ตร.เตรียมนำพี่นักการเมืองดังลอบขนไม้พะยูงฝากขัง

ตร.เตรียมนำพี่นักการเมืองดังลอบขนไม้พะยูงฝากขังศาลแขวงนครราชสีมา 29 ม.ค. ขณะที่เจ้าตัวกับพวกยังปฏิเสธทุกข้อหา

จากกรณีที่นายสุเชษฐ อัตถาวงศ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 349 หมู่ 4 ต.เฉลียง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา

ซึ่งเป็นพี่ชายของนักการเมืองชื่อดังรายหนึ่งของพรรคเพื่อไทย ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันมีไม้แปรรูปหวงห้าม(พะยูง) ไว้ในครอบครองโดยไม่ ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และ ร่วมกันกระทำผิดฐานผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินเพื่อประโยชน์อื่นใด แก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ( กก.สส.2 บก.สส.ภ.3) นำโดย พ.ต.อ.พลอย พิมพิสาร ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.3 และนายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการส่วนยุทธการป้องกันและปราบปรามศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปราม การลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ป่ามรดกโลกป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ( ศปพ.อส.) พร้อมกำลังจับกุมได้บนถนนสายมาบกราด –โคกกระชาย ปากทางเข้าหมู่บ้านลำเพียก ต.ลำเพียก อ.ครบุรี ตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา และพยายามใช้เงินสด 1.5 ล้านบาท ติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อแลกอิสรภาพ แต่ถูกซ้อนแผนจับกุม พร้อมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดอีก 6 ราย ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 28 ม.ค. นายสุเชษฐ อัตถาวงศ์ ผู้ต้องหา พร้อมพวก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ครบุรี

โดยมี พ.ต.ท.พัฒนา แทนพลกรัง พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.ครบุรี เป็นผู้สอบปากคำ โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและยืนยันที่จะ ให้การในชั้นศาลเท่านั้น ขณะที่บรรยากาศในช่วงสายวันนี้มีบรรดาญาติของนายสุ เชษฐ ได้เดินทางมาสอบถามถึงการยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัวผู้ต้องหาแต่ยังไม่ได้มีการยื่นหลักทรัพย์ของประกันตัวแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังยัง ศาลแขวงนครราชสีมาในวันที่ 29 ม.ค.นี้

ด้าน พ.ต.อ.พลอย เปิดเผยว่า การจับกุมขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงและติดสินบนเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ เป็นการ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดและตรงไปตรงมา

ไม่มีจุดมุ่งหมายหรือเจตนาเพื่อไปกลั่นแกล้งใครทั้งสิ้น หลายคนอาจมีการตั้ง ข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นการจับกุมเพื่อหวังผลทางการเมืองเนื่องจากใกล้ถึงวัน เลือกตั้ง แต่ยืนยันได้ว่าการปฏิบัติงานกวาดล้างจับไม้พะยูงในพื้นที่ อ.ครบุรี และ อ.เสิงสาง โดยหลายหน่วยงาน ทั้งเจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 3 เจ้าหน้าที่ชุดป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมรวมถึงฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันมาอย่างต่อเนื่องนานหลาย เดือนแล้ว ไม่มีใบสั่งจากใครทั้งนั้น ซึ่งทุกหน่วยงานยังคงยึดแนวทางการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด ดังนั้นไม่ว่าใครผู้ใด เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการทำลายทรัพยากรป่าไม้ของชาติก็จะต้องถูกดำเนิน การอย่างเฉียบขาดไม่มีข้อยกเว้น