"นพดล" เหน็บ ถ้าอยากเห็นบ้านเมืองสงบทันตาต้องยกประเทศให้ "สุเทพ" พร้อมเย้ย ค่าหัวนายสุเทพ-ถาวร ไม่แพงถึง 200 ล้าน บอกแกนนำกปปส.เลิกจินตนาการ อย่าโยนความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่เป็นธรรม
เมื่อวันที่ 26 ก.พ. นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
เปิดเผยว่า ในขณะนี้บ้านเมืองแตกแยกมากมีการใช้ความรุนแรงกับเด็กและผู้บริสุทธิ์ ถ้าติดตามการชุมนุมของกปปส.ที่ขณะนี้คนลดลง เพราะผู้ชุมนุมเห็นมีความรุนแรงเกิดขึ้นและคนไทยส่วนใหญ่ขณะนี้ก็อยากเห็นการคุยกัน แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.ย้ำมาโดยตลอด ว่า ไม่ต้องการคุยกับใครและจะต้องได้ดั่งใจเท่านั้นจึงจะยุติการชุมนุมซึ่งตนคิดว่า ถ้าอยากเห็นความสงบของบ้านเมืองอย่างฉับพลันคงต้องยกประเทศให้นายสุเทพใช่หรือไม่ แต่คนไทยส่วนใหญ่หลายสิบล้านคนที่เป็นเจ้าของประเทศเหมือนกับนายสุเทพและกปปส.เขาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในกฎหมาย พูดคุยกันอย่างสันติ ไม่ใช้ความรุนแรงแต่ฝ่ายกปปส. ก็ยังมุ่งมั่นที่จะเขย่ามะม่วงให้หล่นจากต้นเพื่อให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองให้มีนายกฯคนกลาง จึงทำทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นยึดสถานที่ราชการ ไล่ล่านายกฯ ขัดขวางการเลือกตั้งคุกคามธุรกิจที่คิดว่าอยู่ในเครือตระกูลชินวัตร ซึ่งความจริงครอบครัวได้ขายหุ้นไปหมดแล้วประชาชนส่วนใหญ่คิดออกว่า การยกระดับความรุนแรงนั้น ใครเป็นคนทำและทำเพื่ออะไร
ส่วนกรณีที่พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ระบุว่า คนที่อยู่ต่างประเทศตั้งค่าหัวนายสุเทพ และนายถาวร เสนเนียม แกนนำกปปส. 200 ล้านบาท
รวมถึงกรณีที่น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ บงการป่วนเมืองในขณะนี้นั้น ตนขอบอกว่า ทั้งสองคนพูดความเท็จเพราะค่าหัวนายสุเทพนายถาวร ถ้าหากมีก็คงไม่แพงขนาดนั้น และพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ตั้งค่าหัวใคร พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ต่างประเทศ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในประเทศ ใครทำอะไรไว้ดีหรือชั่วก็ให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎแห่งกรรม อย่าโยนความผิดทุกสิ่งทุกอย่างไปให้พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่เป็นธรรมกับเขา ถ้ามีหลักฐานใด ๆ ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายบ้านเมืองไปเลยควรยุติการใส่ร้ายป้ายสีด้วยความเท็จ ด้วยจินตนาการได้แล้ว
“ ผมเห็นด้วยกับ นายบัน คี มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ที่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้พูดคุยกัน เพื่อหาทางออกให้ประเทศเพราะถ้าขัดแย้งมากขึ้น บ้านเมืองจะล่มสลาย ถ้าฝ่ายหนึ่งจะเอาแต่ที่ตนต้องการและชนะฝ่ายเดียวอีกฝ่ายหนึ่งก็คงเป็นผู้แพ้และไม่ยอม และท้ายที่สุดก็จะกลับมาเอาคืนเป็นวงจรการแก้แค้นเอาคืนเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งก็ต้องมารับเคราะห์กรรมที่ตนไม่ได้ก่อขึ้น เศรษฐกิจเสียหายไปแล้วจากการชุมนุมเกือบ 500,000 ล้านบาท ผมอยากเห็นการแก้ไขความขัดแย้งในขณะนี้โดยสันติวิธีและยึดกฎหมายโดยเร็วที่สุด ” นายนพดล กล่าว.