คณบดีรามาฯ ชี้ รพ.ถล่มเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ลางไม่ดี ยันคำนึงถึงชีวิตผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิตทุกคน คาดวิศวกรรมใช้เวลา 1-2 เดือนตรวจสอบสาเหตุ ระบุการก่อสร้างเป็นตามแผน
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ศ.นพ. วินิต พัวประดิษฐ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดล
ให้สัมภาษณ์“เดลินิวส์” ถึงเหตุการณ์ทรุดตัวของปล่องลิฟท์ระหว่างการก่อสร้างอาคารสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการซึ่งมีจำนวนผู้เสียชีวิต11 คน ว่า สภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยได้เข้าไปตรวจสอบแล้วคาดว่าจะสรุปผลการตรวจสอบให้เสร็จภายใน1-2 เดือน ส่วนพื้นที่การก่อสร้างทางผวจ.สมุทรปราการเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนอยู่โดยให้ยุติการก่อสร้างไว้ก่อนจนกว่าจะมีการพิสูจน์อะไรต่างๆ ขณะที่ทางผู้รับจ้างก็มีกระบวนการที่จะทำให้เกิดความมั่นใจว่าของเดิมที่มีอยู่ปลอดภัยของใหม่จะต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้
ศ.นพ.วินิตกล่าวต่อว่า สำหรับผู้บาดเจ็บทาง รพ.ได้ประสานงานกับ รพ.ในพื้นที่ดูแลตั้งแต่ต้นและรับมาดูแลที่ รพ.รามาธิบดี 2 คนคนเหล่านี้ ถือว่าเป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมายมีกฎหมายประกันสังคมดูแลทั้งผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ทั้งนี้ รพ.ต้องขอขอบคุณมูลนิธิร่วมกตัญญูรพ.จุฬารัตน์ รพ.บางพลี รพ.สมุทรปราการที่ช่วยดูแลผู้บาดเจ็บ
เมื่อถามว่ามองว่าเป็นลางไม่ดีหรือไม่ศ.นพ.วินิต กล่าวว่า
ไม่ได้คิดเช่นนั้น คิดว่าเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่มีคนงานก่อสร้างประมาณ 1,800 คน ทาง รพ.ก็คำนึงถึงชีวิตของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทุกคนเหมือนชีวิตของเราเอง ไม่ได้คิดว่าเขาเป็นคนงานต่างชาติ และคงปฏิเสธไม่ได้เพราะเป็นโครงการของเรา เหมือนกับเราเป็นเจ้าของบ้านให้ผู้รับเหมามาปลูกบ้านในพื้นที่บ้านของเรา พอมีเหตุการณ์อันตรายเกิดขึ้นในบ้านเราแล้วจะบอกว่าเราไม่เกี่ยวไม่ได้
ต่อข้อถามว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะทำให้การก่อสร้างล่าช้าออกไปหรือไม่
ศ.นพ.วินิตกล่าวว่า การก่อสร้างจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยอย่างการก่อสร้างครั้งนี้ก็ได้บริษัทก่อสร้างที่มีชื่อเสียงก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการทิ้งงานตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน เดิมช้ากว่าแผน 60 วัน แต่ตอนนี้เข้ากับแผนแล้วหรือเร็วกว่าแผนนิดหน่อย ซึ่งจากการประเมินของสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยระบุว่าโครงสร้างส่วนอื่นไม่ได้มีปัญหา เพราะฉะนั้นหากจะมีการแก้ไขก็คงเป็นเพียงจุดนั้นจุดเดียวแต่ต่อไปต้องระมัดระวังความปลอดภัยอย่างมากเพราะเหตุการณ์แบบนี้เราถือว่ารุนแรง
“ที่ตั้งของโครงการมีทั้งชาวบ้านและโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ รพ.ที่จะรองรับการเจ็บป่วยบริเวณดังกล่าวก็ยังมีน้อย ถ้า รพ.รามาธิบดีไปอยู่ตรงนั้นหากมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นก็สามารถรองรับได้ วัตถุประสงค์ในการก่อสร้างก็เป็นเช่นนี้”ศ.นพ.วินิตกล่าว.