บึ้มรถตู้ สนง.สรรพากรปัตตานี

"คนร้ายลอบวางระเบิดรถตู้ เจ็บ 5 ราย"



ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถตู้ราชการของกรมสรรพากร จ.ปัตตานี เหตุเกิดบริเวณถนนสาย 410 ปัตตานี - ยะลา บ้านบาตะแอ ต.ประจัน อ.ยะรัง เบื้องต้นมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม

เหตุระเบิดรถตู้เจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพกร จังหวัดปัตตานี พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก. พร้อมกำลัง ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกองทรายริมถนนที่ใช้ก่อสร้างบ้านของประชาชนกระจายทั่วบนถนน

และพบชิ้นส่วนวงจรประกอบระเบิด

เหล็กเส้นสเก็ตระเบิด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนรถคันเกิดเหตุอยู่ที่ รพ.ยะรัง เนื่องจากช่วงเกิดเหตุได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้กั้นบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อให้ชุดวิทยาการมาตรวจสอบ

แล้วจึงรุดไปที่ รพ.ยะรัง

พบรถตู้สีขาวของสำนักงานสรรพากร จังหวัดปัตตานี ทะเบียน นข 575 ปัตตานี จอดอยู่ตรวจสอบพบว่าบริเวณด้านซ้ายของรถถูกสเก็ตระเบิด จนเป็นรูจำนวนมาก กระจกแตกทั้งแทบ นอกจากนี้ยังมีเหล็กเส้นสเก็ตระเบิดจำนวนมากอยู่ภายในรถ



สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บมี 3 ราย

แพทย์กำลังให้การรักษา ทราบชื่อ มล.ธานุวัฒน์ ศรีธวัช อายุ 45 ปี หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย สนง.สรรพากรปัตตานี ถูกสเก็ตระเบิดที่ใบหน้า นส.สมพิศ บุญปก อายุ 33 ปี ถูกสเก็ตระเบิดที่ลำตัว

นายณรงค์ หระแก้ว อายุ 32 ปี

ถูกสเก็ตระเบิดที่แขนซ้าย แพทย์ได้ช่วยเหลือปลอดภัยแล้ว ส่วน นส.บุษบา หนูจุล อายุ 42 ปี และ นส.ธิตินันท์ นิตยสุข อายุ 45 ปี ปลอดภัย

ต่อมานายภาณุ อุทัยรัตน์ ผวจ.ปัตตานี

รุดมาเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บทันทีที รพ.ยะรัง สอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่ นายณรงค์ ซึ่งเป็นพนักงานขับรถของสรรพากร จังหวัดปัตตานี ได้พาเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 คนมาจากบ้านพักที่

จ.ยะลาเพื่อมุ่งหน้าที่ทำงานที่สรรมพากรจังหวัดปัตตานี

เมื่อขับมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ นายณรงค์ได้ขับแซงเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารซึ่งกำลังขับขี่รถ จยย. ปรากฏว่าคนร้ายได้กดระเบิดขึ้นทันที ทำให้สเก็ตระเบิดถูกรถตู้ทะลุไปถูกคนที่นั่งอยู่ภายในจนได้รับบาดเจ็บ

นายณรงค์จึงรีบขับรถไปที่ รพ.ยะรัง

ทันที อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เชื่อคนร้ายหวังสร้างสถานการณ์เพื่อจะสังหารเจ้าหน้าที่ทหารที่กำลังลาดตระเวน แต่ระเบิดได้ถูกรถตู้เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์