"คปท."แจง ปลดป้าย สตช.ไม่ยอมรับพฤติกรรม"สีกากี"บางนาย ไม่มีเจตนาดูหมิ่นองค์กร พร้อมทำป้ายใหม่ให้ หากตำรวจยืนข้างประชาชน
เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.)ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก
ใกล้กับทำเนียบรัฐบาล ว่า แกนนำได้งดกิจกรรมการเคลื่อนไหว 1 วัน เพื่อให้มวลชนได้ผ่อนคลายความตึงเครียด เนื่องจากผู้ชุมนุมรายหนึ่งล้มป่วยจากความเครียดต้องนำส่งโรงพยาบาลรามาธิบดีกะทันหัน อย่างไรก็ตามการชุมนุมยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มวลชนส่วนใหญ่ยังคงพักผ่อน บ้างก็อ่านหนังสือพิมพ์ ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น และลมพัดค่อนข้างแรง ส่วนการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่การชุมนุมของ คปท.นั้นเป็นไปอย่างเข้มงวด มีการตรวจตรารถที่เข้าออกทุกคัน รวมถึงประชาชนที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่อย่างละเอียด หลังจากเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ที่ผ่านมา ได้มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ฝั่งวัดเบญจมบพิตรฯ
นายอภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ ฝ่าย กฏหมายคปท.เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
มีกลุ่มไม่ทราบฝ่ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดกราดยิงเข้าใส่แนวป้องกันการ์ด คปท.ที่อยู่บนถนนนครปฐม คาดว่า ผู้ก่อเหตุขับรถมาจอดบริเวณเชิงสะพานศรีอยุธยา ถนนศรีอยุธยา แล้วใช้อาวุธปืนกราดยิงโดยมีเป้าหมายมาที่เวที คปท.แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ต่อมา16.00 น.นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท.แถลงข่าวยืนยันว่า การที่ คปท.และมวลชนเดินทางไปปลดป้ายที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นผลเนื่องมาจาก คปท.และพี่น้องประชาชน ไม่ยอมรับพฤติกรรมของผบ.ตร.และเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนาย ที่ใช้อำนาจหน้าที่มิชอบสั่งการให้ตำรวจชั้นผู้น้อยรังแกประชาชน ที่ชุมนุมอย่างสงบ คปท. ขอยืนยันว่าพี่น้องประชาชนที่ร่วมกันถอดป้าย สตช.ไม่มีพฤติกรรมจะดูหมิ่นศักดิ์ศรีของตำรวจส่วนใหญ่ของประเทศ และพร้อมจะทำป้ายสตช.อันใหม่ไปมอบให้ หาก ผบ.ตร.และคณะนายตำรวจเลือกที่จะมายืนอยู่เคียงข้างประชาชน แทนการสนับสนุนรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมทั้งขอยืนยันว่า คปท.และพี่น้องประชาชนที่ร่วมถอดป้าย สตช.พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อสู้คดีตามกฏหมาย แต่ผบ.ตร.จะต้องสั่งการ และดูแลไม่ให้มีตำรวจใช้พฤติกรรมนอกเครื่องแบบ มาคุกคามทำร้ายประชาชน
ด้านนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท.กล่าวถึง กรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยุ่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ(ศรส.)
เตรียมขอคืนพื้นที่แจ้งวัฒนะ และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่าหากมีการขอคืนพื้นที่จริงก็มีแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรง แม้รัฐบาลจะยืนยันว่าจะไม่ใช่ความรุนแรงก็ตาม ส่วนการเคลื่อนไหวจับตัวนายกฯ ร.ต.อ.เฉลิม และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.นั้น ยืนยันว่า คปท.ยังจะเดินหน้าต่อแน่นอน สำหรับการเคลื่อนไหวเพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้า ในวันที่ 26 ม.ค.นี้ รวมถึงการเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 2 ก.พ.ด้วย ทาง คปท.ยังอยู่ระหว่างหารือร่วมกับ กปปส.ว่าจะกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวอย่างไร.