ร.ต.ท.ปัตตานีใจสลายสูญเสียเมีย-ลูก

13ก.พ.2557 จากเหตุการณ์กลุ่มก่อความไม่สงบชายแดนภาคใต้ยังลงมือก่อเหตุสร้างสถานการณ์รุนแรงต่อเนื่อง
 
ล่าสุดเมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ชาวบ้านและเด็กใน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตพร้อมกับพระภิกษุรวม 4 ศพ  โดยเหตุเกิดขึ้น ขณะชาวบ้าน หมู่ 1 ต.แม่ลาน  ออกมาใส่บาตรพระภิกษุที่บริเวณศาลาบ้านใหม่ ใจกลางหมู่บ้านตามปกติทุกเช้า โดยผู้เสียชีวิตรวม 4 ราย ได้แก่ นางสมใจ  ขุนเกลี้ยง ด.ช.ธิติวัฒน์ ขุนเกลี้ยง (สองแม่ลูก) นางจำเนียร พุทธฤทธิ์ อายุ 59 ปี และพระนม ตานนท์ อายุ 67 ปี (พระสุกิจโต) วัดป่าสวย อ.แม่ลาน

ด้าน นายถมยา ศรีประสม ผอ.สำนักพระพุทธศาสนา จ.ปัตตานี กล่าวว่า
 
เป็นความสูญเสียที่สร้างความเศร้าสลดใจให้ชาวบ้านในพื้นที่อย่างมาก เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นพระ 1 รูปและฆราวาส 3 ราย ในจำนวนนี้เป็นแม่และลูก โดยศพทั้งหมดนำมาตั้งเพื่อบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าสวย

สำหรับวัดป่าสวยมีพระทั้งหมด 5 รูป แต่ละวันจะผลัดเปลี่ยนออกไปบิณฑบาตในพื้นที่หมู่บ้านบ้านใหม่ เป็นประจำทุกวัน
 
เพราะเป็นชุมชนไทยพุทธที่อยู่ใกล้วัด โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยให้ทุกวัน โดยพระพนม ที่มรณภาพนั้นเป็นพระจากนอกพื้นที่เดินทางมาจำวัดอยู่ที่วัดป่าสวยได้เพียง 1 เดือน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าอาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของชาวบ้าน หลังเกิดเหตุสำนักพุทธได้ประสานวัดต่างๆ ในพื้นที่ให้หยุดบิณฑบาตชั่วคราว หรือพิจารณาตามความเหมาะสม เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย แม้จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลก็ตาม

เปิดใจเจ้าอาวาสไม่มีใครสงสัยจะเกิดเหตุ

ด้าน พระครูโสภณธรรมวนากร เจ้าอาวาสวัดป่าสวย กล่าวว่า

พระที่ถูกยิงมรณภาพ เพิ่งจะเดินทางจากวัดธงหงส์ อ.เมือง จ.ระยอง มาจำวัดที่นี่ได้ประมาณ 3 สัปดาห์ แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยมาจำวัดที่ จ.นราธิวาส นานถึง 5 ปี เพราะฉะนั้นท่านจะคุ้นเคยกับบรรยากาศในพื้นที่ดี และที่สำคัญพื้นที่เกิดเหตุเป็นหมู่บ้านไทยพุทธ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นชุมชนเข้มแข็ง ไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงเหมือนพื้นที่อื่น จึงไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุร้าย
 
พระครูโสภณธรรมวนากร  กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นในสวนยางใกล้วัด แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร
 
แต่ก็ได้บอกพระลูกวัดที่มีอยู่ทั้งหมด 6 รูปว่า ให้ระมัดระวังตัว เพราะมีชาวบ้านในพื้นที่เกิดเหตุก็เคยเตือนว่าไม่อยากให้พระบิณฑบาต เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย แต่เนื่องจากเป็นช่วงออกพรรษา พระเองก็ต้องการออกบิณฑบาต

"วันเกิดเหตุพระทุกรูปในวัดก็ออกบิณฑบาต ช่วงที่ออกจากวัดก็มีชาวบ้านเห็นคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ผ่านหน้าวัด แต่ไม่สงสัยหรือเอะใจ เพราะหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านไทยพุทธ" พระครูโสภณธรรมวนากร กล่าว

'ร.ต.ท.'ใจสลายสูญเสีย'เมีย-ลูก'

             
ร.ต.ท.ไวพจน์ ขุนเกลี้ยง  ร้อยเวร สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี สามีนางสมใจและลูกที่เสียชีวิต กล่าวว่า 

ครอบครัวเป็นคนในพื้นที่ตั้งแต่เกิด ในชุมชนมีชาวไทยพุทธอาศัยอยู่รวมกันประมาณ 200 คน มีพี่น้องชาวไทยมุสลิมประมาณ  2 เปอร์เซ็นต์ ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรง ร.ต.ท.ไวพจน์ กล่าวว่า ปกติภรรยาและลูกชอบออกมาทำบุญตักบาตรกับผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน วันเกิดเหตุลูกสาวคนโตออกไปเรียนหนังสือ เหลือเพียง ด.ช.ธิติวัฒน์ อายุ 9 ขวบ และลูกสาวอีกคนอายุ 13 ขวบ ไปตักบาตรกับแม่

"ทุกวันประมาณ 6 โมงครอบครัวจะออกมาตักบาตร ก่อนที่เวลาประมาณ 8 โมงภรรยาจะออกไปทำงานซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 2-3 กิโลเมตร และกลับเข้าบ้านตอน 4 โมง ส่วนตนเองนั้นต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่นอกพื้นที่ ทำให้นานๆ ทีจะกลับมาพบกับครอบครัว กระทั่งเช้าวันนี้มีโทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่าภรรยาและลูกถูกยิง ในฐานะหัวหน้าครอบครัวผมแทบทรุดหมดเรี่ยวแรง" ร.ต.ท.ไวพจน์ กล่าว
 
ร.ต.ท.ไวพจน์  กล่าวอีกว่า ในฐานะตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่มาตลอดเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นฝีมือของแนวร่วมที่ต้องการสร้างสถานการณ์ เพื่ออ้างความชอบธรรมกรณีเหตุการณ์ยิงเด็ก 3 ศพที่ อ.บาเจาะ ซึ่งเป็นการอ้างที่ผิดมาก เพราะเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี

"หลังจากนี้ก็ต้องดูแลกันต่อไป ไม่ย้ายบ้านหนีไปไหนแน่ เพราะเราเกิดที่นี่ อยู่ที่นี่ หากจะตายก็ตายที่นี่ และขอร้องเป็นครั้งสุดท้ายว่าอย่าฆ่าใครอีกเลย"  ร.ต.ท.ไวพจน์ กล่าว

เด็กหญิงลูกสาวของสองแม่ลูกที่เสียชีวิตเล่านาทีวิกฤติว่า ปกติจะไปร่วมใส่บาตรเป็นประจำทั้งครอบครัว 5 คน

ขณะที่วันนี้มีเพียง 3 คน ตอนคนร้ายยิง รู้สึกกลัว และตกใจ ทุกคนหมอบ แต่ตนเองวิ่งหนีสุดชีวิตไปหลบหลังแท็งก์น้ำประปาหมู่บ้าน  พอรู้ว่าแม่และน้องชายเสียชีวิตรู้สึกเสียใจมาก แต่โชคดีที่ยังเหลือพี่สาวกับพ่อ