3 ก.พ.57 พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีการใช้อาวุธของทหารในเหตุการณ์ปะทะกันที่บริเวณแยกหลักสี่ ว่า จากเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงที่ผ่านมา พบว่า มีบางคนวิจารณ์ว่า คนใช้อาวุธมีความชำนาญพิเศษและอาวุธที่ใช้คล้ายของทางทหาร เหมือนต้องการชี้นำให้สังคมรู้สึกว่า ทหารอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ขอเรียนว่า อาวุธปืนบางชนิดทั้งปืนพก ปืนคาร์บิน อาวุธสงครามที่เห็นในสื่อนั้น มีใช้กันอยู่หลายหน่วยทั้งทหาร ตำรวจ และประชาชน ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นทหารเท่านั้น
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ขอให้มั่นใจว่ากองทัพบกมีระบบการเก็บรักษาอาวุธที่เข้มงวดมากและการปฏิบัติภารกิจในช่วงนี้จะไม่มีการนำอาวุธติดตัวออกปฏิบัติงาน
แต่สิ่งที่ยังเป็นข้อกังวลและต้องระมัดระวังให้สังคมต้องช่วยกันจับตาดู เพราะมีอาวุธปืนอีกจำนวนหลายกระบอกที่เคยถูกกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยึดไปตั้งแต่การชุมนุมเมื่อปี 53 ซึ่งปัจจุบันยังตามคืนมาได้ไม่ครบ โดยทางกองทัพบกจะได้ประสานผู้เกี่ยวข้องในคดี เพื่อเร่งดำเนินการต่อไป
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุปะทะที่หลักสี่ ทางเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ยืนยันว่า มีการยิงจากหลายทิศทาง
ดังนั้น ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนจะหาข้อสรุปต่อสังคม มิเช่นนั้นอาจส่งผลกระทบเกี่ยวกับการยอมรับและความเชื่อมั่นในการบังคับใช้กฎหมาย ที่สำคัญการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือคดีทุกคดีควรรอให้ผ่านการสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการอย่างถูกต้องก่อนจึงจะนำมาเปิดเผยต่อสังคม ดังนั้น ขออย่าเพิ่งด่วนสรุป เพราะอาจเป็นการขยายความขัดแย้ง โดยกลุ่มผู้ไม่หวังดีอาจนำไปบิดเบือนและจะทำให้เจ้าหน้าที่อาจวิเคราะห์สถานการณ์ไม่ตรงจุด และมีผลต่อความไม่เป็นธรรมขึ้นได้
"ตราบใดที่มีการใช้อาวุธต่อกัน เราต้องพยายามหาความจริงให้ได้ด้วยพยานหลักฐานว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้ อย่างไรก็ตาม อยากขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนว่า หากใครมีภาพถ่ายเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงของกลุ่มไหนก็ตาม สามารถส่งมาที่ศูนย์รวบรวมภาพกองทัพบกได้ที่ email: camcont01@gmail.com หรือโทรศัพท์หมายเลข 083-188-7008 เพื่อเป็นข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ใช้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป" พ.อ.วินธัย กล่าว