บึ้มเวทีอนุสาวรีย์ชัยฯ เจ็บระนาว 28 นักข่าวสาวโดนระเบิด ‘ถาวร’เล่านาทีระทึก

เวลา 13.40 น. วันที่ 19 ม.ค ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุระเบิดที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ ใกล้ ร.พ.ราชวิถี
 
โดยมีเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง เบื้องต้นมีคนเจ็บ 7 ราย ส่งร.พ.รามาฯ 3  ราย ร.พ.ราชวิถี 7 ราย เบื้องต้นทราบ 1 ราย น.ส.สิทธิณี ห่วงนาค เป็นนักข่าวโพสต์ทูเดย์ สายกระทรวงเกษตรฯ

 เวลา 14.00 น. นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เปิดเผยว่า หลังจากคนร้ายปาระเบิดเข้ามาด้านหลังเวทีประชาชน และการ์ดก็วิ่งไล่ตามออกไป จากนั้นคนร้ายจึงปาระเบิดลูกที่ 2 มาอีก ประชาชนก็ช่วยกันวิ่งไล่ตามไปอีก

 คนร้ายจึงชักปืนยิงมา 1 นัด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย 1 ราย เบื้องต้นกลุ่มคนร้ายมีประมาณ 6 คน 1 ในนั้นเป็น ผู้ลงมือก่อเหตุ และได้ขึ้นจักรยานยนต์หลบหนีไปทางแยกตึกชัย

 เบื้องต้น นายถาวร เชื่อว่า คนร้ายหวังจะขว้างระเบิดใส่ตน เพราะก่อนหน้านี้มีคนแปลกหน้าเข้ามา แต่การ์ดเชิญตัวออกไป จากนั้นก็มีชายลักษณะมีพฤติกรรมแปลกๆ วนเวียนด้านหลังเวทีอีก

 ล่าสุดพบเป็นระเบิดชนิดขว้าง โดยพบกระเดื่องตกอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ หลังเวทีอนุสาวรีย์ชัยฯ

  เวลา 14.45 น. ศูนย์เอราวัณ แจ้งว่า เหตุระเบิดอนุสาวรีย์ชัยฯ เบื้องต้น ผู้บาดเจ็บ 28 ราย นำส่ง ร.พ.ราชวิถี 13 ราย ร.พ.รามา 9 ราย ร.พ.จุฬา 4 ราย ร.พ.พระมงกุฎ 2 ราย
 
  ล่าสุดเวลา 16.00 น ที่ร.พ.ราชวิถี นายถาวร เล่าถึงเหตุการณ์ระเบิดว่า ในเวลาประมาณ 13.05 น. มีชายท่าทางผิดปกติ เข้ามาใกล้ชิดตน การ์ดของตนจึงได้เชิญตัวออกไป หลังจากนั้นไมเกิน 15 นาที เสียงระเบิดลูกแรกก็ดังขึ้น หลังจากนั้นห่างกันประมาณ 1-2 นาที เสียงระเบิดดังขึ้นอีก 1 ครั้ง ตนก็ออกจากเต็นท์ที่นั่งพักอยู่ พบว่ามีประชาชนบาดเจ็บหลายคน ตนเข้าใจว่ากลุ่มคนร้ายดังกล่าวต้องการขว้างระเบิดสังหารเข้ามายังจุดที่ตนนั่ง จากการที่ดูลาดเลาแต่ลูกระเบิดไปโดนต้นสนตรงที่ตนนั่ง

 นายถาวร กล่าวต่อว่า จากการที่ดูที่เกิดเหตุสรุปแล้วมีผู้ที่เห็นเหตุการณ์จำนวน 3 คน

คือ ผู้หญิงที่เห็นคนร้ายที่ปาระเบิดลูกแรกแล้ววิ่งหนี โดยมีการ์ดวิ่งไล่ตาม คนร้ายเห็นจวนตัวจึงปาระเบิดลูกที่ 2 แล้วคนร้ายได้วิ่งเข้าไปในซอยราชวิถี 14 ก่อนที่จะปาระเบิดใส่อีก 1 ลูก แต่ไม่ระเบิด คนขับจักรยานยนต์รับจ้างเห็นเหตุการณ์ จึงขับรถวิ่งไล่ตาม คนร้ายจึงชักอาวุธปืนยิงเข้าช่องท้อง 1 นัด ตรงจุดนี้คนร้ายทำหมวกหล่นไว้ 1 ใบ หลังจากนั้นคนร้ายได้วิ่งลัดเลาะไปตามถนนลียบริมคลองสามเสน ปรากฏว่าตรงช่วงนั้นกล้องวงจรปิดของทางวัด และแมนชั่นบริเวณดังกล่าวสามารถจับภาพคนร้ายได้

 คนร้ายได้ขึ้นรถจักรยานยนต์ต่อไปส่งที่วัดรวกบางบำหรุ เข้าไปในซอยประมาณ 200 เมตร คนร้ายได้หันหน้ามาดูคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง คนขับรับเงิน 100 บาท ตนสรุปได้ว่าพยานที่เห็นหน้าคนร้ายอย่างกระชั้นชิดมี 3 คน เพราะฉะนั้นตำรวจต้องจับคนร้ายได้แน่

 “ผมได้โทรศัพท์คุยกับพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังทั้งหมด และสามารถนำภาพวงจรปิดเป็นหลักฐานได้ ผมคิดว่าหากตำรวจเอาจริงเอาจังน่าจะจับคนร้ายได้ไม่เกิน 3 วัน” นายถาวร กล่าว

 นายถาวร กล่าวว่า เรามีความร่วมมือที่ดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะเกิดเหตุ ตนก็ได้นั่งพูดคุยกับฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท ที่มาวางแผนเพื่อทำงานร่วมกัน แต่ฝ่ายตรงข้ามยังไม่ละความพยายาม