ลุงเพชร โชเฟอร์แท็กซี่เหยื่อโหด โชว์บาดแผลถูกรุมทำร้าย พบมีตะปูฝังในศีรษะ

ลุงเพชร โชเฟอร์แท็กซี่เหยื่อโหด โชว์บาดแผลถูกรุมทำร้าย พบมีตะปูฝังในศีรษะ

เหตุปะทะดินแดงตายเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 2 ราย สธ.เผยยอดบาดเจ็บรวมแล้ว 153 ราย อาการรุนแรง 36 ราย พักรักษาตัวใน รพ. 38 ราย พบกู้ชีพถูกกระสุนสอยเข้ากลางอกขณะปฏิบัติงานช่วยผู้บาดเจ็บคารถมูลนิธิ อีก 1 ราย ส่วนแท็กซี่ ยังไม่ตาย

วันที่ 27 ธ.ค. ที่โรงพยาบาลสงฆ์  นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ แถลงสรุปจำนวนยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณหน้าอาคารกีฬาเวสน์ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยข้อมูลสรุปเมื่อเวลา 09.30 น. ว่า ขณะนี้มีผู้บาดเจ็บจำนวน 153 ราย กระจายอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ อาทิ รพ.รามาธิบดี รพ.ราชวิถี รพ.พระมงกุฏเกล้า รพ.ตำรวจ รพ.พญาไท 1 รพ.พญาไท 2 รพ.ทหารผ่านศึก รพ.เปาโล รพ.กลาง รพ.ลาดกระบัง และ รพ.เลิดสิน โดยเป็นผู้บาดเจ็บอาการรุนแรง 36 ราย บาดเจ็บปานกลาง 2 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 114 ราย โดยยังนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 38 ราย เสียชีวิต 2 ราย

นพ.สุพรรณ กล่าวว่า สำหรับ ผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้แก่ 1 ผู้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่ รพ.ตำรวจ คือ ด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ  2 ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชุมนุมชาย อายุประมาณ 30 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณหน้าอก นำส่ง รพ.พระมงกุฏเกล้า เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 26 ธ.ค. และเสียชีวิตเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. สำหรับรายที่ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ราชวิถี ขอยืนยันว่า ยังไม่เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บคือ แท็กซี่ ที่ถูกรุมทำร้ายที่ บริเวณ ถนนวิภาวดี เบื้องต้น อาการดีขึ้น และยังไม่เสียชีวิตเช่นกัน

นพ.สุพรรณ กล่าวอีกว่า ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชุมนุมทางการเมือง กระทรวงสาธารณสุข (ส่วนหน้า) ยังคงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง 3 จุดที่ยังมีผู้ชุมนุมอยู่และอาจเกิดปัญหาขึ้นคือ บริเวณทำเนียบรัฐบาล สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง และกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยวางทีมกู้ชีพพื้นฐาน ทีมกู้ชีพชั้นสูง ทั้งจากส่วนของมูลนิธิต่างๆ รพ.สังกัดกรมการแพทย์ และเครือข่ายเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือ

นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฯส่วนหน้า กล่าวว่า สำหรับกรณีอาสาสมัครกู้ชีพถูกยิงนั้น ขณะนี้กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง โดยอาสาสมัครรายดังกล่าวถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก มีเลือดออกช่องปอด อาการอยู่ในขั้นปลอดภัยพอสมควร อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยถูกยิงระหว่างขณะปฏิบัติงานบริเวณประตู 3 ของสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง

