รวบ อาร์ม โอรส คดีติดตัวเพียบ - ตร.สืบ 7 เผย แก๊งโอรส เริ่มสูญพันธุ์
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม รวบ อาร์ม โอรส คดีติดตัวเพียบ - ตร.สืบ 7 เผย แก๊งโอรส เริ่มสูญพันธุ์
รวบ "อาร์ม โอรส" คดีติดตัวเพียบ - ตร.สืบ 7 เผย แก๊งโอรส เริ่มสูญพันธุ์ เหลือแกนนำอีกแค่ 2 คน
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 27 ก.พ. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.น.7 พร้อม พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ รอง ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ ผกก.สส.บก.น.7 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายพิศพล หรือ“อาร์ม โอรส” รัตนชิยากุล อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดติ่งชัน ที่ 688/2556 ลงวันที่ 4 ก.ย.56 ข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต โดยใช้กำลังประทุษร้ายและมีอาวุธ, ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน, ร่วมกันครอบครองและพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหา บ้านเลขที่ 97 ซอยอิสรภาพ 38 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กทม.
พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นสมาชิกแก๊งโอรส ซึ่งเป็นแก๊งพัวพันยาเสพติดและมีพฤติกรรมเป็นอันธพาลรายใหญ่ของฝั่งธนบุรี ก่อนหน้านี้ตำรวจสามารถจับกุม นายพัชชวัตร บุญมาดี หรือ “ตี๋ โอรส” และ นายสรายุทธ ศรีกำเนิด หรือ “แอล โอรส” แกนนำแก๊งไว้ได้แล้ว ส่วน นายพิศพล ผู้ต้องหารายนี้เป็นหัวโจกอีกคนในกลุ่มซึ่งขึ้นอยู่กับ นายสรายุทธ มีความรักเคารพ นายสรายุทธ ถึงขึ้นยอมสักชื่อ-นามสกุล ของลูกพี่เป็นภาษาอังกฤษไว้ที่หน้าอกจนเห็นเด่นชัดเลยทีเดียว
สำหรับ นายพิศพล นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างประกันตัวออกมาสู้คดียาเสพติด แต่ยังมีหมายจับคดีค้างเก่ากรณีที่ร่วมกันกับพวกในแก๊งไปอุ้มเรียกค่าไถ่ผู้เสียหายในท้องที่ สน.บางขุนนนท์ ตำรวจจึงติดตามแกะรอยหาตัวกระทั่งเข้าจับกุมไว้ได้ขณะย้อนกลับมาหาพ่อกับแม่ที่บ้านพัก
พ.ต.อ.เมธี เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้แก๊งโอรส เริ่มสูญพันธุ์ไปจากสังคมทีละคน ยังเหลือผู้ต้องหาระดับแกนนำที่มีหมายจับคดีค้างเก่าอยู่อีก 2 คน ประกอบด้วย นายสุพจน์ หรือเจมส์ งามน้ำใจ อายุ 20 ปี และ นายณัฐวุฒิ หรือมาร์ค บัญชาสะอาด อายุ 20 ปี ซึ่งฝ่ายสืบสวนกำลังตามล่าตัวอยู่อย่างกระชั้นชิด
ส่วนคนดังอีกรายในแก๊งคือ นายมครินทร์ พุ่มสะอาด หรือ “เน วัดดาว” ที่เคยท้ารบกับพรรคพวกในแก๊งทางโซเซียลเน็ตเวิร์คนั้น ได้สังเกตพฤติกรรมมาตลอดพบว่าปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นคนดีแล้ว มีผู้ว่าจ้างไปแสดงหนังและเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัว จึงคิดว่าจะไม่หันกลับมาสู่วังวนเดิมๆอีก