ฆ่า-เผาบัณฑิตสาว เย้ย ´สนธิ´ ชุมนุมแห่ศพกดดัน

"นำศพประท้วงขอให้ สนธิรับข้อเสนอ จัดการป่วนใต้"



โจรป่วนใต้อำมหิตไล่ฆ่า-เผาบัณฑิตสาวดับสยองคาถนนรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 11 เม.ย. ร.ต.ต. สรรัชฏก์ ศรีปุณยาภิคุปต์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองยะลา

รับแจ้งมีหญิงสาวถูกฆ่าตาย

บนถนนสายบ้านลิมุด-ยุโปบ้านสาคอ หมู่ 4 ต.ท่าสาป จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยทัต อินทนูจิตร รอง ผบก.พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก. ไปตรวจสอบ พบศพหญิงสาวในสภาพถูกไฟไหม้

เกรียมร่างหงิกงอดำเป็นตอตะโก

หน้าท้องแตกไส้ทะลักตายสยดสยองคาซากรถ จยย.ยี่ห้อไทเกอร์ ทะเบียน กมย 666 ยะลา ในสภาพถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน ทราบชื่อ น.ส.พัชราภรณ์ บุญมาศ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 1 บ้านยุโป ต.ยุโป

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า

น.ส.พัชราภรณ์ผู้ตาย เป็นหลานสาวของ พ.ต.ท.ประภาส บุญมาศ อดีต รอง ผกก.ป.สภ.อ.กรงปินัง จบการศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และได้รับปริญญาบัตรเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และทำงานอยู่ที่ร้านธนภัทร

สถานที่รับตรวจสภาพรถยนต์

ใกล้ห้าแยกถนนผังเมือง 4 เขตเทศบาลนครยะลา ก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถ จยย.จะไปทำงาน ถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้าย 4 คน ขี่รถ จยย. 2 คันไล่แซงประกบใช้ปืนพกจ่อยิง 6 นัดซ้อน ล้มกลิ้งแล้วใช้น้ำมันเบนซินราดจุดไฟเผาซ้ำอย่างโหดเหี้ยม แล้วหลบหนีไป



สำหรับคนร้ายกลุ่มนี้ คาดว่าเป็นกลุ่มเดียว

กับที่ก่อเหตุฆ่า-เผานายจำนง ชูพัฒนพงศ์ อายุ 59 ปี ผอ.ร.ร.บ้านบาโด และนายมนูญ ศรีแก้ว อายุ 53 ปี ผช.ผอ.โรงเรียนเดียวกันขณะขับรถกระบะไปโรงเรียน เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา และยังไล่ยิง

พ.ต.ท.ประภาส บุญมาศ ลุงของ น.ส.พัชราภรณ์บาดเจ็บสาหัส

เมื่อเย็นวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้ พ.ต.ท.ประภาสยังนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล กระทั่งมาไล่ฆ่า-เผา น.ส. พัชราภรณ์ หลานสาวเสียชีวิตอย่างสยดสยอง

ต่อมาบ่ายวันเดียวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดยะลา

ได้มีประชาชนในพื้นที่ ต.ยุโป และ อ.เมืองยะลา กว่า 500 คน นำศพ น.ส.พัชราภรณ์ บุญมาศ เหยื่อโจรใต้ฆ่า-เผามาประท้วงและเรียกร้องขอพบ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช.ที่เดินทางมาประชุมหน่วยงานความมั่นคงบนศาลากลางจังหวัดยะลา

จากนั้นได้จัดตัวแทนเข้าพบ พล.อ.สนธิที่ห้องประชุมชั้น 3

พร้อมยื่นข้อเสนอถึงนายกรัฐมนตรี 3 ข้อ คือ 1. ขอให้มีการเพิ่มกำลังคนของผู้ใหญ่บ้านเป็นอาสาสมัครหมู่บ้านละ 15 คน 2. ให้กำลังทหารอยู่ประจำต่อไปอย่าให้ย้ายออก 3. เมื่อจับผู้ต้องหาแล้วห้ามปล่อยตัวเด็ดขาด พล.อ.สนธิรับข้อเสนอ และมอบหมายให้ พ.อ. ชินวัตน์ แม้นเดช ผบ.ฉก.1 ยะลา รับเรื่องไปดำเนินการ

