ผบ.ตร.ตั้งชุดพิเศษตามจับคนร้ายยิงเอ็ม 79
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งตั้งชุดพิเศษ ติดตามคนร้ายที่ใช้อาวุธเอ็ม 79 เบื้องต้นคาดว่ามีผู้ก่อเหตุ 2-3 กลุ่ม ทำงานเป็นทีม มีทั้งชุดชี้เป้าและชุดยิง
พลตำรวจตรีปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา มีคดีเกิดขึ้นทั้งสิ้น 63 คดี และมีแนวโน้มการก่อเหตุเพิ่มขึ้น ดังนั้นพลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งตั้งชุดพิเศษ เพื่อติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุรุนแรง โดยเฉพาะการยิงเอ็ม 79 ซึ่งจากการข่าวพบว่า ผู้ก่อเหตุมีประมาณ 2-3 กลุ่ม ทำงานเป็นทีม มีทั้งชุดชี้เป้าและชุดยิง อย่างไรก็ตามตำรวจได้ขอความร่วมมือไปยังกลุ่มผู้ชุมนุม กรณีเกิดเหตุรุนแรง ขอให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ และเก็บพยานหลักฐานโดยเร็ว ส่วนคดียิงนายสุทิน ธราทิน ที่หน้าวัดศรีเอี่ยม ศาลได้อนุมัติหมายจับไว้แล้ว 1 ราย เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ ส่วนนายกฤษฏา ไชยแค ผู้ต้องสงสัย ปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตำรวจยังยืนยันตั้งรางวัลนำจับแก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส จนนำไปสู่การจับกุมเป็นเงิน 100,000 บาท
ด้านพลตำรวจเอกวรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยกองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ระเบิดบริเวณลานจอดรถสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส. และรักษาความสงบ มีการนำวัตถุจำลอง เป็นลูกระเบิดขนาด 40 มิลลิเมตร มาวางเทียบกับแนววิธี ร่องรอยการตกกระทบพื้น เพื่อหาความน่าจะเป็นของทิศทางการยิง เบื้องต้นคาดว่าระเบิดทั้งที่ ไทยพีบีเอส. และ ศรส. เป็นการยิงมาจากเครื่องยิง เอ็ม 79 กระบอกเดียวกัน เนื่องจากระยะห่างของทั้งสองจุดอยู่ในแนวเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถระบุจุดยิงได้ อยู่ระหว่างรอตรวจสอบกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะบนโทลเวย์ ทั้งขาเข้าและขาออก
และในวันนี้นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการป้องกันการทุจริต
และตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ วุฒิสภา พร้อมตำรวจ พฐ. ได้เข้าตรวจสอบลานจอดรถชั้น 9 ห้างพาราเดี้ยมย่านประตูน้ำ หลังรับข้อมูลว่า น่าจะเป็นจุดที่คนร้ายยิงระเบิดใส่ผู้ชุมนุม ย่านราชประสงค์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อหาหลักฐานพร้อมกับเร่งรัดให้ตำรวจเร่งติดตามหาคนผิดมาลงโทษโดยด่วน