26 ก.พ.57 เวลา 12.10 น.ที่พรรคเพื่อไทย ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัตร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
แถลงถึงกรณีที่ถูกการ์ด กปปส.ปทุมวัน ควบคุมตัวหลังจากไปปรากฏตัวที่สถานเสริมความงามชื่อดังเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25ก.พ.ที่ผ่านมาว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.เวลาประมาณ 19.30 น. ขณะที่ตนกำลังเดินออกจากคลีนิคภายหลังเสร็จสิ้นจากการพบแพทย์ที่พรเกษมคลีนิก สาขาสยามสแควร์ เพื่อจะไปห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนนั้น ได้ยินเสียงกลุ่มคนวิ่งไล่ตามมาจากด้านหลัง เมื่อหันไปดูก็พบว่า มีชายฉกรรจ์ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นการ์ด กปปส.ประมาณ 10-20 คน วิ่งมาจิกผม ล็อกแขน และลากตัวทั้งๆ ที่ตนไม่เต็มใจ เพื่อให้ไปยังศูนย์กลางที่เป็นที่ทำการของการ์ด กปปส. โดยระหว่างนั้นยังได้ยึดโทรศัพท์ไอโฟนของตนไปด้วย นอกจากนี้ การ์ดคนหนึ่งซึ่งสวมหมวกไหมพรมเพื่อปิดบังหน้าตา ยังพยายามนำหมวกมาคลุมหน้าตนเพื่อไม่ให้สื่อมวลชนพบเห็นด้วย แต่โชคดีที่ระหว่างทางนั้นมีสื่อมวลชนและช่างภาพบางส่วนเข้ามาบันทึกภาพ ตนจึงไม่ถูกสวมหมวก เพราะการ์ด กปปส.หันไปกระทบกระทั่งกับช่างภาพที่ตามมาถ่ายภาพ โดยขอให้ลบรูปที่ถ่ายได้แทน จากนั้นตนจึงถูกควบคุมตัวมาที่หอศิลป์ ซึ่งสถานที่ดังกล่าวคล้ายกับที่จอดรถ โดยมีการ์ดมาเพิ่มมากขึ้นถึงประมาณ 30-40 คน
ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าวต่อว่า มีการพูดคาดคั้นขอรหัสปลดล็อกไอโฟน ขอให้บอกว่า จอดรถไว้ที่ไหน และขอบัตรจอดรถอีกด้วย
เมื่อตนไม่ให้ การ์ด กปปส.ก็ระบุว่า เมื่อไม่ให้ความร่วมมือก็จะพาขึ้นรถตู้สีดำ ติดฟิล์มดำ ไปสอบปากคำที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งแทน ทั้งนี้ การ์ดคนหนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหัวหน้าการ์ดนั้น ได้ใช้โทรศัพท์พูดคุยกับบุคคลปริศนาปลายสายอยู่ตลอดเวลาที่ตนถูกควบคุมตัว เหมือนกับว่า แต่ละขั้นตอนนั้นต้องขอไฟเขียวจากบุคคลปริศนาดังกล่าวก่อนว่าจะทำอะไรได้หรือไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ช่วงที่การ์ดพยายามจะพาไปขึ้นรถตู้สีดำติดฟิล์มดำนั้น ตนรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยจึงไม่ยอมขึ้นรถตู้ไป แต่ที่ตนยอมรับไม่ได้มากที่สุดคือ มีการพูดเป็นนัยว่า รู้ไหมว่าพวกเขาไม่ได้เจอผู้หญิงมานานแค่ไหนแล้ว ซึ่งตนไม่รู้หมายความว่าเขาหมายความว่าอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อแถลงถึงช่วงนี้ ร.ท.หญิง สุณิสา ถึงกับสะอื้นและร้องไห้ออกมา จนต้องหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาซับน้ำตา
จากนั้น ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าวอีกว่า จุดเปลี่ยนของเหตุการณ์ในขณะที่ตนกำลังวิกฤตอยู่คือ ระหว่างที่กำลังถูกควบคุมตัวอยู่นั้น มีสื่อมวลชนจำนวนมากพยายามจะเข้ามาทำข่าวและบันทึกภาพ ทำให้หัวหน้าการ์ดที่ควบคุมตัวตนอยู่ได้โทรศัพท์ไปหาบุคคลปริศนาคนดังกล่าวอีกครั้ง จนมีการอนุมัติให้มีการเปลี่ยนแผน โดยการ์ด กปปส.ได้นำตนกลับไปยังที่ทำการของการ์ด กปปส.อีกครั้งพร้อมกับบอกว่า เปลี่ยนแผนให้ตนซ้อนมอเตอร์ไซต์ของกลุ่มการ์ดกปปส.ที่มีประมาณ 7 คันออกไปแทน
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่กลุ่มการ์ด กปปส.พาตนไปยังที่จอดรถภายในห้างสรรพสินค้าสยามดิสคอฟเวอร์รี่ และให้ตนขึ้นรถพร้อมทั้งให้ขับรถตามออกไปนั้น
ระหว่างทางยังมีกลุ่มมอเตอร์ไซค์ของการ์ด กปปส.ขับล้อมหน้าล้อมหลังรถของตนอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงบริเวณสถานที่ที่ต้องคืนบัตรจอดรถ การ์ดกปปส.ได้มาขอบัตรจอดรถจากตนเพื่อนำไปให้กับเจ้าหน้าที่ของรปภ.ห้างสรรพสินค้าเพื่อให้เปิดไม้กั้นขวางทางเข้าออกให้ แต่เจ้าหน้าที่คงสังเกตุเห็นความผิดปกติ จึงบอกว่าบัตรจอดรถเสีย ทำให้ไม้กั้นที่ขวางอยู่นั้นไม่สามารถเปิดให้นำรถออกไปได้ แต่หนึ่งในกลุ่มการ์ดกปปส.ได้ลงมายกไม้กั้นดังกล่าวขึ้นเอง จนกระทั่งถึงถนนอังรีดูนังต์กลุ่มการ์ด กปปส.ดังกล่าวจึงแยกย้ายกันไป
“สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกว่า การชุมนุมไม่ได้เป็นไปอย่างที่แกนนำบอกกับสังคมอยู่ตลอดเวลาว่า สันติ อหิงสา ไม่ใช้กำลัง การที่ผู้ชายมาจิกผม คน 10-20 คนมาล็อกแขน ฉุดกระชากลากไปทั้งๆ ที่เราไม่เต็มใจ และพยายามจะมาเอาทรัพย์สินโดยที่เราไม่ยินยอมนั้น แกนนำก็รับรู้เหตุการณ์อยู่ตลอด แต่นอกจากจะไม่เข้ามาช่วยแล้ว ยังนำไปบิดเบือนบนเวทีปราศรัยอีก ไม่รู้จะใช้คำพูดอะไรดีนอกจากคำว่า ทำไมท่านถึงได้ใจดำขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนั้น ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.) จะไปลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ แต่จะเป็น สน.ไหนนั้นขอปรึกษาทีมกฎหมายของพรรคก่อนแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง”ร.ท.หญิง สุณิสากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังการแถลงข่าว ร.ท.หญิง สุณิสา ยังโชว์รอยฟกช้ำที่เกิดขึ้นจากการถูกการ์ดกปปส.ควบคุมตัวไปสอบสวนให้สื่อมวลชนได้บันทึกภาพด้วย