ฆ่าตัวเอง คดีพตท.ยิง-ผูกคอ ตร.ชี้ไม่มีร่องรอยฆาตกรรม

ฆ่าตัวเอง คดีพตท.ยิง-ผูกคอ ตร.ชี้ไม่มีร่องรอยฆาตกรรม สอบเมียพบทะเลาะกันหนัก เครียดแม่ยายสั่งเก็บ

ตร.ให้น้ำหนักฆ่าตัวตายเอง คดีพ.ต.ท.บางยี่เรือผูกคอแล้วยิงหัว หลังตรวจสอบสภาพศพและที่เกิดเหตุ อีกทั้งพบประเด็นเครียดที่ร่างกายไม่เหมือนเดิมหลังถูกแม่ยายจ้างมือปืนมา ยิง ระยะหลังยังทะเลาะกับเมียเป็นประจำ ตร.เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและสอบเมียอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากกรณีพบศพพ.ต.ท.คณิศร บุญเหลือง อายุ 46 ปี พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.บางยี่เรือ นรต.รุ่นที่ 44
 
ใช้เชือกลากจูงรถยนต์ผูกคอตัวเองกับราวบันไดบ้าน โดยที่ศีรษะพบบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.เข้าขมับขวา เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักเลขที่ 60 ซอยราชมนตรี 10 แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กทม. เบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พบว่าใกล้กับจุดที่ผู้ตายผูกคอตัวเองนั้น ยังพบอาวุธปืนขนาดเดียวกันตกอยู่ด้วย ส่วนบริเวณกำแพงบ้านยังมีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาดเดียวกันด้วยเช่นกัน เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ พ.ต.ท.คณิศรเคยตกเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ เมื่อ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา
 
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. แถลงจับกุมนางคำตัน กาศจันทร์ อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน นางคำตันรับสารภาพว่าเป็นผู้จ้างมือปืนให้มายิงพ.ต.ท.คณิศร ซึ่งเป็นลูกเขย โดยติดต่อกับคนชื่อชวน เพื่อนสามีที่เสียชีวิตไปแล้ว เป็นผู้ไปจ้างนายอู๊ดเป็นมือปืนเข้ามาก่อเหตุ นอกจากนี้ยังเป็นคนไปชี้เป้าให้อีกด้วย ส่วนสาเหตุมาจากปัญหาของลูกสาวที่มักมีปากเสียงกับสามีเป็นประจำ เคยเห็นทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรง จนถึงขั้นทำร้ายร่างกายจนเป็นคดีกันมาแล้ว ถึงแม้ว่าทั้งลูกเขยและลูกสาวจะแต่งงานกันมานานแล้วก็ตาม แต่ลูกเขยมักมีพฤติกรรมชอบซ้อมเมียเวลาเสียพนัน เคยบอกให้ลูกสาวแยกทางแต่ไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจใช้มือปืนมาจัดการ แต่พ.ต.ท.คณิศรไม่ตาย ก่อนจะมาผูกคอตายในที่สุด

ความคืบหน้า เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 16 พ.ย.พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รองผบช.น. รับผิดชอบงานด้านกฎหมายและสอบสวน
 
เปิดเผยว่า เท่าที่ได้รับรายงานเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตายเอง สำหรับสาเหตุนั้นคงเกิดจากความเครียดของผู้ตาย แต่ทั้งนี้ต้องรอผลการตรวจสอบพยานหลักฐานให้ชัดเจนอีกครั้ง และต้องรอสอบปากคำแพทย์ รวมทั้งผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์จากกองพิสูจน์หลักฐานก็จะสามารถ ยืนยันได้แน่ชัดว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรม

รอง ผบช.น.กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามจากการสอบปากคำภรรยาและญาติของพ.ต.ท. คณิศรทราบว่าหลังเกิดเหตุถูกแม่ยายส่งมือปืนมาดักสังหารแต่ไม่เสียชีวิต

เมื่อรักษาอาการบาดเจ็บจนหายแล้ว หลังออกจากโรงพยาบาลมา ผู้ตายมักจะบ่นอยู่เสมอว่าไม่สามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติเหมือนเมื่อก่อน เพราะแขนขวาไม่มีแรงซึ่งสืบเนื่องมาจากเหตุที่ถูกยิง ประกอบกับระยะหลังผู้ตายมักเกิดปากเสียงกับภรรยาแทบทุกวัน ทำให้เกิดความเครียด จนถึงขั้นกระทำการดังกล่าว อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง

ด้านพล.ต.ต.ฐิติ ราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. รับผิดชอบงานสืบสวน

เปิดเผยว่า เบื้องต้นให้ฝ่ายสืบสวนของสน.หลักสอง และกก.สส.บก.น.9 ตรวจสอบให้ละเอียดชัดเจนทุกอย่าง ว่าเป็นการฆ่าตัวตายเอง หรือเป็นเหตุฆาตกรรม แต่เท่าที่ทราบจากพล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 มีแนวโน้มว่าผู้ตายอาจจะเครียดจนก่อเหตุเอง เนื่องจากมีพยานและหลักฐานค่อนข้างชัดเจน อย่างไรก็ตามในส่วนของงานสืบสวนยังไม่ตัดทิ้งประเด็นอื่นๆ และจะเรียกฝ่ายสืบสวนประชุมเพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ขณะ ที่พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สส.บก.น.9 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐ.)ที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
 
รายงานว่าไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือสิ่งที่ผิดสังเกตแต่อย่างใด สำหรับสภาพของอาวุธปืนที่ตกอยู่ก็ไม่ใช่ลักษณะของการถูกจัดวาง ประกอบกับทิศทางของกระสุนปืนที่ฝังอยู่ที่บริเวณผนังฝาบ้าน ซึ่งคงไม่ใช่เป็นการจัดฉาก หรือเป็นฆาตกรรมอำพราง อย่างไรก็ตามต้องรอผลชันสูตรของแพทย์ ผลการตรวจคราบเขม่าดินปืนในมือผู้ตาย และที่มือของนางโสภาภรณ์ บุญเหลือง ภรรยาของผู้ตายให้ชัดเจนอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร แต่เนื่องจากในวันนี้เป็นวันหยุดราชการ น่าจะทราบผลการตรวจในวันจันทร์ที่ 18 พ.ย.นี้ โดยวันนี้พนักงานสอบสวนจะเรียกตัวนางโสภาภรณ์ ภรรยาของผู้ตายมา สอบปากคำอีกครั้งด้วย

พ.ต.อ.พงศ์อานันต์กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำญาติของผู้ตายทราบอีกว่า พ.ต.ท. คณิศรเป็นคนถนัดมือขวา

แต่หลังถูกลอบยิงครั้งนั้น แขนขวาก็บาดเจ็บ จนมีอาการแขนอ่อนแรง แต่ไม่ถึงขั้นที่จะใช้การไม่ได้เลย เพราะยังใช้การได้ 60-70 เปอร์ เซ็นต์ สามารถหยิบจับอะไรได้ หรือยกแขนในระดับอกจนถึงศีรษะได้ แต่ขึ้นสูงเหนือศีรษะนั้นไม่ค่อยได้อยู่ระหว่างการทำกาย ภาพบำบัด นอกจากนี้ส่วนตัวผู้ตายเป็นคนที่แข็งแรงชอบการออกกำลังกาย ทั้งการวิ่งและปั่นจักรยาน จึงน่าเชื่อว่ายังสามารถใช้มือขวาหยิบปืนขึ้นมายิงตัวเองได้ หลังจากที่ผูกคอตัวเองเข้ากับราวบันไดแล้ว

ต่อมาเวลา 14.30 น. นางโสภาพร บุญเหลือง อายุ 39 ปี ภรรยาพ.ต.ท.คณิศร เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่ สน.หลักสอง นานกว่า 2 ช.ม.

ก่อนเดินทางกลับ ร.ต.อ. ณภัทร พนักงานสอบสวน กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องยังอยู่ในสำนวน ยังบอกอะไรไม่ได้มาก ต้องรอดูพยานหลักฐานต่างๆ ประกอบกัน และต้องรอผลพิสูจน์คราบเขม่าดินปืน ร่องรอยบาดแผลว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เป็นการฆ่าตัวตายจริงหรือไม่ เนื่องจากติดวันเสาร์อาทิตย์ ทำให้ทุกอย่างล่าช้า แต่จะพยายามเร่งผลพิสูจน์ให้ออกมาเร็วที่สุด ยังมีญาติผู้ตายอีกหลายคนที่ไม่ได้เรียกมาสอบปากคำ เนื่องจากติดการจัดงานศพ แต่เรียกเพื่อนบ้านซึ่งเป็นพยานแวดล้อมมาสอบบ้างแล้ว

พ.ต.อ. ภานุเดช สุขวงศ์ ผกก.สน.หลักสอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการสอบปากคำเพื่อนของพ.ต.ท.คณิศรที่สนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน

ซึ่งมีบ้านอยู่ละแวกเดียวกัน ไปมาหาสู่กันตลอดทราบว่าระยะหลังพ.ต.ท. คณิศรมาหาแล้วมักบ่นว่าปวดบริเวณคอ เมื่อถามว่าไปทำอะไรมา พ.ต.ท.คณิศรตอบว่าซ้อมผูกคอตาย แต่บอกว่าไม่ไหว จากนั้นก็พูดเรื่องปัญหาต่างๆ ให้ฟัง ทั้งกรณีที่มีปากเสียงกับภรรยาอย่างรุนแรงถึงขั้นขอหย่า เรื่องสภาพร่างกายที่ยังไม่ปกติดีนัก โดยเฉพาะแขนที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเมื่อคราวที่แล้ว รวมถึงเรื่องหน้าที่การงานที่รู้สึกว่าเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน กังวลว่าจะเข้าทำงานตามปกติแล้วจะทำไหวหรือไม่ เมื่อคุยกันได้สักพักก็ขอตัวกลับบ้านไปมารู้อีกทีว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นแล้ว

วันเดียวกัน น.ส.โสภา บุญเหลือง อายุ 43 ปี น้องสาวพ.ต.ท.คณิศร เดินทางมารับศพที่ร.พ.ศิริราช ด้วยความโศกเศร้า โดยจะนำศพพ.ต.ท.คณิสรไปบำเพ็ญกุศลที่วัดไชยฉิมพลี ย่านภาษีเจริญ ทั้งนี้ น.ส.โสภาไม่เชื่อว่าพี่ชายจะฆ่าตัวตาย