ผบช.น.เรียกประชุมด่วนทีมสืบสวน ตั้งรางวัลนำจับ 5 แสนมือปาบึ้มอนุสาวรีย์ชัยฯ เผยพบเบาะแสเป็นหมวกกับเสื้อของคนร้่าย ทิ้งไว้ที่วัดรวก บางบำหรุ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.
พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อุทัย กวินเดชาธร รรท.ผกก.สส.บก.น.1 ร่วมกันประชุมคลี่คลายคดีคนร้ายลอบปาระเบิดใส่หลังเวทีผู้ชุมนุมกปปส.ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้เป็นการเร่งรัดคดีที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างการชุมนุมทั้งหมด
แต่ที่ต้องเร่งรัดในขณะนี้คือคดีที่คนร้ายลอบปาระเบิดใส่เวทีกปปส.ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก และได้ขออำนาจศาลออกหมายจับบุคคลตามภาพวงจรปิดเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังระดมชุดสืบสวนทั้งหมด ทั้ง บก.สส.บช.น.และโรงพักพร้อมทั้งมอบหมายให้รองผบช.น. 2 ท่านไปรับผิดชอบคดีละ 1 คน ให้ดูแลอย่างใกล้ชิด
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวต่อว่า ขณะนี้จากพยานหลักฐานมีความชัดเจนว่าคนร้ายที่ถูกออกหมายจับ เป็นผู้ก่อเหตุขว้างระเบิดใส่ผู้ชุมนุมที่เวทีอนุสาวรีย์ชัยฯ จริง
โดยล่าสุดชุดสืบสวนพบเสื้อ และหมวกที่คนร้ายใส่ถูกนำไปทิ้งไว้ภายในซอยวัดรวก บางบำหรุ ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนหาเบาะแส และติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ทั้งนี้หากใครชี้เบาะแสให้นำไปสู่การจับกุมได้ทั้งคดีที่ถนนบรรทัดทอง และอนุสาวรีย์ชัยฯ จะมีรางวัลให้คดีละ 5 แสนบาท ต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนเพื่อเอาความจริงออกมาให้ได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างๆ นั้น เกิดจากอะไรกันแน่ อย่างไรก็ตามขอฝากเตือนผู้ก่อเหตุที่ถูกออกหมายจับว่าให้รีบเข้ามอบตัวเพราะชีวิตอาจจะไม่ปลอดภัย
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเป็นการเกิดเหตุตอนกลางวัน ซึ่งจะต้องหามาตรการป้องกันให้เข้มงวดมากขึ้นต่อไป แต่ในส่วนของการป้องกันช่วงกลางคืน หลังสามทุ่มเป็นต้นไป ตำรวจมีการตั้งด่านตรวจเข้มแข็ง และมีด่านตรวจร่วมระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุม อยากขอความร่วมมือไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมให้เข้ามาหารือในการวางแผนป้องกันเหตุร่วมกัน เพื่อไม่ให้มีพี่น้องประชาชนบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตอีก” ผบช.น.กล่าว
เมื่อถามว่าเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง และอนุสาวรีย์ชัยฯ มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเนื่องจากเหตุการณ์เกิดในช่วงใกล้เคียงกัน และจากการตรวจสอบของอีโอดีก็พบว่าระเบิดที่ใช้เป็นชนิดเดียวกัน ต้องขอเวลาตรวจสอบสักระยะซึ่งระเบิดดังกล่าว ยืนยันว่าไม่มีการใช้ในหน่วยงานราชการตำรวจ หรือทหาร และกระแสข่าวที่ระบุว่าคนร้ายที่ปาระเบิดใส่เวทีกปปส.อนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นทหารหน่วยซีลก็ไม่ใช่ความจริง เมื่อถามถึงกรณีการจับกุมผู้ต้องหาที่พกพาอาวุธในพื้นที่ สน.บางนา ซึ่งมีระเบิดชนิดอาร์จีดี 5 รวมอยู่ด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า กำลังสืบสวนขยายผลอยู่ด้วยเช่นกันว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่.