เร่งแกะรอยขยายผลหาไอ้โม่งจอมบงการ หลังตำรวจธัญบุรี ตั้งด่านสกัดจับหนุ่มใหญ่ ขน "อาร์พีจี" อาวุธสงครามเข้ากรุง สารภาพรับจ้างขน 5 พันบาท ตำรวจหวั่นมือที่สามตั้งใจโหมไฟการเมืองสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 ม.ค. ที่สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
พล.ต.อ.เอก อังศนานนทร์ รองผบ.ตร. พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส รองผบช.ภ.1 แถลงข่าวจับกุม นายชินรัตน์ กาญจนวิเชียร อายุ 45 ปี พร้อมของกลาง รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีเขียว ทะเบียนกต-7253 ลพบุรี อาวุธปืนอาก้า พร้อมเครื่องกระสุน 60 นัดลูกระเบิดสังหารชนิดขว้างแบบเอ็ม 61 แม็กกาซีนปืนอาก้า 2 อัน ปืนยิงระเบิดอาร์พีจี 1 กระบอก ลูกยิงอาร์พีจี 1ลูก ดินส่งอาร์พีจี1แท่ง มีดพับ2 อันลูกไม้ขีดมัดรวมก้านธูป 2กล่อง โทรศัพท์มือถือ หมวกนิรภัย ตะปูเรือใบ เสื้อลายพรางทหาร 1 ชุด และเสื้อผ้าอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง โดยจับกุมได้บริเวณปากซอยสุสวาส หมู่ 3 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.เอก เปิดเผยว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจาก พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ ชัยบำรุง สวป.สภ.ธัญบุรี พร้อมพวก
ได้ตั้งจุดตรวจเพื่อสกัดจับผู้กระทำความผิด บริเวณปากซอยสุดสวาส เส้นทางคลอง4 ธัญบุรี-ลำลูกกา กระทั่งพบรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีเขียว หมายเลขทะเบียน กต-7253 ลพบุรีลักษณะมีพิรุธ ผ่านมาจึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ พยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเงิน100 บาท เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ผ่านด่าน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมจึงทำการ ตรวจค้นในรถอย่างละเอียด และพบอาวุธปืนสงครามพร้อมเครื่องกระสุนและอุปกรณ์ต่างๆห่อด้วยถุงพลาสติกสี ดำวางอยู่บริเวณเบาะด้านหลังรถ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนที่โรงพัก
เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้ว่าจ้างจากชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ในราคา 5,000 บาท
เพื่อให้ขับรถคันดังกล่าว จากหลังวัดกลางคลองสี่ต.คูคต อ.ลำลูกกา ไปจอดไว้ที่บริเวณถนนรังสิต-นครนายกบริเวณสะพานทางเข้า สวนสนุกดรีมเวิลด์ จากนั้นจะมีอีกบุคคลหนึ่งมารับช่วงต่อ แต่มาถูกตำรวจตั้งด่านจับกุมเสียก่อน
รอง ผบ.ตร. เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในส่วนของอาวุธสงครามที่สามารถจับกุมได้จะมีการนำมาสร้างสถานการณ์ทางการ เมืองหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ต้องรอการตรวจสอบและสอบปากคำอย่างละเอียด ทั้งนี้รถยนต์คันที่ผู้ต้องหาให้ก่อเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ ครอบครอง เพราะมีการโอนต่อกันไปมาหลายครั้ง จึงมอบหมายให้ พล.ต.ต.เมธี และ พล.ต.ต.กรเอก เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนว่า ใครเป็นบุคคลว่าจ้างและจะเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองหรือไม่ และเป็นอาวุธที่เคยนำมาสร้างสถานการณ์ความรุนแรงหรือไม่ ส่วนผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่แจ้งดำเนินคดี มีวัตถุระเบิด อาวุธปืนและเครื่องกระสุน ซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และปลอมเอกสารของทางราชการ ควบคุมตัวส่งดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ดี มีรายงานในทางลึกว่า ตำรวจรู้สึกกังวลอย่างมาก เนื่องจากอาวุธสงครามดังกล่าว ถูกลักลอบเข้ามาในกรุงเทพฯ ในช่วงที่สถานการณ์ทางการเมืองกำลังร้อนระอุ จึงมีความเป็นไปได้ที่มือที่สามอาจนำเข้ามาเพื่อสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย แต่โชคดีที่ตำรวจตรวจค้นพบเสียก่อน.