รวบหนุ่มใหญ่ขโมยกางเกงในนักกีฬาชาย อึ้ง! ของกลางคารถนับร้อยตัว

รวบหนุ่มใหญ่ขโมยกางเกงในนักกีฬาชาย อึ้ง! ของกลางคารถนับร้อยตัว

 เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 29 ม.ค. ร.ต.ท.ไพบูลย์  แก้วมณี พงส.สน.หัวหมาก รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ว่าได้จับกุมตัวชายต้องสงสัยก่อเหตุลักขโมยกางเกงชั้นในของนักกีฬาพาราลิมปิกเป็นจำนวนมาก จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ

 ที่เกิดเหตุบริเวณประตูทางออกใกล้สระว่ายน้ำ

พบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังช่วยกันจับกุมตัวชายทราบชื่อภายหลังนายพชร แสงโสรจสุข อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ซอยลาดพร้าว 135 (สุขสันต์ 4) แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ พร้อมของกลางเป็นกางเกงชั้นในของผู้ชายหลายสิบตัว กระจัดกระจายอยู่ภายในรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเอสเคป สีบรอนทอง ทะเบียน ษฐ 1332 กรุงเทพมหานคร จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

 จากการสอบสวน นายอัคราชัย พิมพ์ทอง อายุ 40 ปี นักกีฬายิงธนูพาราลิมปิก ทีมชาติไทย

ซึ่งพักอยู่บริเวณหอพักนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ชั้น 1 อาคาร 7 สระว่ายน้ำ ภายในสนามราชมังคลากิฬาสถาน ทราบว่า ช่วงก่อนหน้านี้พบว่ากางเกงชั้นในของตนและบรรดาเพื่อนนักกีฬา ที่ตากไว้บริเวณหอพัก มักหายไปประจำ ทีแรกก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่หลังจากกลับจากการแข่งขันอาเซียน พาราเกมส์ ครั้งที่ 7 ณ กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า พบว่ามีกางเกงชั้นในหายไปถี่ขึ้น จึงตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีคนนอกมาขโมยกางเกงในไปจึงได้คอยสังเกตบุคคลภายนอกที่เข้ามาภายในหอพัก

 กระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา พบเห็นผู้ต้องหาเข้ามาเดินป้วนเปี้ยนที่บริเวณหน้าห้องน้ำที่ตากกางเกงชั้นในเอาไว้

และขโมยกางเกงในที่ตากไว้ไป จึงร้องตะโกนให้เพื่อนนักกีฬาช่วยกันจับตัว แต่ผู้ต้องหาไหวตัววิ่งหลบหนีไปได้ก่อน จึงได้วางแผนโดยการนำกางเกงชั้นในของเพื่อนนักกีฬา มาแขวนตากโชว์เพื่อเย้ายวนใจผู้ต้องหาอีกครั้งโดยจัดเวรยามเฝ้าดู

 กระทั่งเวลา 23.00 น. พบผู้ต้องหาขับรถยนต์ฟอร์ด รุ่นเอสเคป สีบรอนซ์ทอง มาจอดบริเวณข้างหอพัก

 ลักษณะมีพิรุธก่อนทำทีเดินลงมาบริเวณที่ตากชั้นในไว้แล้วหยิบกางเกงในที่ตากไว้วิ่งขึ้นรถขับหลบหนี จึงได้ขับรถจักรยานยนต์ดัดแปลงสำหรับคนพิการขับขี่ไล่ตาม พร้อมทั้งโทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บริเวณประตูด้านหน้า ให้ช่วยสกัดจับ ก่อนจะสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ จากการตรวจสอบภายในรถพบกางเกงในผู้ชายจำนวนนับร้อยตัวจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่

 จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุลักขโมยกางเกงในไปจริง โดยอ้างว่าต้องการนำไปใส่เอง อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาขโมยทรัพย์สิน รวมทั้งจะรอผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติมเพื่อรวบรวมสำนวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฏหมายต่อไป