เรือบรรทุกกะลาปาล์มพุ่งชนศาลานักบุญอันนาพังค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 6 ก.พ. ร.ต.ท.วิวัฒนา กำใจ ร้อยเวร สภ.ย่อยท่าฉลอม สภ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่พุ่งชนศาลาท่านยายอันนา พระแม่มารี ซึ่งปลูกสร้างอยู่บริเวณริมแม่น้ำท่าจีน ภายในวัดนักบุญอันนา (ท่าจีน) สมุทรสาคร ตั้งอยู่เลขที่ 79 หมู่ 4 ต.บางหญ้าแพรก หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศาลาถูกเรือพุ่งชนอย่างแรงจนพังเสียหาย ขณะที่พระรูปนักบุญอันนา ซึ่งสร้างไว้ด้านบนเหนือหลังคาศาลาหลังดังกล่าว ในท่ายืนอย่างสง่างามจับไหล่ของพระนางมารีอา(วัยเด็ก)ขนาดใหญ่ที่สุดใน เอเชีย สูง 8 เมตรเศษ กว้าง 3 เมตร หมุนได้ 360 องศา น้ำหนักประมาณ 3.8 ตัน ได้ก็ล้มลงมา ในลักษณะหลุดจากฐานที่ยึด ศีรษะทิ่มลงกับลานพื้นคอนกรีตแตกหักเสียหาย คงเหลือไว้แต่ของพระแม่มารีอาเท่านั้น
สำหรับเรือบรรทุกสินค้าลำนี้ เป็นเรือเหล็กขนาดใหญ่ใช้เพื่อการบรรทุกสินค้าทางทะเลชื่อ "ไฮฟง 18"
แต่ยังไม่ทราบสัญชาติของเรือที่แน่ชัดเนื่องจากทางกัปตันเรือและผู้ที่ เกี่ยวข้องกับเรือลำนี้ ยังไม่มีใครติดต่อเข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบกับช่วงที่เกิดเหตุเป็นเวลาที่มืดค่ำแล้ว จึงยังไม่สามารถนำเรือเข้าฝั่งได้ ซึ่งก็ได้เพียงแต่แค่ให้นายท่าของท่าเทียบเรือแห่งหนึ่ง ใช้วิทยุสื่อสารประสานไปยังเรือลำก่อเหตุนี้ ให้ลอยลำอยู่ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุก่อนเท่านั้น เพื่อรอการสอบสวนในวันพรุ่งนี้
เบื้องต้นทราบว่า เรือไฮฟง 18 นี้ เป็นเรือที่ใช้บรรทุกสินค้าประเภทกะลาปาล์มจะเข้ามาเทียบท่าที่ที่เรือเซ็น จูรี่ ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
ห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร โดยเรือบรรทุกกะลาปาล์มลำนี้ เพิ่งจะเข้ามาที่ จ.สมุทรสาครเป็นครั้งแรก และขณะที่กำลังผ่านบริเวณโค้งปากแม่น้ำท่าจีนนั้น เครื่องยนต์ของเรือเกิดขัดข้องขึ้นมาอย่างกะทันหัน ประกอบกับความไม่ชำนาญในเส้นทางหรือร่องน้ำของจังหวัดสมุทรสาคร จึงทำให้เรือเสียหลักพุ่งเข้าชนกับศาลาริมน้ำที่ประดิษฐ์พระรูปนักบุญอันนา จนเสียหายทั้งหลัง ซึ่งคาดว่าน่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
ขณะที่นายศรชัย (ไต๋จั๋ง) พันธ์โพธิ์ทอง กัปตันเรือประมงใน จ.สมุทรสาคร บอกว่า ลักษณะของเรือบรรทุกสินค้าลำนี้ น่าจะมีปัญหาขัดข้องที่หางเสือเรือ
ซึ่งถ้าเป็นผู้ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์ในการควบคุมเรือมาอย่างยาวนาน นั้น ถ้าเกิดปัญหาในลักษณะนี้ก็ต้องหยุดเครื่องทันที และต้องทิ้งสมอลอยเรือไว้ก่อน ซึ่งถ้ายังคงฝืนเดินเรือต่อไปก็จะทำให้เรือเกิดอุบัติเหตุในลักษณะเช่นนี้ ได้