การ์ดคปท.ตรวจค้นเจอวัตถุประกอบระเบิดทั้งปุ๋ยยูเรีย ถ่าน เจล ระเบิดควัน ฯลฯ ซุกในเต็นท์จุดชุมนุมคปท. คาดมือดีเเฝงตัวเข้าก่อเหตุรุนแรง
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 ม.ค. นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษาเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทยหรือคปท. ได้เดินตรวจสอบแนวบังเกอร์และแนวกระสอบทรายโดยรอบพื้นที่การชุมนุมของกลุ่ม ผู้ชุมนุม คปท. บริเวณถนนนครปฐม และกำชับการ์ดคปท.ที่อยู่ประจำจุดให้เฝ้าระวังดูความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งสั่งเพิ่มแนวตาข่ายและแนวกระสอบทรายเพิ่มโดยรอบ ภายหลังจากช่วง 22.00 น. วันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายปาประทัดยักษ์เข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณจุดดังกล่าว ทำให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย รวมถึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เพื่อขอให้การ์ดคปท.ขึ้นไปเฝ้าสังเกตการณ์บนตึกกพร.ด้วย เนื่องจากมีผู้ไม่หวังดีก่อเหตุป่วนเวทีคปท.หลายครั้ง
จากนั้นเวลา 11.00 น. นายสิทธิ บุญมี เจ้าพนักงานปราบปรามการทุจริตชำนาญการ
ตัวแทนสำนักงาน ป.ป.ช.ลงพื้นที่มาพูดคุยกับนายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าการ์ด คปท. โดยยืนยันว่าป.ป.ช.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุปาประทัดยักษ์เมื่อคืนนี้ และไม่ได้เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าไปภายในอาคารสำนักงานป.ป.ช.ตั้งแต่กลุ่ม คปท.เริ่มมีการชุมนุม
ขณะที่นาย วิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะ โฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้แจงกรณีที่มีการเสนอข่าวมีผู้ไม่หวังดีปาประทัดยักษ์มาจากฝั่ง สำนักงาน ป.ป.ช.
ถนนพิษณุโลก มาตกที่เวทีคปท.ว่า สำนักงานป.ป.ช.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น สรุปได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดในเวลา 23.00 น. โดยมีบุคคลแอบลักลอบเข้ามาในพื้นที่สำนักงานกพ.และปาประทัดยักษ์ 1 นัด ที่บริเวณธนาคารกรุงเทพสาขาสำนักงาน ก.พ.ซึ่งอยู่ติดกับสำนักงาน ป.ป.ช. จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีกประมาณ 100 นัด ซึ่งคาดว่าเป็นการยิงขู่ขึ้นฟ้าเพื่อเปิดทางให้มือปาประทัดยักษ์หลบหนีทั้ง นี้สำนักงาน ป.ป.ช.ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพิ่มจุดติดไฟฟ้าส่อง สว่างของสำนักงานป.ป.ช. ถนนพิษณุโลก เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ
ต่อมาเวลา 12.00 น. นายนัสเซอร์ พร้อมด้วย นายกิตติชัย ใสสะอาด คณะทำงานด้านความปลอดภัย คปท. แถลงว่า
ภายหลังจากเกิดเหตุผู้ไม่หวังดีลอบปาประทัดยักษ์ ฝ่ายรักษาความปลอดภัยคปท.ได้มีการตรวจสอบพื้นที่ชุมนุมอย่างละเอียด กระทั่งสามารถควบคุมตัวชายต้องสงสัยอายุประมาณ 25-30 ปี ได้ลักลอบนำอุปกรณ์ ซึ่งคาดว่าเป็นสารตั้งต้นในการทำระเบิด อาทิ ปุ๋ยยูเรีย ถ่านไร้ควัน เจล เทียนไข รวมถึงแก๊สน้ำตา ระเบิดควัน และกระสุนยาง 14 นัด เข้ามาในพื้นที่ชุมนุม โดยซุกซ่อนไว้ในเต็นท์หลังหนึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มที่ต้องการสร้างสถานการณ์ และทำลายความน่าเชื่อถือให้พื้นที่คปท.เป็นพื้นที่อันตราย เนื่องจากเวที คปท.ที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ไม่ได้อยู่ในแผนขอคืนพื้นที่ของศูนย์รักษาความ สงบ(ศรส.)โดยวัตถุทั้งหมดได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามา ตรวจสอบแล้ว
สำหรับมาตรการการรักษาความปลอดภัย หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบที่เข้มข้นมากขึ้น
เบื้องต้นได้ประสานขอสุนัขตำรวจ หรือสุนัขทหารเข้ามาช่วยพิสูจน์ดมกลิ่นวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่ส่วนการปิด ด่านเข้าออกจะเป็นไปตามสถานการณ์หากเหตุการณ์ปกติก็จะให้รถของผู้ชุมนุมเข้า มาในพื้นที่โดยตรวจสอบอย่างละเอียดพร้อมทั้งยืนยันว่าจะดูแลความปลอดภัยของ ผู้ชุมนุมอย่างดีเพื่อให้มีกำลังใจสู้เพื่อความถูกต้องต่อไป.