จากกรณีนักเรียนหญิงวัย 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี
และเป็นดาววงดนตรีโปงลางของโรงเรียน ถูกคนร้ายบุกขืนใจและทำร้ายร่างกาย ขณะนอนพักในห้องเก็บเครื่องดนตรีของโรงเรียน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เบื้องต้นตำรวจจับครูและเพื่อนนักเรียนกว่า 30 คน ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุตรวจดีเอ็นเอ เพื่อเทียบกับคราบอสุจิที่พบบนร่างเหยื่อ เพื่อหาตัวคนร้ายตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายบอย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นอดีตนักเรียนโรงเรียนที่เกิดเหตุไว้สอบสวน เนื่องจากตัวอย่างดีเอ็นเอที่เก็บจากกระพุ้งแก้ม ตรงกับดีเอ็นเอของคราบอสุจิที่พบบนร่างผู้เสียชีวิต และพบมีรอยเล็บข่วนที่ใต้ราวนมด้านซ้าย 1 แห่ง แต่เบื้องต้นนายบอยให้การปฏิเสธ อ้างว่าบาดแผลที่พบเกิดจากการปีนที่สูงไปจับตุ๊กแกแล้วพลาดท่าตกลงมา แต่หลักฐานจากดีเอ็นเอที่พบทำให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่านายบอยเป็นคนร้ายตัวจริง
ล่าสุดไปเป็นลูกจ้างร้านเครื่องเสียงประจำอำเภอ และในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาอยู่ที่โรงเรียนดังกล่าวด้วย เนื่องจากต้องทำหน้าที่ควบคุมเครื่องเสียงที่โรงเรียนว่าจ้างมาใช้ในการแสดงของวงโปงลาง ที่ผู้ตายร่วมแสดงอยู่
หลังชุดสืบสวนคุมตัวนายบอย ผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ข่มขืนฆ่า น.ส.นิดมาสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง ผู้ต้องหาจำนนด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ จึงเปิดปากรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุเข้าไปหาเพื่อนที่เป็นนักเรียนอยู่ในวงโปงลาง กระทั่งเกิดไฟดับจึงเดินเลี่ยงขึ้นไปตามตึก เพื่อหยิบฉวยสิ่งของตามอาคารเรียน
ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศจึงตรงเข้าไปจะข่มขืน แต่เหยื่อต่อสู้และข่วนตามร่างกาย จึงจับหัวเหยื่อโขกกับพื้นห้องและฟาดกับผนังห้องจนสลบ แล้วลงมือข่มขืน โดยไม่ทราบว่าเหยื่อเสียชีวิตหรือไม่ จากนั้นรีบหลบหนีออกจากโรงเรียนกลับไปบ้านทำตัวตามปกติ กระทั่งเจ้าหน้าที่เรียกไปให้ปากคำและเก็บดีเอ็นเอโดยไม่ได้หลบหนีไปไหน เพราะเชื่อว่าตำรวจจะจับไม่ได้ เนื่องจากขณะเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ แต่ก็หนีกรรมที่ทำไว้ไม่พ้น
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนคุมตัวไปชี้จุดที่ก่อเหตุ จากนั้นคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมก่อนส่งตัวไปควบคุมไว้ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดอุบลราชธานี โดยตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา และข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยาของตนเอง