ตรวจหัวกระสุน คลี่ปมคดีฆ่า 3 ศพ

"คลี่ปมคดีฆ่า 3 ศพ"



คดีนายสำเริง มาเที่ยง อายุ 46 ปี นายเฉลิม อยู่มา อายุ 45 ปี นางเสาวนีย์ ผลาชุม อายุ 34 ปี

ภรรยาของนายเฉลิมซึ่งตั้งครรภ์ 3 เดือน

ราษฎรหมู่บ้านหนองแขม ถนนสายพรหมพิราม - พิชัย หมู่ 7 ต.หนองแขม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ถูกยิงตายหน้าร้านขายของชำในหมู่บ้าน เมื่อกลางดึกวันที่ 6 เม.ย.

นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน

ชื่อนายบุรินทร์ อยู่มา อายุ 41 ปี ญาตินายเฉลิม ถูกยิงที่ศีรษะ และนายภูวดล สุขนรินทร์ อายุ 15 ปี ถูกยิงที่ขา ยังไม่รู้ตัวคนร้ายและสาเหตุ

กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น ด.ต.สุทาทีป สุขนรินทร์

อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.อ.พรหมพิราม ยิงตัวตายในบ้านเช่าเลขที่ 65/5 หมู่ 2 ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก สอบสวนทราบว่า ด.ต.สุทาทีปกับ ด.ต.เสนาะ เดชพงษ์

เพื่อนตำรวจโรงพักเดียวกัน

มีปากเสียงกับกลุ่มผู้ตายถึงขั้นลงไม้ลงมือก่อนชักปืนยิงกัน กระสุนโดนนายภูวดลลูกชาย ด.ต.สุทาทีปที่ไปด้วย หลังเกิดเหตุ ด.ต.สุทาทีปกลับไปบ้านเช่าของลูกสาวในเขต อ.เมืองพิษณุโลกและยิงตัวตาย ขณะที่ ด.ต.เสนาะ เดชพงษ์ หายไป



ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น.

วานนี้ (8 เม.ย.) พล.ต.ต.วสันต์ วัสสานนท์ รอง ผบช.ภ.6 ไปตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมกับสอบปากคำชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงก่อนจะไปตรวจดูสำนวนการสอบสวน หลังจากนั้น พล.ต.ต. วสันต์เปิดเผยว่า

สอบสวนพยานไปแล้ว 10 คนไม่ได้

รายละเอียดมากนัก ขณะเดียวกันเร่งสอบสวนประเด็นที่ น.ส.ธิติลักษณ์ สุขนรินทร์ อายุ 25 ปี ลูกสาวของ ด.ต.สุทาทีปที่ให้การว่า บิดาเล่าให้ฟังก่อนยิงตัวตายว่าไประงับเหตุทะเลาะวิวาทและเกิดยิงกัน นายภูวดลโดนลูกหลง

พล.ต.ต.วสันต์เปิดเผยต่อไปว่า

พร้อมกันนั้นต้องพยายามติดตามตัว ด.ต.เสนาะ เดชพงษ์ หรือ ดาบเงาะ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนชุดเดียวกันที่ไปด้วยกัน ซึ่งหลังเกิดเหตุหายไปยังติดต่อไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่สามารถตั้งข้อกล่าวหากับ ด.ต.เสนาะได้

เพราะยังไม่มีหลักฐาน

แต่พนักงานสอบสวนส่งศพผู้ตายทั้งหมดไปชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชและผ่าตัดเอาหัวกระสุนปืน เพื่อส่งไปตรวจพิสูจน์ที่สำนักงานวิทยาการตำรวจแห่งชาติ

รอง ผบช.ภ.6 กล่าวอีกว่าเมื่อผลตรวจ

ออกมาก็จะทราบว่าผู้ตายทั้ง 3 คน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดใดและตรงกับของใคร จึงจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ และหากผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยิ่งต้องดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด



อย่างไรก็ตามต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย

หาก ด.ต.เสนาะมั่นใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง น่าจะมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีโดยเร็ว