รายงานแจ้งว่า หลังเข้าพบ พล.อ.สนธิ และญาตินำศพ

น.ส.พัชราภรณ์กลับไป รพ.ศูนย์ยะลา ปรากฏว่า ชาวบ้านบางส่วน รวมทั้งชาวบ้านจากต่างพื้นที่ทยอยกันมาสมทบประมาณ 500 คน เรียกร้องให้นายธีระ มิน-ทราศักดิ์ ผวจ.ยะลา ออกมาพบ



แต่นายธีระติดภารกิจไม่สามารถมาพบกับผู้ชุมนุมได้

ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจตะโกนโห่ร้องด้วยความไม่พอใจ และปักหลักชุมนุมพร้อมสับเปลี่ยนกันพูดโจมตีการทำงานของรัฐบาล รวมทั้ง ผวจ.ยะลา กระทั่งถึงช่วงเย็นยังไม่ยอมสลายตัว

จนถึงช่วงค่ำญาติและชาวบ้านนำศพ

น.ส.พัชราภรณ์กลับมาประท้วงที่ศาลากลางจังหวัดยะลาอีกครั้ง และตั้งสวดพระอภิธรรมที่หน้าศาลากลางและปักหลักชุมนุมทั้งคืนโดยไม่ยอมสลายตัวจนกว่านายธีระจะยอมเดินทางมาพบกับผู้ชุมนุม

ตอนสายวันเดียวกัน พ.ต.อ.วิศิษฐ์ อักษรแก้วผกก.สภ.อ.รามัน

จ.ยะลา ไปสอบสวนเหตุยิงกันที่บ้านเจาะลีมัส หมู่ 4 ต.อาซ่อง พบศพนายวิรุตม์ มณีประวัติ อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 41/3 หมู่ 4 บ้านสาเมาะ ต.ท่าธง ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดที่กลางหลัง 3 นัด นอนจม เลือดข้างรถ จยย.ยามาฮ่าสีดำ ทะเบียน กกย 455 นราธิวาส

และมีผู้บาดเจ็บชื่อนางสุมล เพ็ชรเชิงเขา อายุ 47 ปี

บ้านเลขที่ 11/3 หมู่ 4 ต.อาซ่อง ถูกยิงที่กลางหลัง 2 นัดอาการสาหัส นำส่ง รพ.รามัน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา สอบพบว่า นายวิรุตม์ขี่รถ จยย.ออกจาก สภ.อ.รามัน หลังจากเสียค่าปรับกรณีทะเลาะกับเพื่อนบ้านโดยมีนางสุมลเป็นญาตินั่งซ้อนท้าย ถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้าย 2 คนขี่รถ จยย.ประกบยิง

ก่อนหน้านั้นเวลา 07.45 น. ร.ต.ต.ชาญยุทธ พวงสั้น

ร้อยเวร สภ.อ.ธารโต จ.ยะลา ไปสอบสวนเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผาบ้านเลขที่ 169 หมู่ 2 ต.ธารโต ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวของนายอาแว แบรูแล อายุ 44 ปี จนวอดเสียหายทั้งหลัง



สำหรับบ้านหลังดังกล่าวได้รับการซ่อมแซม

ตามโครงการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้ติดตราโล่ตำรวจไว้หน้าบ้าน คาดทำให้กลุ่มคนร้ายไม่พอใจหาโอกาสบุกเผาวอดวาย

ด้าน จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 07.30 น.

