ตำรวจอยุธยาตะครุบโจรอ้วนสุดแสบ ตระเวนงัดกุฏิพระมาแล้ว 77 ครั้ง

ตำรวจอยุธยาตะครุบโจรอ้วนสุดแสบ ตระเวนงัดกุฏิพระมาแล้ว 77 ครั้ง

ตำรวจอยุธยาตะครุบโจรอ้วนสุดแสบ ตระเวนงัดกุฏิพระมาแล้ว 77 ครั้ง ทั้งในเขตอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียง รับสารภาพเอาเงินไปใช้เที่ยวเตร่

ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 22 พ.ย. พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก. พ.ต.อ.มงคล วรุณโณ รองผบก. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ชัยยะ เพ็ชรปัญญา ผกก. พ.ต.ท.เอนก พงษ์สวัสดิ์ รองผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายใหม่ ภู่มาลา อายุ39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ม. 4 ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่าทอง ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ตามวัดต่างๆพร้อมด้วยของกลางรถจยย.ยามาฮ่า รุ่นมีโอ้สีดำขาวหมายเลขทะเบียน ววค-594 กรุงเทพมหานคร หมวกกันน๊อค สีขาว เสื้อแขนสั้นสีแดง ที่ใช้ในการก่อเหตุ ตระกรุด รุ่นมหาระงับ หลวงปู่เทียมวัดกษัตราธิราช และเหรียญพระเครื่องต่างๆ

พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าวว่า จากกรณี เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2556 ที่ผ่านมา

ซึ่งเป็นวันออกพรรษา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งจากพระบุญเรือง จันสุวรรณโน อายุ 59 ปี พระลูกวัดลอดช่อง ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา ว่าถูกคนร้ายบุกเข้าไปงัดกุฏิแล้วเอาเงินสดจำนวน21,000 บาท พร้อมทั้งตระกุดมหาระงับ ของหลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราชวรวิหาร

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายเป็นคนรูปร่างอ้วน ใหญ่

และพบว่าคนร้ายรูปร่างลักษณะเดียวกันได้เคยก่อเหตุเข้าไปลักทรัพย์ ตามวัดต่างๆในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยาจำนวนหลายสิบวัด จึงได้ให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามคนร้าย และตรวจสอบประวัติคนร้ายเคยก่อเหตุในพื้นที่ จ.สระบุรี และเพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2554 จึงได้ไปติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก ใน จ.อ่างทอง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์ตามวัดต่างๆในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 77 วัด โดยจะอาศยในช่วงจังหวะที่พระออกไปประกอบศาสนกิจ ไม่มีพระอยู่ในกุฎิแล้วจะเข้าไปงัดกุฎิค้นหาทรัพย์สิน จากนั้นจะนำเงินไปใช้จ่าย

นอกจากนี้ยังได้ก่อเหตุลักทรัพย์ตามวัดต่างๆในพื้นที่ อ่างทอง ลพบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี สระบุรี อีกจำนวนหลายสิบวัด
 
ผู้ต้องหาเป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่กับวัดมาตั้งเด็ก ไม่มีครอบครัวและเร่ร่อนไปตามสถานที่ต่างๆโดยเรียนจบแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ไม่มีความรู้ในการประกอบอาชีพ ไม่เคยทำบัตรประชาชน จึงได้ก่อเหตุลักทรัพย์นำเงินมาใช้ในการดำรงชีวิตไปวัน จึงทำให้การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปด้วยความยากลำบาก ได้ทำการตรวจสอบย้อนหลังไปพบว่าผู้ต้องหาถูกจับในพื้นที่จ.สระบุรี นำภาพถ่ายมาตรวจสอบเทียบกับภาพวงจรปิดจึงรู้ว่าเป็นคนเดียวกัน นำไปสู่การจับกุมดังกล่าว


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์