เจ้าของภาพแพะยิงนายสุทิน โผล่แสดงตัวปัดไม่มีเอี่ยว

เจ้าของภาพแพะยิงนายสุทิน โร่แจ้งความแสดงตนว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง วอนให้หยุดการกระทำ ขณะที่ ตร.ได้เค้ามือปืนมาจาก จ.สมุทรปราการ

จากกรณีคนร้ายยิงนายสุทิน ธราทิน แกนนำ กปท. เสียชีวิต ที่บริเวณช่วงโค้งวัดศรีเอี่ยม ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ขณะเคลื่อนขบวนมวลชนคัดค้านการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ในพื้นที่เขตบางนา จนเกิดเหตุปะทะเดือดระหว่าง 2 ฝ่าย จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภาพคลิปคนร้ายขณะก่อเหตุ รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 29 ม.ค.ที่สน.บางนา นายสมบัติ ทองย้อย อายุ 46 ปี อาชีพเจ้าของธุรกิจส่วนตัว

อยู่บ้านเลขที่ 8/320 หมู่ 14 ต.บางแก้วอ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.สุรศักดิ์ วิลัยลักษณ์ พนักงานสอบสวนสน.บางนา เพื่อแจ้งความลงบันทึดประจำวันไว้เป็นหลักฐาน จากกรณีที่พบข้อความกล่าวหาบนอินเตอร์เน็ตว่าเป็นคนร้ายยิงนายสุทิน แกนนำกปทซ

นายสมบัติ เปิดเผยว่า ในวันนี้มาแสดงความยืนยันความบริสุทธิ์ใ จและแจ้งเรื่องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบว่า

ตนไม่ได้เป็นคนร้ายยิงนายสุทิน ตามที่ถูกกล่าวหาทางอินเตอร์เน็ต โดยในวันดังกล่าวได้ขับรถยนต์มาเพื่อไปทำธุระ จนมาถึงที่เกิดเหตุและได้ลงไปดูสถานการณ์ จนพบเห็นชายใส่เสื้อลายทหาร มีทีท่าจะทำร้ายประชาชน จึงเข้าไปห้ามปราม และแยกออกมา ในขณะนั้นสื่อมวลชน ได้บันทึกภาพของต นและกล่าวหาไปว่าเป็นคนร้ายที่ยิงนายสุทินแกนนำกปท

"จึงต้องมาแสดงความยืนยัน เพื่อให้ประชาชนรับทราบถึงความจริงว่า ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุม หรือยิงนายสุทิน ตามที่ถูกกล่าวหา และขออยากวิงวอนให้ทางสื่อออนไลน์ที่แสดงเนื้อหาข่าวและภาพว่าตนเป็นคนร้าย ให้หยุดการกระทำ และควรไตร่ตรองก่อนการนำเสนอ พร้อมวิงวอนให้หยุดการแชร์ภาพดังกล่าว ทั้งนี้รู้สึกว่าเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและธุรกิจส่วนตัว “นายสมบัติกล่าวทิ้งท้าย

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้แจ้งความแสดงตนไว้ก่อน เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และหากสื่อออนไลน์ยังเผยแพร่ภาพอยู่ผู้เสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ ตามกฎหมายต่อไป

 สำหรับความคืบหน้ากรณีเหตุปะทะจนทำให้นายสุทิน เสียชีวิตมีรายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้เรียกพยานที่เกิดเหตุมาสอบปากคำ เพื่อพิสูจน์ทราบชี้ตัวบุคคลตามภาพคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ เพื่อระบุว่าแต่ละคนเป็นฝ่ายใคร และมาจากไหน เพื่อนำมาลำดับเหตุการณ์ รวมทั้งระดมลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุทั้งหมดมารวบรวม ไว้เป็นหลักฐานด้วย ทั้งนี้จ ากแนวทางการสืบสวนทราบกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุมาจาก จ.สมุทรปราการอย่างไรก็ตามต้องให้เวลากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน เพื่อนำคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.