ส่วน พ.ต.อ.วรรณรัตน์ พร้อมมูล

ผกก. สภ.อ. พรหมพิราม เปิดเผยว่า สอบปากคำนายภูวดล สุขนรินทร์ บุตรชายของ ด.ต.สุทาทีปให้การว่า ด.ต.สุทาทีปขับรถไปส่ง ด.ต.เสนาะซึ่งเป็นพี่เมียที่หมู่บ้านหนองแขม

โดยให้นายภูวดลนั่งรถไปด้วย

ระหว่างผ่านร้านขายของชำซึ่งมีคนนั่งดื่มเหล้าอยู่หน้าร้าน ได้ยินเสียงตะโกนให้ ของลับ แต่ทุกคนในรถไม่สนใจ หลังจากส่ง ด.ต.เสนาะที่บ้านแล้ว ด.ต.สุทาทีปขับรถจะกลับบ้าน

โดย ด.ต.เสนาะขับรถจักรยานยนต์

นำหน้าด้วยความเป็นห่วง เพื่อส่งให้ พ้นจากหมู่บ้าน ขณะขับผ่านกลุ่มที่กินเหล้า ได้ยินเสียงตะโกนให้ของลับอีก คราวนี้ ด.ต.เสนาะขี่จักรยานยนต์ เข้าไปหาเพื่อสอบถามสาเหตุ โดย ด.ต.สุทาทีปจอดรถลงไปด้วย

สักพักได้ยินเสียงทะเลาะกัน

และมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด กระสุนถูกขานายภูวดลที่ยืนรออยู่หน้ารถห่างจากร้าน 10 เมตร จึงร้องบอกบิดาว่าถูกยิง ระหว่าง ห้ามเลือด ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัดแล้ว ด.ต.สุทาทีปเดินกลับมาที่รถ



ขับพาลูกชายไปส่งโรงพยาบาล

สำหรับนายบุรินทร์ อยู่มา ซึ่งถูกยิงที่ศีรษะรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูโรงพยาบาลพุทธชินราช อาการเป็นตายเท่ากัน เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าอยู่หน้าห้องตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเป็นพยานปากสำคัญ

ด้านนายจำลอง อยู่มา อายุ 79 ปี

พ่อของนายเฉลิมกล่าวว่า วันเกิดเหตุนายเฉลิมและนายสำเริงซึ่งเป็นคนงานก่อสร้าง พักอยู่ที่บ้านตน กระทั่งเวลา 23.00 น. นายหนึ่งไม่ทราบชื่อจริง ชาวบ้านหมู่ 7 ต.หนองแขม

ขี่จักรยานยนต์มาหาบอกว่า

นายบุรินทร์ให้มาตาม คาดว่านายบุรินทร์อยู่ที่ร้านขายของชำกับ ด.ต.สุทาทีป นายสำเริงซ้อนท้ายจักรยานยนต์นายหนึ่งไป ส่วนนายเฉลิมขี่จักรยานยนต์ออกไปพร้อมกับนางเสาวนีย์ภรรยา

นายจำลองเล่าต่อไปว่า

ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จึงรีบไปดูเหตุการณ์ โดยเอาปืนลูกซองไปด้วย พบศพนายสำเริง นายเฉลิมและนางเสาวนีย์ จึงฝากปืนไว้กับนายเอ็ม ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุลเพื่อนของลูกชาย

แล้วนำนายบุรินทร์ส่งโรงพยาบาล

พอกลับมาที่เกิดเหตุอีกครั้งไม่พบนายเอ็ม ส่วนปืนลูกซองวางอยู่ใต้ต้นไม้ จึงแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นเจ้าของปืน ส่วนสาเหตุการยิงกันยังไม่รู้ เนื่องจากนายเฉลิมลูกชายกับลูกสะใภ้และนายสำเริง

ซึ่งทำงานด้วยกันไม่ได้ทำผิดกฎหมาย

หรือมีเรื่องขัดแย้งกับใคร อยากให้เร่งสอบสวนคลี่คลายคดีจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์