'โตขึ้นเป็นทหาร'ฝันที่ไม่เป็นจริง เหยื่อบึ้มราชประสงค์ : ทีมข่าวอาชญากรรม
"หลับให้สบายนะลูก ถ้ามีบุญจริงให้กลับมาเป็นพ่อลูกกันอีก"
นี่คือคำพูดประโยคสุดท้ายที่ นายทยากร ยศอุบล กระซิบข้างๆ หู บอกลูกชายวัย 4 ขวบ และลูกสาววัย 6 ขวบ ก่อนที่บุตรทั้ง 2 คนจะจากไปโดยไม่มีวันหวนคืนกลับ
ด.ช.กรวิชญ์ ยศอุบล หรือน้องเคน บุตรชายวัย 4 ขวบ จากไปเป็นคนแรก และหลังจากนั้นไม่ทันข้ามคืน ด.ญ.พัชรากร ยศอุบล หรือน้องเค้ก บุตรสาววัย 6 ขวบ ก็จากไปอีกคน เป็นเรื่องยากที่จะทำใจสำหรับนายทยากร และครอบครัว
"ผมมีลูกแค่ 2 คน ทั้งสองไร้เดียงสา อยู่ในวัยกำลังน่ารัก น้องเค้กอยู่อนุบาล 2 น้องเคนเรียนอนุบาล 1 คนโตเขาบอกเสมอโตขึ้นอยากเป็นนักร้อง ส่วนลูกชายเขาอยากเป็นทหาร แต่ไม่มีโอกาสอีกแล้ว" นายทยากร กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ระหว่างรอรับศพบุตรทั้งสอง
การจากไปของน้องเค้กและน้องเคนเป็นความสูญเสียมากที่สุดในชีวิตของนายทยากร
โดยเขาบอกว่า ยังไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกนานมากน้อยแค่ไหนถึงจะทำใจได้ ก่อนหน้านี้แค่ลูกบาดเจ็บก็เสียใจมากแล้ว แต่นี่มาเสียชีวิตทั้งคู่ในเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นเรื่องยากที่จะทำใจ
"ผมไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ตอนนี้ผมกับแฟนเหมือนคนป่วย ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ญาติก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ร้องไห้ หลังจากนี้ชีวิตไม่รู้ว่าจะเดินต่ออย่างไร กินก็ไม่ได้ นอนก็ไม่หลับ ครอบครัวผมเป็นครอบครัวเล็กๆ ไม่ได้ร่ำรวย แต่เราใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข กระทั่งเกิดเหตุการณ์ขึ้น ตลอดระยะเวลา 12 ชั่วโมง ที่น้องเค้กยังมีอาการสาหัส ผมเห็นเขาเจ็บปวดมาก มันทรมานมากสำหรับหัวอกคนเป็นพ่อ ผมหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ให้เหลือลูกไว้สักคน แม้ว่าจะไม่เหมือนเดิม แต่ก็ไม่มี" นายทยากร ระบายความรู้สึก พร้อมกับกล่าวต่อว่า
บุตรทั้งสองคนเรียนอยู่ที่โรงเรียนพร้อมพันธ์วิทยา ซึ่งไม่ได้หวังว่าให้ลูกตนต้องเรียนเก่ง
แต่หวังไว้เพียงว่า ให้เขาเป็นคนดี สามารถอยู่ในสังคมได้ น้องเคนมักพูดเสมอว่า โตขึ้นเขาอยากเป็นทหาร แต่วันนี้ฝันทุกอย่างมันสลายไปทั้งหมด เป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากที่สุด แต่คงไม่โทษใคร ไม่ได้โกรธใครในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คิดเพียงว่า บนโลกใบนี้ มีสิ่งที่เกิดขึ้นมากมาย เพียงแต่ครั้งนี้เกิดขึ้นกับลูกของตนก่อน และถ้าเป็นไปได้ อยากให้เหตุการณ์ความวุ่นวายจบลง และอยากให้การจากไปของบุตรทั้งสองเป็นอุทาหรณ์แก่ทุกฝ่าย หากจะให้บอกอะไรใคร ก็คงบอกได้แค่ว่า ขออโหสิกรรมให้คนที่ทำ
“ผมกลับบ้านเห็นกระเป๋านักเรียนลูก เสื้อผ้ายังแขวนเตรียมไปโรงเรียน ภาพเหตุการณ์ตอนที่ผมไปส่งเขาที่โรงเรียนยังติดตาอยู่ เป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากที่สุด แต่คงไม่โทษใคร ตอนนี้ยังไม่ฟ้องร้องอะไรใคร ขอเอาลูกไปประกอบพิธีทางศาสนาก่อน แล้วค่อยว่ากัน” นายทยากร กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ขณะที่ นางนารีรัตน์ ชัยรัตน์ น้าของหนูน้อยทั้งสอง
ให้สัมภาษณ์ด้วยความเสียใจว่า เสียใจมากที่เป็นต้นเหตุให้หลานทั้งสองคนเสียชีวิต ขณะที่บุตรชายวัย 9 ขวบ คือ ด.ช.โยธิน ชะเอมรัมย์ หรือน้องฟลุก บาดเจ็บสาหัส โดยบุตรชายเรียนอยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ ย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งอยากให้เป็นฝันร้ายไม่ใช่เรื่องจริง
"หนูอยากให้เป็นแค่ฝันร้าย ไม่ใช่เรื่องจริง อยากให้เกิดขึ้นกับหนู ทำไมต้องมาเกิดกับลูกกับหลาน วันเกิดเหตุหนูกับลูกมาจากบ้านที่บางใหญ่ แวะรับหลานที่ห้องพักย่านห้วยขวาง แล้วมากินข้าวกันที่ห้างบิ๊กซี ราชประสงค์ หลังกินข้าวเสร็จก็พากันไปเลือกซื้อนาฬิกาให้หลาน จากนั้นก็พากันมาขึ้นรถตุ๊กตุ๊กที่หน้าห้าง เพื่อจะเดินทางกลับไปส่งหลาน ขณะยืนอยู่ข้างรถตุ๊กตุ๊กก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว หัวใจแทบสลายเมื่อเห็นลูกและหลานถูกระเบิด ได้แต่ร้องให้คนช่วย และมารู้ภายหลังว่าตัวเองก็ถูกระเบิดที่ขา" นางนารีรัตน์ กล่าวทั้งน้ำตา
ครอบครัวของน้องเค้กและน้องเคน ได้รับศพเด็กน้อยทั้งสองคนจากโรงพยาบาลรามาธิบดี ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดพรหมวงศาราม ย่านห้วยขวาง
โดยระหว่างเคลื่อนศพ นางนพวรรณ ยศอุบล มารดาของน้องเค้ก และน้องเคน โผเข้ากอดนายทยากร สามี โดยร้องไห้อยู่ตลอดเวลา พร้อมกันนั้นยังนำผ้าห่มและเครื่องใช้ของลูกมากอด และพร่ำพูดว่า "เอาลูกหนูคืนมา" เป็นภาพที่สะเทือนใจผู้พบเห็นอย่างยิ่ง
น้องเค้ก และน้องเคน เสียชีวิตหลังจากถูกสะเก็ดระเบิดในเหตุการณ์คนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่พื้นที่ชุมนุมกลุ่ม กปปส.เวทีราชประสงค์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นอกจากเด็กทั้งสองจะเสียชีวิตแล้ว ยังมี น.ส.ฐิพาพรรณ สุวรรณมณี อายุ 59 ปี เสียชีวิตอีก 1 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 21 คน
.........................................
(หมายเหตุ : 'โตขึ้นเป็นทหาร'ฝันที่ไม่เป็นจริง เหยื่อบึ้มราชประสงค์ : ทีมข่าวอาชญากรรม)