ศพน่วมคาห้องขัง ญาติโวย-ร้องศาลขอความเป็นธรรม

"นัดไต่สวนคดีผู้ต้องขัง เสียชีวิตในความควบคุมของ ตร."


ที่สำนักคดีอาญาศาลจังหวัดมีนบุรี ห้องพิจารณาที่ 13 เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 เม.ย.

ศาลนัดไต่สวนชันสูตรพลิกศพ

ในคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีศาลจังหวัดมีนบุรี ร้องขอให้ศาลไต่สวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายสุพรรณ ดอนเตาเหล็ก อายุ 22 ปี ว่าเสียชีวิตในการควบคุมของเจ้าพนักงานตำรวจ สน.หนองจอกหรือไม่ ตามกฎหมาย ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ซึ่งหากคดีมีมูล ก็จะมีการดำเนินคดีอาญาต่อไป

นัดนี้ อัยการนำพยานเข้าไต่สวน

ประกอบด้วย จ.ส.ต.ชาลี มหาคีตะ สิบเวรเฝ้าหน้าห้องขัง กับนายศราวุธ ประดิษฐ์สุธรรม ผู้ต้องขังที่ถูกขังอยู่ร่วมกับผู้ตาย ในวันเกิดเหตุ นายหนาและนางดวง ดอนเตาเหล็ก บิดาและมารดาของผู้ตาย

มีอาชีพรับซื้อของเก่า

โดยนางดวงมีอาการเจ็บป่วยญาติต้องหามมาศาล ศาลใช้เวลาไต่สวนนาน 2 ชั่วโมง จากนั้นนัดไต่สวนพยานต่ออีก 2 ปากในวันที่ 21 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

นางสุวรรณ ดอนเตาเหล็ก

พี่สาวผู้ตาย เปิดเผยว่า คดีนี้ตนได้ร้องต่อกรมคุ้มครองสิทธิ์ กระทรวงยุติธรรม ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองจอก เนื่องจากนายสุพรรณ น้องชาย อาชีพรับซื้อของเก่า



เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ

ภายในห้องขังของ สน.หนองจอก เมื่อสอบถามสาเหตุจากตำรวจแล้ว ไม่มีใครรับผิดชอบ กรมคุ้มครองสิทธิ์ จึงประสานไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด ให้ยื่นคำร้องต่อศาล โดยคำร้องใจความว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 49 เวลากลางวัน นายสุพรรณถูกตำรวจ สน.หนองจอก จับกุม

ตามที่ได้รับแจ้งเหตุว่า

มีการจับตัวคนร้าย ข้อหาพยายามข่มขืน ด.ญ.แอน (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ ระหว่างตำรวจเข้าจับกุมตัว บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 34/16 หมู่ 16 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. ได้มี ประชาชนในชุมชนเลียบวารีประมาณ 100 คน

เข้ารุมประชาทัณฑ์นายสุพรรณ

จนได้รับบาดเจ็บ แทนที่ตำรวจจะคอยป้องกันไม่ให้ชาวบ้านทำร้าย กลับปล่อยปละละเลย แล้วนำตัวนายสุพรรณ ผู้ตาย ขึ้นรถกระบะสายตรวจ จากนั้นเพิกเฉยไม่นำส่งโรงพยาบาลมีนบุรี

หรือโรงพยาบาลหนองจอก

ซึ่งเป็นทางผ่าน กลับนำตัวเข้าห้องขัง กระทั่งพบว่าเสียชีวิตในเวลา 08.00 น. ของวันที่ 12 มิ.ย. 49 จึงต้องการให้ศาลไต่สวนหาสาเหตุการตายว่าน้องชายตายในเวลาใด ใครเป็นผู้ทำให้ตาย เพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิดต่อไป ตามคดีดำที่ ช.3/2549

พี่สาวผู้ตายเปิดเผยต่อว่า

คดีนี้ตนเคยร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชาของตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามหาสาเหตุว่าใครทำให้ตายกันแน่ ระหว่างชาวบ้านหรือถูกตำรวจฆ่าในห้องขัง เพราะจากรายงานการตรวจของนิติเวช



พบว่าศพของน้องชาย

มีรอยถูกตีที่ท้ายทอยแตก ปากเจ่อ มีแผลถลอกตามร่างกาย และมีรอยช้ำที่อก แพทย์วินิจฉัยว่าเสียชีวิตเพราะเลือดคั่งในสมอง เสียชีวิตประมาณวันที่ 12 มิ.ย. 49 แต่ไม่ได้รับคำตอบ ส่วนการไต่สวนในวันนี้ ตำรวจที่เบิกความอ้างว่า ไม่รู้ไม่เห็นกับการตาย

ส่วนนายศราวุธเพื่อนผู้ต้องขัง

ก็เบิกความไปทำนองเดียวกับตำรวจ ทั้งที่ตอนเกิดเรื่องใหม่ๆ นายศราวุธเคยให้ ข้อเท็จจริงเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายผู้ตาย ดังนั้น หลักฐานสำคัญที่เหลือ คือภาพจากกล้องทีวีวงจรปิด ที่เราขออำนาจศาลสั่งให้ตำรวจส่งเข้ามาเป็นหลักฐานในคดี ตำรวจจะอ้างว่าไม่มีไม่ได้

ที่นำความมาร้องศาล

ก็เพื่อให้ความจริงปรากฏว่าน้องชายถูกตำรวจซ้อม หรือถูกประชาทัณฑ์ หากถูกประชาทัณฑ์ ตำรวจก็ต้องรับผิดชอบ เพราะผู้ต้องหาอยู่ในระหว่างการดูแลของตำรวจ กลับปล่อยให้น้องชายถูกรุมทำร้าย และเพิกเฉยไม่นำส่งโรง พยาบาล ส่วนคดีแพ่งอาจจะฟ้องฐานละเมิดเรียกค่าเสียหาย เพราะผู้ตายเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์