ไล่ล่าพาสปอร์ตระวัง...แก๊งขายบัตรคิว

 หลังกลุ่มมวลมหาประชาชนปิดล้อม "ศูนย์ราชการ" หลายแห่งทั่วประเทศนานเกือบ 2 เดือน ผู้ต้องการติดต่อหน่วยงานเหล่านี้ต้องใช้สถานที่สำรองหรือสาขาย่อยแทน โดยเฉพาะ "สำนักงานหนังสือเดินทาง" หรือ สถานที่ทำพาสปอร์ต ซึ่งให้บริการได้ไม่เต็มรูปแบบ ส่งผลเดือดร้อนอย่างหนัก "คม ชัด ลึก" ได้รับการร้องเรียนว่า ชาวบ้านที่ต้องการพาสปอร์ตต้องมาค้างคืน เพื่อรอรับบัตรคิวที่มีอยู่อย่างจำกัด...
 
จากเดิมที่สามารถทำพาสปอร์ตได้ 18 แห่งทั่วประเทศ ปัจจุบันมีเพียง 5 แห่งเท่านั้นที่เปิดบริการ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีเพียงสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ซิตี้ บางนา และอาคารเทสโก้โลตัส สาขาปิ่นเกล้า
 
ช่วงเที่ยงวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสำรวจยังชั้น 5 เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา พบว่า มีประชาชนมาต่อคิวรอจำนวนมาก

ผู้ต่อคิวรอส่วนใหญ่มาช่วงเช้ามืด มีบางกลุ่มมานั่งๆ นอนๆ รอตั้งแต่หลังเที่ยงคืน เพื่อให้ได้บัตรคิวแรกๆ โดยเจ้าหน้าที่จะเปิดให้บริการจริงๆ ตอน 8 โมงเช้า อย่างไรก็ตามช่วงเวลาประมาณ 7 โมงเช้ามีการจัดให้รับ "บัตรคิวชั่วคราว" จากนั้นเวลา 08.00 น. จึงจะเรียกผู้ได้รับบัตรคิวชั่วคราวให้เข้าไปยื่นเอกสารและ "รับคิวบัตรจริง" ก่อนเข้าไปต่อแถวถ่ายรูปทำหนังสือเดินทาง
 
"นิภาพร ธนเดชวัฒนศรี" เล่าว่า วันนี้พาลูกสาวมาทำพาสปอร์ต เพื่อไปเรียนต่อประเทศจีน มาถึงตั้งแต่ 6 โมงเช้า แต่ได้บัตรคิวชั่วคราวเบอร์ที่ 1,111 คิดว่าวันนี้คงสำเร็จ เพราะวันก่อนเดินทางไปขอนแก่น นึกว่าทำได้เร็วกว่า ปรากฏว่าที่นั่นทำได้เพียง 200 เล่มต่อวัน จึงรีบกลับมาทำในกรุงเทพฯ แทน เนื่องจากลูกสาวมีกำหนดเดินทาง 7 มีนาคม รู้สึกกลัวมากว่าจะไม่ทันวันกำหนด
 
เช่นเดียวกับ "วริญญา" คุณแม่ยังสาวพยายามกล่อมลูกน้อยวัย 1 ขวบ

ให้นอนหลับบนหน้าตักระหว่างนั่งรออยู่บนพื้น เธอพาลูกมาทำพาสปอร์ตเพื่อขอวีซ่าไปพม่า มาถึงตั้งแต่ตีห้า เข้าแถวรออยู่ข้างล่าง แต่ก่อนเดินทางมาได้ศึกษาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมีคนเตือนให้มาเร็วๆ ระหว่างนั่งรอก็พูดคุยกับผู้มารอเช่นกัน ทำให้รู้ว่าหลายคนมาทำตั้งแต่เมื่อวาน แต่ไม่สำเร็จต้องมาทำใหม่วันนี้ บางคนมาจากต่างจังหวัดต้องค้างคืนรอเพราะไม่ได้คิว
 
