เมื่อถามว่ามั่น ใจในพยานหลักฐานว่าจะเอาผิดได้หรือไม่ ผบช.ภาค 4 กล่าวว่า
ตำรวจทำงานในรูปของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน มีผู้บังคับบัญชาระดับรองผบช.เป็นหัวหน้า และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ดูแลสั่งการอย่างใกล้ชิด คณะพนักงานสอบสวนรวมถึงตนมั่นใจว่ามีหลักฐาน เพียงพอเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้อย่างแน่นอน
ต่อข้อถาม สาเหตุการก่อเหตุ ผบช.ภาค 4 กล่าวว่า ขอให้เจ้าหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดทั้งหมดมาสอบสวนก่อนจึงจะสรุปประเด็นได้ พนักงานสอบสวนจะตัดสินว่าเป็นเรื่องใดต้องมีความชัดเจน ส่วนการตรวจสอบอาวุธปืนอาก้าของนายมะดือนังนั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
รายงาน ข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากทีมสืบ สวนสอบสวนคลี่คลายคดี
นำโดย พล.ต.ต. สุรพล พินิจชอบ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รองผบช.ภาค 4 พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.สส.ภาค 4 รวบรวมพยานหลักฐานทั้งภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดจุดที่พักริมน้ำ รีสอร์ต และบายพาสรีสอร์ต จ.อุดรฯ จุดกดเงินตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย บริเวณสี่แยกสามพร้าว จ.อุดรฯ ที่สามารถบันทึกภาพผู้ต้องสงสัย และรถยนต์กระบะที่ใช้ก่อเหตุทั้ง สองคัน
นอกจากนี้ยังสอบ พยานปากสำคัญกว่า 20 ปาก จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานส่งมอบพนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่
นำโดยพล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ผบก.ภ.จ.อุดรฯ พ.ต.อ.จักรกฤษณ์ จันทรรัตน์ พ.ต.อ.สุรินทร์ ชัยชมภู รองผบก.ภ.จ.อุดรฯ พ.ต.อ.ศักดิ์ดา เหมือนโพธิ์ พงส.ผชช.(เทียบเท่ารองผบก.) พ.ต.อ.ชวนชัย ชนะบัว พงส.ผทค. พ.ต.อ. ณัฐนนท์ ประชุม ผกก.สส.ภาค 4 พ.ต.ท. ณภัทร จูมวันทา พ.ต.ท.บรรจง ชาสังข์ และพ.ต.ท.จรัล โคตรประทุม พงส. นำมาสู่การขอหมายจับกุมและได้รับอนุมัติจากศาลจังหวัดอุดรฯออกหมายจับกุม กลุ่มผู้ต้องหา ดังนี้
1.หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.33/ 2557 ลงวันที่ 7 ก.พ.2557 ความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ ได้ ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วม กันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ เข้าไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันใช้อาวุธปืนฯ? จึงให้จับตัว ร.ต.ปรัชญา จันทร์รอดภัย
2.หมายจับศาลจังหวัด อุดรธานี ที่จ.34/ 2557 ลงวันที่ 7 ก.พ.2557 ความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นฯ จึงให้จับตัว จ.ส.อ. มาวิน ยางบัว 3.หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 35/2557 ลงวันที่ 7 ก.พ.2557 ความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นฯ จึงให้จับตัว จ.ส.ท.วิโรจน์ พิมพ์สิงห์ 4.หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 36/2557 ลงวันที่ 7 ก.พ. 2557 ความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นฯ จึงให้จับตัว ส.อ.ชานนท์ ทับทิมทอง
5.หมาย จับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 37/2557 ลงวันที่ 7 ก.พ.2557 ความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นฯ จึงให้จับนายมะดือนัง มะแซ โดยผู้ต้องหารายนี้ถูกจับกุมตัวไว้แล้ว และอยู่ในระหว่างสอบสวนดำเนินคดี โดยพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัว อ้างเหตุผลในเรื่องของความปลอดภัยของพยานและการหลบหนี
6.หมาย จับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 38/2557 ลงวันที่ 7 ก.พ.2557 ความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นฯ จึงให้จับตัว บุคคลมีเพียงภาพใบหน้า ยังไม่ระบุชื่อชัดเจน และ 7.หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 39/2557 ลงวันที่ 7 ก.พ.2557 ความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่า ผู้อื่นฯ จึงให้จับตัว บุคคลมีเพียงภาพใบหน้า ยังไม่ระบุชื่อชัดเจน
รายงานข่าวแจ้ง ว่า สำหรับรายชื่อและต้นสังกัดของกลุ่มผู้ต้องหามีรายละเอียดดังนี้ 1.ร.ต.ปรัชญา จันทร์รอดภัย สังกัดม.พัน 19
ค่ายสุรสีห์ พล.ร. 9 จ.กาญจนบุรี, 2.จ.ส.อ. มาวิน ยางบัว สังกัดม.พัน 19 ค่ายสุรสีห์ พล.ร. 9, 3.จ.ส.ท.วิโรจน์ พิมพ์สิงห์ สังกัดม.พัน 19 พล.ร. 9, 4.ส.อ.ชานนท์ ทับทิมทอง สังกัดกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 9 พล.ร.9 5.นายบรรจง จันทราทอง และ 6.ชายไม่ทราบชื่อ
ทั้งนี้ จ.ส.ท.วิโรจน์ทำหน้าที่ยิงนาย ขวัญชัยร่วมกับนายมะดือนัง ส่วนนายบรรจง อยู่ระหว่างพิสูจน์ตัวบุคคลให้แน่ชัดอีกครั้ง โดยใช้ชื่อนี้เป็นผู้เปิดห้องพักรีสอร์ตของกลุ่มมือปืน
วัน เดียวกัน พ.อ.อำนวย จุลโนนยาง เสธ.มทบ.24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรฯ เดินทางเข้าหารือกับพล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ผบก.ภ.จ.อุดรฯ เป็นการส่วนตัว ประมาณ 15 นาที จากนั้นเดินทางกลับ ที่บก.ทบ. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีตำรวจขออนุมัติศาลออกหมายจับกุมทหารสังกัดพล.ร. 9 ผู้ต้องสงสัยคดียิงนายขวัญ ไพรพนา ว่า เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างชั้นสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ขณะนี้ตำรวจมีหนังสือประสานมายังกองทัพบกแล้ว เบื้องต้นตำรวจขอความร่วมมือให้ส่งตัวไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยเป็นกำลังพลของกองทัพบกสังกัดพล.ร.9 จำนวน 4 นาย
รองโฆษก กองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกจะอำนวยความสะดวกให้แก่ตำรวจด้วยการดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกฯ
ว่าด้วยการปฏิบัติและประสานงานกรณีทหารถูกหาว่ากระทำความผิดอาญา พ.ศ. 2544 เหมือนหลายคดีที่ผ่านมา โดยทางหน่วยจะให้นายทหารพระธรรมนูญนำตัวไปให้ปากคำต่อสู้คดี จากนั้นคงเป็นการแก้ต่างทางคดีต่อไป ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ส่วนการควบคุมผู้ต้องสงสัยขึ้นกับข้อตกลงว่าจะให้กองทัพหรือตำรวจควบคุมตัว เช่นเดียวกับการต่อสู้คดีคงเหมือนกับคดีอื่นๆ หากพบว่าทหารทำผิดส่วนตัวก็ต้องไปสู้กันในศาล เมื่อถึงที่สุดและพบว่าผิดจริงก็ต้องให้ออกจากราชการ อย่างไรก็ตามถ้าคดียังไม่สิ้นสุดก็จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ไม่ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
