ดร.ไฮโซเครียด ฆ่ายกครัว ลูก-เมีย ปลิดชีพตาม

ยิงลูกชายที่กำลังหลับก่อน ซัลโวคู่ชีวิต-จ่อขมับตัวตาม...


ด็อตเตอร์ไฮโซ เจ้าของบริษัทขายห้องชุดสุดหรูย่านนราธิวาสราชนครินทร์ และบริษัทส่งออกถังแก๊ส ฐานะระดับมหาเศรษฐี ใช้ทูตมรณะ .22 ยิงหัวลูกชายคนโตนักศึกษาปริญญาโทจุฬาฯทั้งที่ยังนอนอยู่อาการเป็นตายเท่ากัน

ก่อนจะยิงเมียอดีตอาจารย์จุฬาฯถูกต้นคอทะลุหัว


แต่ยังแข็งใจเดินลงบันไดไปขอความช่วยเหลือ จากนั้นยิงขมับตัวเองทะลุตายพร้อมกับเมีย ส่วนลูกสาวคนเล็กอดีตนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติโชคดีไม่ได้อยู่ด้วยเลยรอด ตร.คาดปมสังหารมาจากเครียดเรื่องส่วนตัว เพราะระยะหลังมีปากเสียงทะเลาะกับเมียเป็นประจำ จนจะหย่ากันในเร็ว ๆ นี้ หรือธุรกิจอาจประสบปัญหา จึงตัดสินใจก่อเหตุสลด


ที่เกิดเหตุตกแต่งอย่างหรูหราบ่งบอกถึงฐานะเจ้าของห้องว่าเป็นผู้มีอันจะกิน


เหตุสลดดอกเตอร์ยิงลูกเมียแล้วยิง ตัวตายรายนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 5 เม.ย. ร.ต.ท.นพรัช ยังดำรง ร้อยเวร สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ภายในห้องพักเลขที่ 2 B ชั้น 2 อาคารแคสเซิลสูท (Castle Suite) คอนโดมิเนียม เลขที่ 165 ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขต สาทร จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผกก. พ.ต.ท.ทรงยศ ถวัลย์กิจดำรงค์ รอง ผกก.สส. กำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ พฐ. ภายในห้องที่เกิดเหตุตกแต่งอย่างหรูหราบ่งบอกถึงฐานะเจ้าของห้องว่าเป็นผู้มีอันจะกิน



พบรอยเลือดเป็นกอง ๆ และหยดเป็นทางไปทั่วห้อง


เจ้าหน้าที่ตำรวจพบแต่รอยเลือดเป็นกอง ๆ และหยดเป็นทางไปทั่วห้อง บนพื้นห้องมีอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .22 ตกอยู่ 1 กระบอก ในลูกโม่มีปลอกกระสุนที่ยิงแล้วคาอยู่ 3 อัน และลูกกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงอีก 3 นัด และมีหัวกระสุน 1 หัว ติดอยู่ที่ข้างฝา จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ลูกชาย ป.โท นิสิตจุฬา ลูกชาย ดร.วิรัช ถูกยิงที่ขมับขวากระสุนฝังใน


ส่วนคนถูกยิงมีผู้นำส่ง รพ.บางกอกเนิร์สซิ่งโฮม (B.N.H.) แล้ว ทราบชื่อว่า ดร.วิรัช เหล่าศิริชน อายุ 58 ปี เจ้าของห้อง และเจ้าของอาคารที่เกิดเหตุ ถูกยิงด้วยกระสุนปืน .22 ที่กกหูขวาทะลุขมับซ้าย และนางพวงจันทร์ เหล่าศิริชน อายุ 53 ปี ภรรยา ถูกยิงด้วยกระสุนปืนชนิดเดียวกันที่ต้นคอด้านซ้ายทะลุศีรษะด้านขวา ทั้งคู่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตขณะนำส่ง รพ.

ส่วนอีกคนชื่อ นายเจนวิทย์ เหล่าศิริชน อายุ 28 ปี ลูกชาย ดร.วิรัช ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาดเดียวกันที่ขมับขวากระสุนฝังใน แพทย์ผ่าตัดเอาหัวกระสุนออกแล้วนอนอยู่ในห้องไอซียู แต่อาการยังโคม่าเป็นตายเท่ากัน



จากการสอบสวน พบว่า


จากการสอบสวน นายบุญเลิศ สำแดงวงศ์ อายุ 40 ปี ผู้ดูแลอาคาร ได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุเวลา 06.00 น.เศษ ขณะตนเดินตรวจความเรียบร้อยอยู่บนชั้น 5 ของอาคาร มี รปภ. ของอาคารโทรศัพท์ขึ้นไปบอกว่า พบผู้หญิงมีเลือดออกที่ศีรษะเปื้อนหน้าเปื้อนตัวไปหมดนอนหมดสติอยู่ข้างอาคาร ตนจึงรีบลงไปดูพบ นางพวงจันทร์ นอนจมกองเลือดหายใจรวยริน จึงรีบนำส่ง รพ. แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต แพทย์แจ้งว่าคนไข้ถูกยิง ตนจึงรีบกลับไปยังห้องพักของ ดร.วิรัช พบทั้งคู่นอนจมกองเลือดหายใจมีเลือดออกทางจมูกและปากอยู่ในห้อง จึงรีบโทรศัพท์แจ้ง รพ.ส่งรถพยาบาลมารับทั้งคู่ แต่ ดร.วิรัช เสียชีวิต นายเจนวิทย์ บาดเจ็บสาหัส


ดร.วิรัช มีฐานะระดับมหาเศรษฐีที่แวดวงไฮโซรู้จักกันดี ส่วนภรรยา เคยเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


สำหรับ ดร.วิรัช นอกจากจะเป็นเจ้าของบริษัท ยิทเทิ่ลแอสเซส จำกัด ขายห้องชุดของอาคารแคสเซิลสูทแล้ว ยังเปิดบริษัท ชื่นศิริ จำกัด ส่งออกถังแก๊สและถังเหล็ก มีฐานะระดับมหาเศรษฐีคนหนึ่งที่แวดวงไฮโซหรือสังคมชั้นสูงรู้จักกันดี

โดยมี นางพวงจันทร์ ภรรยา เคยเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ลาออกมาช่วยธุรกิจของสามีนานแล้ว

ส่วน นายเจนวิทย์ ลูกชายคนโตเป็นนักศึกษาปริญญาโทที่จุฬาฯ และ น.ส.พิชญา เหล่าศิริชน ลูกสาวคนเล็ก กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) และเป็นนักกีฬาเทนนิสของสถาบันและเคยติดเยาวชนทีมชาติแข่งขันระดับนานาชาติมาแล้ว ล่าสุดเข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสในกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 34 หรือราชพฤกษ์เกมส์ เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้อยู่ในห้องพักขณะเกิดเหตุ


ภรรยา รู้ตัวพยายามขัดขืนหลบกระสุนทำให้ถูกยิงเข้าที่ต้นคอทะลุศีรษะ


เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบสวนพยานแล้ว สันนิษฐานว่า ดร.วิรัช เป็นผู้ใช้อาวุธปืน .22 ยิงนายเจนวิทย์ ลูกชายขณะนอนหลับอยู่เป็นคนแรก ก่อนที่จะไปจ่อยิง นางพวงจันทร์ ภรรยา แต่นางพวงจันทร์รู้ตัวพยายามขัดขืนหลบกระสุนทำให้ถูกยิงเข้าที่ต้นคอทะลุศีรษะ แต่ยังไม่เสียชีวิตทันที จึงรีบออกจากห้องเดินลงบันไดเพื่อไปขอความช่วยเหลือ ก่อนจะไปหมดสติที่ข้างอาคารแล้ว รปภ. มาพบ จากนั้น ดร.วิรัช จึงใช้ทูตมรณะกระบอกเดียวกันจ่อยิงขมับตัวเองตาย


สาเหตุการฆ่ายกครัว คาดว่าเครียดเรื่องธุรกิจ และมีอาการป่วยทางประสาท ทะเลาะกับภรรยาบ่อย เตรียมหย่ากันเร็ว ๆ นี้


สาเหตุการฆ่ายกครัวครั้งนี้คาดว่าน่าจะมาจาก ดร.วิรัช เครียดเรื่องส่วนตัว หรือ เครียดเรื่องธุรกิจที่อาจจะประสบปัญหา โดยตำรวจทราบว่า ดร.วิรัช มีอาการป่วยทางประสาท ระยะหลัง ดร.วิรัช กับนางพวงจันทร์ มีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้ง จนกระทั่งถึงกับตกลงกันว่าจะไปจดทะเบียนหย่ากันในเร็ว ๆ นี้


นางพวงจันทร์ ได้ทำพินัยกรรมไว้ว่าจะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้กับนายเจนวิทย์ ลูกชายเพียงคนเดียว

ตำรวจเตรียมเรียกตัวน.ส.พิชญา เหล่าศิริชน (รูปเล็ก) ลูกสาวคนเล็ก มาสอบปากคำหาสาเหตุ

และเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา นางพวงจันทร์ ได้ทำพินัยกรรมไว้ว่าจะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้กับนายเจนวิทย์ ลูกชายเพียงคนเดียว และให้น้องสาวของนางพวงจันทร์ เป็นผู้จัดการมรดกทั้งหมด จึงอาจเป็นสาเหตุให้ ดร.วิรัช เครียดจนอาการทางประสาทกำเริบก่อเหตุสลดขึ้น

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญ น.ส.พิชญา ลูกสาวคนเล็กของผู้ตายมาสอบสวนปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อจะได้ทราบสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์