"ธนเสฏฐ์ จิรังคานนท์" เล่าว่า พาลูกค้าขับรถมาจากจันทบุรี มาถึงตีสีกว่า พอตีห้ามายืนรอ ก่อนจะได้บัตรคิวเลขที่ 670 ปกติทำพาสปอร์ตที่จันทบุรีแค่ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ แต่ตอนนี้ที่นั่นทำไม่ได้แล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าระบบออนไลน์ใช้งานไม่ได้  
 
"ผมต้องขับรถจากจันทบุรีมาถึงกรุงเทพฯ เข้าใจว่าสาเหตุเกิดจากการบ้านการเมือง ผมไม่ซีเรียสเท่าไหร่ ทุกคนก็ต้องทำใจรอ แต่คิดว่าเป็นเรื่องชั่วคราว ถ้าคิวเยอะแบบนี้ ทุกคนต้องทำใจ พรุ่งนี้จะพาลูกค้ามาอีก ก็คงมารอตั้งแต่ตีห้าเหมือนเดิม" ธนเสฏฐ์กล่าว
 
ขณะที่พนักงานหญิงบริษัทเอกชนย่านบางนารายหนึ่ง ให้สัมภาษณ์หลังจากใช้เวลา 2 วัน เพื่อไล่ล่าทำพาสปอร์ตเล่มใหม่แทนเล่มเดิมที่หายไป

เริ่มจากเช้าวันจันทร์ 20 มกราคม เดินทางไป สนง.หนังสือเดินทางฯ สาขาบางนา ไปถึง 9 โมงเช้ารู้สึกตกใจมากเพราะมีคนเยอะแยะไปหมด เมื่อติดต่อเจ้าหน้าที่จึงรู้ว่าบัตรคิวแจกหมดแล้ว 1,700 ใบ หากจะทำต้องมารอรับบัตรคิวใหม่ตอนเช้า
 
"ไม่รู้ว่าคนจะมากมายขนาดนี้ วันต่อมาไปสาขาปิ่นเกล้าแทน ไปถึงตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนมายืนต่อแถวเต็มเกือบหมดแล้ว เราไปยืนรอกับพวกเขาด้วย รอนานกว่า 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ค่อยเริ่มแจกบัตรคิวตอน 8 โมงเช้า ได้เบอร์ 700 กว่า แต่ยังดีเพราะสาขานี้ให้ 1,000 คิว บางคนนั่งรถมาจากนครสวรรค์แล้วผิดหวังต้องกลับมาใหม่เพราะไม่มีบัตรคิวให้ สงสารคนต่างจังหวัด เราโชคดีที่นั่งรอไปสักพักมีคนทนไม่ไหวกลับไปก่อน เขาให้บัตรคิวเบอร์ 480 มาแทน กว่าจะทำเสร็จก็ช่วงเที่ยง"
 
พนักงานหญิงข้างต้น กล่าวต่อว่า รู้สึกสงสัยในระบบการทำงานของ สนง.หนังสือเดินทาง ทำไมถึงไม่มีระบบที่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลได้ทั่วประเทศ

ทำไมต้องขึ้นอยู่กับสำนักงานใหญ่อย่างเดียว หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือภัยพิบัติร้ายแรง จะมีคนเดือดร้อนมากกว่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่รู้ว่ามีระบบแบ็กอัพข้อมูล หรือเก็บข้อมูลสำรองหรือไม่ ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าศูนย์ราชการ จะถูกปิดล้อมอีกนานเท่าไร หากเป็นไปได้อยากให้ผู้รับผิดชอบเร่งหาวิธีการบริการประชาชนให้รวดเร็วกว่านี้ เพราะแต่ละวันมีชาวบ้านหลายพันคนกำลังเดือดร้อน
 
ด้าน "ธงชัย ชาสวัสดิ์" อธิบดีกรมการกงสุล อธิบายถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า ในช่วงเวลาปกตินั้นจะมีคนมาทำพาสปอร์ตในแต่ละวันประมาณ 6,000-7,000 กว่าเล่ม

แต่สถานการณ์ตอนนี้ทำได้แค่วันละ 3,650 เล่ม แบ่งเป็นที่บางนา 1,750 เล่ม ปิ่นเกล้า 1,300 เล่ม ขอนแก่น 200 เล่ม และเชียงใหม่ 200 เล่ม เนื่องจากใช้ระบบแบบออฟไลน์ ตามแผนการผลิตในสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อทำเสร็จแล้ว ใครที่อยู่กรุงเทพฯ จะรอรับเล่มพาสปอร์ตประมาณ 10 วัน มีการจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ แต่ต่างจังหวัดอาจต้องรอถึง 1 เดือน เพราะระบบส่งข้อมูลเป็นแผ่นซีดีมาทางเครื่องบิน จึงใช้เวลานานกว่าปกติ กว่าจะใส่ข้อมูลเสร็จสิ้น 
 
"ตอนนี้เครื่องทำหนังสือเดินทางตั้งอยู่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ปกติมี 4 เครื่อง พอถูกปิด ต้องใช้เครื่องที่ศูนย์สำรองแทนมีแค่ 1 เครื่อง นอกจากนี้ จากเดิมเป็นระบบออนไลน์ทั้งหมด ตอนนี้ใช้ระบบออฟไลน์แทน ถ้าเหตุการณ์ยังไม่คลี่คลาย อยากขอความกรุณาให้คนที่ไม่จำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตในช่วงนี้ มาทำวันหลังแทน อยากให้คนที่จำเป็นเร่งด่วนต้องใช้เดือนมีนาคมมาทำไปก่อน"
 
อธิบดีกรมการกงสุลเปิดเผยต่อว่า ตอนนี้มีข่าวลือว่าเล่มพาสสปอร์ตจะหมด เพราะผลิตใหม่ไม่ได้ ขอให้ไม่ต้องกังวลเพราะมีพาสปอร์ตสำรองอยู่ประมาณ 5 ล้านเล่ม รองรับความต้องการได้อย่างน้อย 4 ปี 
 
"ไม่ต้องกลัวว่าพาสปอร์ตจะหมด แล้วรีบมาแย่งกันทำ ปกติมีคนมายื่นเรื่องขอพาสปอร์ตวันละ 6,000 กว่าเล่ม แต่ทุกวันนี้ทำได้แค่ 3,000 กว่าเล่ม ทำให้รอคิวนาน ผมเชื่อว่าช่วงนี้มีคนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 มายื่นเรื่องเพราะความตกใจมากกว่า สำหรับคนที่จะซื้อทัวร์ไปเที่ยวนั้น อยากให้ทำพาสปอร์ตเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยจ่ายเงิน เพราะถ้าซื้อทัวร์ไว้แล้ว คุณทำพาสปอร์ตไม่ทันอาจจะสูญเงินเปล่าก็ได้"
     
อธิบดีกรมการกงสุลฝากเตือนทิ้งท้ายอีกว่า ได้รับการร้องเรียนปัญหาบัตรคิวที่สาขาปิ่นเกล้า เนื่องจากมีมิจฉาฉีพบางแก๊งแอบอ้างขายบัตรคิวปลอม อย่าไปซื้อเด็ดขาด บางคนเสียเงิน

ค่าบัตรคิว 200-1,000 บาท ได้ติดป้ายเตือนแล้ว แต่บางคนอาจไม่ทราบ วิธีสังเกตคือบัตรคิวจริงจะมีเลขบัตรประชาชนกับบาร์โค้ด ลงวันที่ชัดเจน ขอให้อย่าหลงเชื่อแก๊งมิจชาชีพกลุ่มนี้

........................................

(หมายเหตุ : ไล่ล่า'พาสปอร์ต' ระวัง...แก๊งขายบัตรคิว : ทีมข่าวรายงานพิเศษ)