ร.ต.อ.ณรงค์ชัย ละมุล หัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตชด. กองร้อย 447 บ้านเจาะวา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ไปตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยวางอยู่โคนเสาไฟหน้าร้านซ่อมรถ จยย.ติดกับฐานตรวจ ตชด.มว.2202

ตรงข้ามโรงเรียนบุณยลาภนฤมิต ถนนประชาวิวัฒน์

เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก พบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุกล่องเหล็กน้ำหนัก 5 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ คาดว่าคนร้ายต้องการสังหารเจ้าหน้าที่ ตชด. แต่โชคดีถูกตรวจพบเห็นเสียก่อนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาเก็บกู้

ถัดมาเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.สุกิจ ขำมาก สว.นปพ.ภ.

จ.นราธิวาส นำชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เหยี่ยวดง ไปตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยซุกใต้เพิงขายขนมจีนชื่อภูเก็ต เยื้องสำนักงานกองทุนสงเคราะห์สวนยาง ถนนระแงะมรรคา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส

ซึ่งเป็นร้านของนางวรรณศิริ ศรีอ่อนนวล อายุ 37 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 58/2 ถนนประชาภิรมย์ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส พบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุกระป๋องสีทรงกลม น้ำหนัก 5 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ จึงเก็บกู้ไว้ได้ คาดว่าคนร้ายลอบนำมาวาง เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่และประชาชนที่มากินขนมจีนแต่โชคดีเจ้าของร้านพบเสียก่อน



ต่อมาเวลา 15.45 น. ร.ต.ต.วรพงษ์ กล่อมสกุล

ร้อยเวร สภ.อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งจาก รพ.รือเสาะ ว่ามีคนถูกยิงบาดเจ็บมารับการรักษา ไปสอบสวนทราบชื่อนายมะยี เจ๊ะมะ อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 4 หมู่ 1 บ้านท่าเรือ ต.รือเสาะ ถูกยิงด้วยปืน .38 ที่หน้าอกและแขนซ้าย 2 นัด

และนายซือฮาซัน มูซอปาออ อายุ 20 ปี

บ้านเลขที่ 91 หมู่ 8 ต.บาตง อ.รือเสาะ ถูกยิงที่ขา 2 นัดอาการสาหัส ต่อมาแพทย์นำส่ง รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ สอบพบว่าคนเจ็บทั้ง 2 ถูกคนร้ายลอบยิงขณะขี่รถ จยย. กลับจากธุระที่ถนนบ้านโคกสะตอ ต.บาตง

ส่วน จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 09.00 น.

ร.ต.ต.ดุษฎี ศีลตระกูล ร้อยเวร สภ.อ.ยะรัง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุระเบิด บนถนนสายปัตตานี-ยะลา หมู่ 5 บ้านปอซัน ต.ปิตุมุดี จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก.

ไปตรวจสอบพบกองวัสดุก่อสร้างบ้าน

ริมถนนและชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องกระจายเกลื่อน สอบพบว่าขณะที่นายณรงค์ หระแก้ว อายุ 32 ปี ขับรถตู้ทะเบียน นข 575 ปัตตานี ของสำนักงานสรรพากรจังหวัดปัตตานี พาเจ้าหน้าที่สรรพากร 5 คน

เดินทางจากบ้านพักไปยังสำนักงานสรรพากรจังหวัดปัตตานี

ถึงที่เกิดเหตุนายณรงค์ขับแซงรถเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวน จังหวะนั้นคนร้ายกดชนวนระเบิดที่ฝังดักไว้ริมบริเวณกองวัสดุก่อสร้างริมถนนระเบิดขึ้น ทำให้ตัวรถพังเสียหาย ส่วนนายณรงค์คนขับและเจ้าหน้าที่สรรพากรอีก 2 คน คือ



ม.ล.ธานุวัฒน์ ศรีธวัช อายุ 45 ปี

หัวหน้าฝ่ายกฎหมายฯ และ น.ส.สมพิศ บุญปก อายุ 33 ปี ถูกสะเก็ด ระเบิดบาดเจ็บรวม 3 คน แต่นายณรงค์แข็งใจขับรถหนี พาคนเจ็บไปรักษาที่ รพ.ยะรัง

ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคง

ภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และ ประธานคมช. เดินทางมาประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงประกอบด้วย ผอ.ศอ.บต. แม่ทัพภาคที่ 4 ผบช. 9 ผวจ.ยะลา นราธิวาส ปัตตานี

ผู้นำชุมชน และนักการเมืองท้องถิ่น

เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานตลอดจนการรับฟังความคิดเห็นและแนวทางในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ พล.อ.สนธิกล่าวว่า การประชุมผู้เกี่ยวข้องครั้งนี้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและชี้แจงให้เข้าใจถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

เพราะที่ผ่านมากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบพยายามสร้างสถานการณ์

และปลุกปันประชาชนว่าเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมืองท้องถิ่นในฐานะที่ใกล้ชิดกับประชาชน จึงจะต้องเข้าใจและไปชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบ

พล.อ.สนธิยังกล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบ

ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่ามีสถิติลดลง แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งมีความรุนแรงมากขึ้น โดยกลุ่มคนร้ายพยายามที่จะสร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นกับประชาชน ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายกำลังหวั่นวิตกว่า



สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น

จะกลายเป็นสงครามศาสนาหรือไม่นั้น ทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว ขอให้ทุกคนใช้ความอดทนอดกลั้นในการปฏิบัติงาน อย่าหลงทางจนตกไปเป็นเครื่องมือของกลุ่มก่อความไม่สงบจนนำไปสู่ความขัดแย้ง

ส่วนการปฏิบัติงานโดยเฉพาะในพื้นที่

ที่มีการประกาศเคอร์ฟิว เจ้าหน้าที่ได้กดดันกลุ่มก่อความไม่สงบด้วยการปิดล้อม ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจนนำไปสู่การจับกุม และตรวจยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ได้มากขึ้น

ต่อมาเวลา 15.30 น. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

ผบ.ทบ. และประธาน คมช. นำคณะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังสนามกีฬาเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา โดยมีข้าราชการทหาร ตำรวจ รอต้อนรับ จากนั้นเดินทางไปยังด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย

เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพลและรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น

จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลที่จุดตรวจศูนย์อำนวยการร่วมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ซึ่งตั้งอยู่ถนนสาย 410 ยะลา-เบตง รวม 2 จุดก่อนเดินทางกลับ

รายงานแจ้งว่า เมื่อเวลา 16.20 น.

วันที่ 11 เม.ย. ขณะที่นายยะโก๊ะ มาแซ อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านปะลุ-กาแปเราะ อยู่บ้านเลขที่ 170 หมู่ 7 ต.ปาลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส พร้อมชาวบ้านประมาณ 4-5 คน กำลังชำแหละเนื้อวัวเพื่อเตรียมงานทำบุญเมาลิด



บริเวณข้างบ้าน ระหว่างนั้นมีคนร้าย 2 คน

ขี่รถ จยย.มาจอดหน้าบ้าน แล้วคนซ้อนท้ายเดินลงมาใช้ปืน 11 มม.จ่อยิงท้ายทอยนายยะโก๊ะล้มทรุดขาดใจตายคาที่ ท่ามกลางความตกตะลึงของชาวบ้าน ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุเดินอย่างใจเย็นไปขึ้นรถ จยย.ที่เพื่อนติดเครื่องรอบึ่งหนีไป

วันเดียวกัน พ.ต.อ.จีระวัฒน์ อุดมสุด ผกก.สภ.อ. เมืองสงขลา

และ พ.ต.ต.ถาวร ผลกล้า สวป.สภ.อ.เมืองสงขลา นำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารเข้าจับกุมตัวนายมูฮำหมัด หวันหวัง อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี

ในข้อหาร่วมกับพวกก่อความไม่สงบในพื้นที่ ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์

ขณะกบดานในบ้านเลขที่ 233/2 ชุมชนเก้าเส้ง ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา ขณะเดียวกันคุมตัวผู้ต้องสงสัยอีก 3 คนไปสอบขยายผล



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์