกแยก สร้างความรู้สึกให้เกิดขึ้นกับศาลว่าฝ่ายตรงข้ามศาลเป็นฝ่ายกระทำกับศาล

 ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า มีคนไปแจ้งความตน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ รักษาการในข้อหากบฏ

ขอบอกว่าตนแค่ขึ้นไปพูดบนเวทีคนเสื้อแดงที่ จ.นครราชสีมา และเพียงแค่พูดในรายการถลกหนังเทือกก็ถูกเป็นกบฏแล้ว ส่วนการที่มีการแจ้งความ นปช.กับคนเสื้อแดง ข้อหากบฏในเรื่อง สปป.ล้านนานั้น เป็นข้อกล่าวหาที่เหลวไหล เลอะเทอะ และตำรวจคงไม่สามารถสรุปสำนวนคดีได้ เพราะหลักฐานมีเพียงแค่ป้าย ใครจะเอาหลักฐานมาจากไหนมาเอาผิดคนเสื้อแดงได้มันไม่มี ทั้งนี้ ยืนยันว่า นปช.จะแบ่งไทยเหนือ-ไทยใต้ได้อย่างไร ตนและแกนนำ นปช.ทุกคนไม่ยอมให้แยกอย่างแน่นอน

 “การเคลื่อนไหวที่เชียงใหม่ครั้งนี้หากเสร็จแล้วอาจลงมาที่กรุงเทพฯ เลย แต่ทั้งนี้ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนว่าเป็นอย่างไร ถ้าสถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วงมากก็คงจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง แต่ถ้าสถานการณ์น่าเป็นห่วงอาจต้องเดินทางลงมาที่กรุงเทพฯ การเคลื่อนไหวครั้งนี้เราไม่ได้ไปประกาศว่าจะเป็นประเทศล้านนา แต่เราจะไปประกาศว่าเราเป็นคนไทยที่รักประเทศไทยเหมือนกับทุกๆ คน” นายณัฐวุฒิกล่าว

 ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลอาญาออกหมายจับนายสุเทพคดีสั่งสลายการชุมนุมปี 2553

มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก แต่นายสุเทพยังไม่ไปพบอัยการตามนัดว่า แสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ของนายสุเทพที่ดีแต่พูด อยากจะปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมแต่กลับหนีคดีของตัวเอง ดังนั้น ก่อนปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปกฎหมาย ควรทำตนเป็นตัวอย่างที่ดีกับเยาวชนและประชาชน โดยเข้ามอบตัวเพื่อสู้คดี อย่าเอาแต่หนีหมายจับ เอาการชุมนุมบังหน้า เอามวลชนเป็นเกราะ ขณะนี้นายสุเทพเป็นโมฆบุรุษไปแล้วเพราะพูดอย่างทำอย่าง ขอให้ประชาชนตาสว่างได้แล้วว่านายสุเทพไม่ได้เคารพกระบวนการยุติธรรม อยากถามว่าที่นายสุเทพยังไม่เลิกชุมนุมเพียงเพราะซื้อเวลาเพื่อหนีคดีใช่หรือไม่