โจรแต่งกายเลียบแบบเจ้าหน้าที่บุกเดี่ยวชิงเงินแบงก์กสิกรไทย สาขาถนนกัลปพฤกษ์ ใช้เวลาก่อเหตุ 15 วินาที ได้เงินเกือบ 5 แสนบาทหลบหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 15.47 น. วันที่ 25 ก.พ. พ.ต.ท.ฤทธิชัย ช่างคำ พงส.ผนพ.สน.บางขุนเทียน
รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนเข้าไปชิงทรัพย์ภายในธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนกัลปพฤกษ์ ติดกับทางเข้าหมู่บ้านเจเอสพีแขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงษ์อนันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.นำชัย โชติประยูร รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.อ.พัฒนา ปรีชานันท์ ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.ต.ประเคน วรธงไชย สว.กก.สส. ร.ต.อ.กิจฐิพงศ์ ชูเมือง สว.กก.สส.บก.น.9 และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ปลูกติดกัน 2 คูหา เลขที่ 89/2-3 บริเวณชั้นล่างเปิดเป็นธนาคาร
พบ น.ส.ชลธิชา ตันสมรส อายุ 25 ปี พนักงานธนาคารสาขาดังกล่าว ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตื่นตระหนก โดยน.ส.ชลธิชา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ15.45 น.ในขณะที่ธนาคารกำลังจะปิดทำการ มีพนักงานอยู่ประมาณ8คน มีลูกค้าเป็นชายใช้บิรการอยู่เพียงคนเดียว ได้มีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ175 ซ.ม. สวมเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีดำ ด้านหลังสกรีนคำว่าPOLICE กางเกงขายาวสีกากี รองเท้าหนังสีดำ ใส่ถุงมือสีดำ ใส่หมวกแบบตำรวจสายตรวจสีทอง มีผ้าคาดปากสีขาว เข้ามาที่เคาท์เตอร์ที่4
โดยชายคนดังกล่าวมาติดต่อขอแลกเงินโดยควักธนบัตรใบละ1พันบาทออกมา บอกว่าจะขอแลกธนบัตรใบละ100บาท
แต่เจ้าหน้าที่บอกไม่มี คนร้ายจึงเดินมาหาตนที่ประจำอยู่เคาท์เตอร์ที่2 แล้วใช้มือซ้ายควักปืนแบบแม็กกาซีนออกมาขู่ แล้วยื่นถุงก็อปแก๊บสีขาว บอกดว่าให้หยิบเงินใส่ถุง ตนเกิดความกลัวจึงหยิบเงินใส่ถุงให้คนร้ายไปรวมประมาณ5แสนบาท โดยใช้เวลาในการก่อเหตุประมาณ15วินาที แล้ววิ่งหลบหนีออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ข้างธนาคารหลบหนีไป
ด้านนายพงษ์พิศณุ เกียรติภราดร อายุ 25 ปี รปภ.ของซีโฟ กรุ๊ป ที่อยู่ใกล้ที่เกิด
ให้การว่าเมื่อเย็นวานนี้เห็นคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้ชาย ฮอนด้า รุ่นซีบีอาร์ 150 ซีซี สีส้มไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มตอนช่วงธนาคารใกล้ปิด และก่อนเกิดเหตุก็พบว่าคนร้ายแต่งตัวคล้ายตำรวจครึ่งท่อน ขี่รถจักรยานยนต์คันเดิมมาจอดหน้าตึกแถวที่กำลังก่อสร้างติดกับธนาคาร แล้วมากดเงิน เหมือนเป็นการดูลาดเลา และเข้าไปก่อเหตุช่วงธนาคารใกล้ปิด โดยไม่มีใครสงสัยและเอะใจเพราะคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังจากก่อเหตุ คนร้ายได้ขี่รถจยย.หลบหนีไปตามถนนกัลปพฤกษ์ขาออก มุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษก
ภายหลังเจ้าที่ที่รับทราบเรื่องจึงแจ้งวิทยุสกัดจับคนร้ายแต่ก็ไร้วี่แวว เบื้องต้นตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝงที่คาดว่าคนร้ายทิ้งไว้ เพื่อนำไปตรวจสอบกับประวัติคนร้ายที่เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป