แถลงยัน ′ด.ต.ณรงค์-วสุ′ไม่ได้ถูกยิงจากดาดฟ้าก.แรงงาน

เมื่อวันที่ 2 มกราคม  2557   พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10 )

และพล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผบช.ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมชี้แจงกรณีปรากฎภาพกลุ่มบุคคลที่ขึ้นไปบนตึกดาดฟ้ากระทรวงแรงงานในวันที่26ธันวาคม   ระหว่างเกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสองรายคือ ด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์    ผบ.หมู่ จร.สน.ตลาดพลู ซึ่งเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่  และ นายวสุ สุฉันทบุตร การ์ด กลุ่มผู้ชุมนุม คปท.   ที่เป็นผู้ชุมนุม ซึ่ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมายอมรับว่า กลุ่มชายดังกล่าว  เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง

ทั้งนี้  พล.ต.อ.จรัมพร ได้แสดงแผนที่ ภาพถ่าย กระทรวงแรงงานและบริเวณใกล้เคียง รวมถึงการตรวจพยานหลักฐานของชุดพิสูจน์หลักฐาน

พร้อมกล่าวว่ากลุ่มชายที่ปรากฎบนตึกไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของทั้ง 2 ราย เนื่องจากความสูงของตึกดังกล่าวมีความสูงเพียง 12 เมตร อีกทั้งมีตึกที่สูงกว่าบังทัศนวิสัยอยู่โดยรอบ ทำให้ไม่สามารถที่จะยิงจากจุดนี้ได้เมื่อเปรียบเทียบกับวิถีกระสุนและจุดที่ทั้ง2รายถูกยิงตามหลักฐานที่ปรากฎ พบว่านายวสุนั้นน่าจะถูกยิงในเเนวราบ ขณะที่ด.ต.ณรงค์นั้นถูกยิงจากมุมสูง ซึ่งมีความสูงไม่เกิน 15 องศาเท่านั้น   เเละยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ที่ขึ้นไปประจำการบนตึกนั้นมีเพียงปืนที่ใช้ยิงแก๊สน้ำตา ปืนลูกซองที่ใช้ยิงกระสุนยาง และแก๊สน้ำตาประเภทขว้างชนิดเเป้งเเละควันเท่านั้น ไม่ได้มีอาวุธปืนจริงเเต่อย่างใด

 ขณะที่ พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นผู้ที่ยิงปืนจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดที่เเท้จริงต่อไป

 เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีภาพที่ปรากฎตามสื่อต่างๆว่ามีการตรวจพบธนบัตรสกุลกัมพูชาและพาสปอร์ต จนมีกระเเสข่าวว่ามีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจจากประเทศกัมพูชาเข้ามานั้น พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าพาสปอร์ตดังกล่าวเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ทราบชื่อคือ ด.ต.จตุรพร คุณกุล ผบ.หมู่ สน.บุปผาราม ซึ่งได้ถูกทุบรถและค้นเอาทรัพย์สินไป
 
สำหรับกรณีปรากฎคลิปเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทุบรถนั้น

พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นเป็นการไล่ล่าเพื่อติดตามตัวคนร้ายที่ยิงเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจเป็นความเข้าใจผิด เพราะจากคลิปนั้น เป็นคลิปที่ถ่ายออกมาจากภายในรถ ซึ่งเป็นไปได้ว่าเจ้าหน้าที่อาจจะไม่ได้ยินเสียงที่คนภายในรถพยายามร้องบอก ซึ่งในส่วนนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

 ขณะที่ พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ ผกก.อคฝ. กล่าวว่าระหว่างเกิดเหตุปะทะ ได้รับการขอกำลังสนับสนุน 2 หมู่

โดยได้ขึ้นดาดฟ้าของตึกกระทรวงแรงงาน 3 ครั้ง ในการยิงแก๊สน้ำตาต้านมวลชน ที่บุกเข้ามา โดยยืนยันระหว่างปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ใช้กระสุนจริงมีเพียงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาเท่านั้น ซึ่งขณะปฏิบัติหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่นั้นถูกมวลชนทำร้ายเช่นกันด้วยการปาก้อนหินและการยิงหัวน็อตจนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ

  ต่อมาพล.ต.อ.จรัมพร เดินทางไปตรวจสอบบริเวณประตู 5 ของกระทรวงเเรงงาน ถ.มิตรไมตรี
 
ซึ่งเป็นจุดที่นายวสุ โดนยิงก่อนจะถูกนำตัวไปหลบหลังเสาบริเวณอาคารสำนักงานประกันสังคม เขตพื้นที่ 3 เขตดินเเดง ก่อนจะเสียชีวิต  ซึ่งบริเวณหลังเสานั้น ยังพบเป็นคราบเลือดติดอยู่อีกด้วย นายบุญรอด สนเปี่ยม อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่ประสานการข่าวการชุมนุมด้านเเรงงาน ของกระทรวงเเรงงาน เเละเป็นพยานในที่เกิดเหตุเล่าว่า ขณะที่เกิดเหตุ มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่อยู่ภายในกระทรวงเเรงงานลงมาข้างล่างให้หมด ตนเเละเพื่อนจึงลงมา เเต่เนื่องจากขณะนั้นมีเสียงปืนเเละประทัดดังต่อเนื่อง ตนจึงหลบหลังป้อมยามบริเวณหน้าประตู 5 เเละเห็นนายวสุ กำลังพยายามวิ่งหลบกระสุนเช่นกัน จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงนายวสุร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกยิง ก่อนที่จะมีเพื่อนอีก 2-3 คนพยายามนำตัวนายวสุไปหลบหลังเสาที่อาคารสำนักงานประกันสังคม เขตพื้นที่ 3 เขตดินเเดง

 "ตอนนั้นมันชุลมุนมาก ผู้ชุมนุมก็เยอะ เพราะมีบางส่วนเข้ามาภายในอาคารได้เเล้ว ส่วนตำรวจตอนนั้นน่าจะถูกต้อนไปอยู่ด้านหลังเเล้ว มีเสียงปืนเเละประทัดดังเป็นระยะ ผมเห็นวสุวิ่งไปมาหาที่กำบังเหมือนกัน เเต่พอรู้อีกทีเห็นเขาเลือดอาบเเล้ว เเล้วร้องบอกโดนยิงๆ เพื่อนๆเขาก็ลากเขาไปหลบหลังเสา ซึ่งจากที่ผมเห็นผมว่ากระสุนน่าจะมาจากข้างใน ไม่ใช่นอกประตูนะ คือช่วงนั้นคนวิ่งกันวุ่น มันชุลมุน เเล้วเสียงปืนมันก็ใกล้ๆ ไม่ได้มาจากข้างบนอาคารเลย"นายบุญรอดกล่าว

 จากนั้นพล.ต.อ.จรัมพร เข้าตรวจสอบภายในสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ประตูที่ 3

ซึ่งเป็นจุดที่ ด.ต.ณรงค์ ถูกยิง เสียชีวิตขณะกำลังนั่งพักบริเวณใต้ต้นไม้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบคราบเขม่าดินปืนที่บริเวณรั้วซึ่งติดกับประตู3 โดยมีระยะห่างจากจุดที่ด.ต.ณรงค์ ถูกยิงเพียง 20-30 เมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานเพื่อทำการตรวจสอบต่อไป ก่อนที่จะเดินทางเข้าตรวจสอบความเสียหายภายในอาคารกีฬาเวสน์1 ซึ่งเป็นจุดที่มีการรับสมัครเลือกตั้งส.ส. จนเป็นเหตุให้กลุ่มผู้ชุมนุมมาปิดล้อมสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น