ฉกทรัพย์ผู้ป่วยในรพ.ลงมือตอนดึก38ครั้ง : สายตรวจระวังภัย โดยทีมข่าวอาชญากรรม
"คิดไม่ถึงจริงๆ รูปร่างหน้าตาก็ดี แต่งตัวภูมิฐาน แต่กลับเป็นโจร"
น.ส.อภิปภา สศิลปเกส หนึ่งในเหยื่อที่ถูกคนร้ายลักทรัพย์ในโรงพยาบาล เล่าเหตุการณ์ว่า ตอนนั้นนอนเฝ้าดูอาการแม่ อยู่ภายในโรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. คนร้ายได้เดินเข้าออกภายในห้องของผู้ป่วย 3-4 ครั้ง ทำทีแกล้งพูดคุยโทรศัพท์ทำให้ไม่รู้สึกสงสัย คิดว่ามาเยี่ยมผู้ป่วยทั่วไป จึงไม่ได้สนใจ จากนั้นคนร้ายแกล้งเดินเข้าห้องน้ำ รอเราเผลอคนร้ายก็เดินเข้ามาบริเวณหัวเตียงที่เก็บกระเป๋าเงิน ก่อนที่ฉกทรัพย์สินและเอกสารต่างๆ วิ่งกระโดดข้ามรั้วหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ด้านข้างโรงพยาบาล แม้จะพยายามวิ่งตามออกไปแต่ก็ไล่ไม่ทัน
จากพฤติกรรมของคนร้าย พ.ต.ท.อภิชาต ทองแพ สารวัตรสืบสวนสอบสวน (สว.สส.) สภ.ลาดหลุมแก้ว
บอกว่า พื้นที่ จ.ปทุมธานี มีการก่อเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้งในเวลา 03.00-05.00 น. ตามโรงพยาบาลขนาดเล็กของรัฐ ในอำเภอต่างๆ ที่การรักษาความปลอดภัยไม่แน่นหนา โดยจะเข้าไปอยู่ภายในโรงพยาบาลอยู่ครั้งละหลายชั่วโมง เพื่อให้เหยื่อตายใจ จากนั้นจึงตีสนิทกับญาติผู้ป่วย ทำทีเหมือนไปเยี่ยมคนไข้ เมื่อเหยื่อเผลอจะลักทรัพย์สินในกระเป๋าของเหยื่อหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุทางโรงพยาบาลต่างๆ ได้นำภาพผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิด
ออกประกาศเตือนประชาชนผู้ใช้บริการให้ระมัดระวังบุคคลต้องสงสัย และหลีกเลี่ยงการวางทรัพย์สินมีค่าไว้ในสถานที่สาธารณะ รวมถึงเจ้าหน้าที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว ได้ใช้ภาพวงจรปิด เป็นเบาะแสสามารถติดตามจับกุมคนร้ายคือ นายสุริยา เสริมสิน อายุ 33 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน ฬนบ 28 กรุงเทพมหานคร
นายสุริยา รับสารภาพว่า เคยก่อเหตุลักทรัพย์ในโรงพยาบาลจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อปี 2549
และเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำจังหวัดปราจีนบุรี ข้อหายาเสพติดเมื่อปี 2554 และมาก่อเหตุขโมยกระเป๋าเงินของญาติที่มาเฝ้าคนไข้ในโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดใกล้เคียง รวมก่อเหตุมาแล้วทั้งสิ้น 38 ครั้ง มักเลือกขโมยทั้งเงินสด, บัตรเครดิต, บัตรเอทีเอ็ม
ส่วนสาเหตุที่ทำไปนั้น ต้องการนำเงินมาเลี้ยงผู้หญิงที่คบเป็นแฟนหลายคน ประกอบกับหลังออกจากคุกก็หางานทำไม่ได้ สังคมไม่ให้โอกาส จึงไม่สามารถกลับตัวกลับใจประกอบอาชีพสุจริตได้
"ผมก็ออกตระเวนก่อเหตุแทบทุกวัน ที่แต่งตัวดีเพราะหน้าตาผมคล้ายคนติดยาอยู่แล้ว ถ้ายิ่งแต่งตัวแบบคนติดยายิ่งผิดสังเกต ส่วนสาเหตุที่ทำเพราะผมไม่มีทางเลือก ผมเคยไปสมัครงานแต่ไม่มีใครกล้ารับ เมื่อสังคมไม่ให้โอกาสผมเลยต้องมาทำแบบนี้" ผู้ต้องหารายนี้สารภาพ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝากเตือนถึงผู้ป่วย และญาติที่ต้องใช้บริการโรงพยาบาล ไม่ควรพกทรัพย์สินมีค่าจำนวนมาก และควรเก็บไว้ในที่มิดชิดปลอดภัย รวมถึงอย่าไว้ใจบุคคลที่อาจแฝงตัวมาในลักษณะญาติของผู้ป่วยในโรงพยาบาล และควรเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยภายในโรงพยาบาลให้แน่นหนากว่านี้