นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่าขณะนี้มีความพยายามที่จะให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง เพื่อเปิดทางให้เกิด นายกรัฐมนตรีคนกลาง ตามมาตรา 7 ซึ่งแผนการทั้งหมดได้ถูกดำเนินการมาเป็นขั้นเป็นตอนโดยจากนี้ไปฝ่ายอำมาตย์ และอภิสิทธิ์ชน สมรู้ร่วมคิดกันทั้งระบบ ก็จะเหลือบันได 4 ขั้นสุดท้าย สู่การได้รัฏฐาธิปัตย์ เป็นการรัฐประหารซ่อนรูป คือ 1.ชี้มูลความผิดนายกฯ ตัดสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มาจากโครงการรับจำนำข้าว 2.ลาก ครม.ทั้งคณะเข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อสกัดคนที่เหลือที่อยู่ในข่ายปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกฯ ได้ 3.ร้องให้รัฐบาลพ้นจากการเป็นรัฐบาลรักษาการหลังจากเลือกตั้ง 30 วัน เปิดสภาไม่ได้ และ 4.ตัดสิทธิ์ ส.ส. - ส.ว. แก้รัฐธรรมนูญล้างบาง 308 ส.ส. - ส.ว. โดยทั้งหมดเป็น ทฤษฎีมะม่วงหล่น ตามที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้กล่าวถึง
พรรคร่วมรัฐบาลจ่อยื่นฟ้องศาลฎีกากับกกต.
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ภายหลังจากที่เลขาฯ กกต. ยืนยัน ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งก่อน 4 มี.ค.ได้ ว่า คงจะต้องไปยื่นฟ้องกับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาเพื่อตัดสิน ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะไปยื่นเมื่อไร และจะให้ใครเป็นคนไปยื่น ส่วนกระบวนการก็เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่า กกต. มีความตั้งใจที่จะไม่ให้มีการเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งได้ ก็ทำให้การจัดการเลือกตั้งไม่เรียบร้อยและมีเป้าหมายใหญ่คือ ไม่ให้มีรัฐสภา ไม่สามารถจัดตั้งนายกรัฐมนตรี ทำให้มีสุญญากาศ ส่งผลให้มีนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 7 ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายต้องการให้เกิดขึ้นเหมือนปี 2548 ทั้งนี้ นายจารุพงศ์ ยืนยันว่าจะต้องต่อสู้ เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งโดยประชาชน และให้เป็นประชาธิปไตย เฉกเช่นนานาประเทศให้ได้