2ดต.ฆ่าโหด3ศพ สาวท้อง ยิงกรอกปาก-ทุบหัว

สยอง"พรหมพิราม"-แล้วฆ่าตัว ล่าอีกนายดาบ-สอบญาติหาปม


สยอง 4 ศพ "พรหมพิราม" ด.ต.ปืนโหด ยิงกรอกปาก 3 ศพแล้วฆ่าตัวตายตาม บาดเจ็บอีก 2 โดย 1 ใน 3 เหยื่อปืนมีหญิงท้อง 3 เดือนด้วย เผยบุกไปคุยเคลียร์ปัญหาโดยนำเพื่อนตร.และลูกชายไปด้วย สุดท้ายตีกันนัวก่อนดาบปืนดุยิงกรอกปากจนเสียชีวิต

จากนั้นนำลูกชายที่โดนลูกหลงไปโรงพยาบาล ส่วนตัวเองกลับมาบ้านแล้วยิงตัวตาย ตร.ยังมึนรอญาติๆ หาปมฆ่า

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 7 เม.ย. พ.ต.ต.บุญทิ้ง อินทุภูติ สารวัตเวรสภ.อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตหลายศพ ที่ร้านขายของชำไม่มีเลขที่ ม.7 ต.หนองแขม ถนนสายพรหมพิรามพิชัย

จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปสอบสวน

พร้อมด้วยพล.ต.ต.ขัตติยะ อนันตวงศ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก, พ.ต.อ.เฉลิม สุวรรณรัตน์โอสถ รองผบก., พ.ต.อ.วรรณรัตน์ พร้อมมูล ผกก., พ.ต.ท.บรรจบ เขียวสะอาด รองผกก.ป., พ.ต.ท.เชาวลิตร วงศ์พิทักษ์ รองผกก.สส., พ.ต.ท.ชัยรัตน์ รูปสุวรรณ สวป., พ.ต.ท.หญิงกฤษฎี อัมพรพงศ์คจี รองผกก. ตำรวจวิทยาการ 33 น.พ.สุรวิทย์ อาชาสันติสุข แพทย์เวรร.พ.พรหมพิราม พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยข่าวภาพพิษณุโลก


ในที่เกิดเหตุพบศพนายสำเริง มาเที่ยง อายุ 46 ปี


อยู่บ้านเลขที่ 20 ม.2 ต.มะต้อง อ.พรหมพิราม สวมเสื้อลายพรางทหาร กางเกงลายสกอตขาสั้น ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ปากกระสุนทะลุสมองกระจาย สภาพศพคอหัก กรามแตก

ใกล้กันพบศพนายเฉลิม มาอยู่ อายุ 45 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 38/1 ม.1 มะต้อง อ.พรหมพิราม สวมเสื้อโปโลสีเทาเข้ม นุ่งกางเกงยีน ถูกยิงที่ปากและใต้รักแร้ขวา ที่หางคิ้วซ้ายถูกฟันด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์

ห่างจากทั้งสองศพไปประมาณ 10 เมตร

พบศพนางเสาวนีย์ ผลาชุม อายุ 34 ปี ภรรยานายเฉลิมซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน ถูกยิงเข้าที่หน้าอก 2 นัด ลำตัว 1 นัด สภาพศพนุ่งกางเกงสามส่วนสีเทา เสื้อลายดอกไม้สีฟ้าอ่อน คลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวสีเทา

ใกล้กันมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีม สีเขียว ทะเบียน กธต 5923 กระบี่ ของนางเสาวนีย์ล้มเสียหลักอยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งหมดถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกัน คาดว่าจะเป็นปืนขนาด .38

นอกจากนั้น ยังมีผู้บาดเจ็บสองรายทราบชื่อคือนายบุรินทร์ มาอยู่ อายุ 41 ปี น้องชายนายเฉลิม ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าศีรษะอาการสาหัส นำตัวส่งร.พ.พุทธชินราช ส่วนอีกคนคือด.ช.ภูวดล สุขนิรันดร์ อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 317 ม.4 ต.มะต้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ถูกยิงเข้าที่ขา

ทราบว่าด.ช.ภูวดล เป็นลูกชายของด.ต.สุทาทีป สุขนิรันดร์ อายุ 47 ปี ตำรวจสายสืบสภ.อ.พรหมพิราม หลังเกิดเหตุด.ต.สุทาทีป และด.ต.เสนาะ เดชพงษ์ ตำรวจชุดสืบสวนสภ.อ.เดียวกันนำตัวด.ช.ภูวดลไป

จากการสอบสวน ทราบว่านายเฉลิมมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ได้ว่าจ้างนายสำเริงมาทำงานด้วยและพักอาศัยอยู่ที่บ้านนายเฉลิม ก่อนเกิดเหตุนายเฉลิมพร้อมด้วยนายบุรินทร์ น้องชาย และนายสำเริง นั่งดื่มเหล้ากันอยู่ที่บ้านของนายเฉลิม

กระทั่งมีเพื่อนบ้านชื่อนายหนึ่ง ไม่ทราบนามสกุล ได้มาชักชวนทั้งสามคนออกไปกินเหล้าที่ร้านขายของชำกันต่อ กระทั่งดึกนางเสาวนีย์ซึ่งเป็นภรรยานายเฉลิม ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาตามนายเฉลิมที่ร้านเหล้า


ขณะนั้นเองก็มี ด.ต.สุทาทีป และด.ช.ภูวดล


พร้อมด้วยด.ต.เสนาะ ขี่รถจักรยานยนต์มาที่ร้านดังกล่าว และเรียกนายเฉลิมและนายสำเริงออกจากร้านมาพูดคุยกันในเรื่องบางอย่าง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ กระทั่งเกิดเหตุชกต่อยกันขึ้น ตำรวจทั้งสองคนได้ใช้อาวุธที่ติดตัวมาเข้าทำร้ายกลุ่มผู้ตาย

โดยนายเฉลิมถูกของมีคมฟันที่หางคิ้ว ส่วนนายสำเริงถูกไม้ทุบใบหน้าจนคอหัก กรามแตก ก่อนจะใช้ปืนยิงกรอกปากทีละคน ส่วนนางเสาวนีย์กำลังจะวิ่งหนีเอาชีวิตรอด แต่ก็ถูกยิงเสียชีวิตไปอีกคน

จากนั้นด.ต.สุทาทีป และด.ต.เสนาะได้ขึ้นรถยนต์หลบหนีไป พร้อมพาด.ช.ภูวดล ซึ่งถูกลูกหลงถูกยิงที่ขาหลบหนีไปด้วย

ต่อมาเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.เดชประยูร สิงหเดช สารวัตรเวรสภ.อ.เมือง พิษณุโลก รับแจ้งมีตำรวจใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย ที่บ้านเลขที่ 65/5 ม.2 ต.คลอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปสอบสวนพร้อมด้วยพล.ต.ต.ขัตติยะ พ.ต.อ.เฉลิม พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ ผกก.สภ.อ.เมือง พิษณุโลก แพทย์เวรร.พ.พุทธชินราช

พบศพด.ต.สุทาทีป สภาพศพสวมกางเกงขาสั้นสีแดง ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงินคาดขาว สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .357 เข้าที่ขมับขวาทะลุศีรษะด้านบนนั่งพิงฝาอยู่ด้านนอกห้องนอน มีปืนตกอยู่ใกล้กับผู้ตาย


จากการสอบสวนน.ส.ธิติลักษณ์ สุขนิรันดร์ อายุ 23 ปี ลูกสาวด.ต.สุทาทีป


ให้การว่า บ้านหลังเกิดเหตุเป็นของลุง ตนมาพักอาศัยเพื่อเรียนหนังสือ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา บิดาได้มาหาและบอกว่าพาด.ช.ภูวดล น้องชายไปรักษาตัวที่ร.พ.พุทธชินราช เนื่องจากถูกปืน แต่ตนไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น จนรุ่งเช้าก็เห็นบิดาเดินออกมาจากห้องนอนไป จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เมื่อออกมาดูพบว่าบิดาฆ่าตัวตายไปแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสรุปประเด็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้

ต้องรอการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดก่อน โดยเฉพาะด.ช.ภูวดล ส่วนด.ต.เสนาะ หลบหนีไป จากการสันนิษฐานอาจจะมาจากเรื่องส่วนตัวหรือไม่เรื่องเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมาย โดยวางแผนให้นายหนึ่งไปชวนกลุ่มผู้ตายออกมาจากบ้าน เพื่อพูดคุยตกลงปัญหากัน

แต่ไม่สามารถเคลียร์กันได้จนเกิดเหตุขึ้น

สำหรับด.ต.สุทาทีป หลังเกิดเหตุและนำตัวด.ช.ภูวดล ไปรักษาตัวแล้วได้หลบไปพักอยู่กับลูกสาว ก่อนจะตัดสินใจใช้ปืนปลิดชีพหนีความผิด ส่วนด.ต.เสนาะ เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์