นายสุทธิรักส์ คุ้มสม เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ร่วมกตัญญู ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ปะทะบริเวณอาคารกีฬาไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า ในวันที่ 26 ธ.ค. ได้เดินทางเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะ ซึ่งทีมของตนมี 8 คน เป็นชาย 6 คน หญิง 2 คน ขณะที่กำลังช่วยลำเลียงผู้ป่วยออกจากพื้นที่ ในช่วงเวลา 17.00 น. ที่จุดรับผู้บาดเจ็บบริเวณหน้าประตู 3 ใกล้กับอาคารผังเมือง รถของหน่วยกู้ภัยได้จอดเพื่อรอรับผู้บาดเจ็บ โดยรถมุ่งหน้าไปทาง สน.ดินแดง เพื่อจะออกไปทาง ถ.วิภาวดี ขณะนั้นเหตุการณ์เป็นไปด้วยความชุลมุน และรถของเจ้าหน้าที่ได้ถูกยิงเข้ามา 1 นัด ทางด้านขวา เป็นด้านที่หันไปทางสนามกีฬา  ซึ่งโดนเจ้าหน้าที่หญิง ชื่อ กุ้ง อายุ 30 กว่าปี ที่กำลังหันหลัง เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่นำตัวขึ้นมาบนรถและกำลังจะนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งหลังจากที่รถเจ้าหน้าที่ถูกยิง ก็ได้ถอนกำลังทั้งหมดออกจากพื้นที่เพราะสถานการณ์ถือว่ามีความไม่ปลอดภัย

“เจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ความช่วยเหลือไม่เลือกฝ่าย แต่จะประเมินเพื่อออกจากพื้นที่เมื่อเกิดความไม่ปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น กระทบกับทุกคน เจ้าหน้าที่เองก็รู้สึกเสียใจที่เกิดความสูญเสียขึ้น เหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ถูกยิงนั้น เป็นเรื่องที่กระทบต่อกำลังใจในการทำงาน แต่อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก เจ้าหน้าที่ทุกคนก็พร้อมเข้าช่วยเหลือ และสู้ต่อ แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นแต่อย่างใด”นายสุทธิรักส์ กล่าว

ด้าน นพ.อุดม เชาวรินทร์ ผอ.รพ.ราชวิถี กล่าวถึงอาการของผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นการ์ด คปท. และโดนยิงที่ศรีษะ ว่า อาการของผู้ป่วยมีการตอบสนองเล็กน้อย สามารถลืมตาได้ แต่ยังตอบโต้ไม่ได้ ซึ่งความเสียหายที่เกี่ยวกับสมอง ต้องใช้เวลาในการติดตามอาการ เบื้องต้น ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ยืนยันว่า ยังไม่เสียชีวิต

พ.อ.นพ.พีระพล ปกป้อง ผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชศาสตร์ฉุกเฉิน รพ.พระมงกุฏเกล้า กล่าวว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ที่นำส่ง รพ.พระมงกุฏเกล้า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ชื่อนายวสุ สุฉันทบุตร อายุ 30 ปี เป็นผู้ชุมนุม ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงบริเวณหน้าท้อง โดยเสียชีวิตแล้วเมื่อเช้านี้ เนื่องจากกระสุนขนาดเล็กได้เข้าไปในอวัยวะภายใน อาทิ ตับ ตับอ่อน ไตข้างขวาและถูกเส้นเลือดใหญ่ ทั้งนี้ ทางทีมแพทย์ได้ช่วยชีวิตตลอดทั้งคืนและเสียชีวิตเมื่อเวลา 03.45 น. โดยถูกนำส่งมาถึงโรงพยาบาลเวลาประมาณ 14.10 ทางทีมแพทย์ไม่พบลูกกระสุนตกข้างภายในร่างกายเนื่องจากทะลุออกข้างหลัง  

สำหรับกรณี นายเพชร ชูศรีขวัญ คนขับรถแท็กซี่ที่โดนตีที่ศรีษะ ขณะนี้ทีมแพทย์ได้ทำการเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์สมองแล้วพบว่าไม่มีปัญหาอะไร มีแต่แผลฟกซ้ำ มีเศษวัสดุ (ตะปู) ค้างคา ตอนนี้อาการดีขึ้นและยังรับการรักษาที่โรงพยาบาล

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด