พร้อมด้วย น.พ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข น.พ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ น.พ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ร่วมแถลงผลการจับกุมสถานพยาบาลและแพทย์เถื่อน โดยกระทรวงยุติธรรมได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สนธิกำลังเจ้าหน้าที่นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นคลีนิก ชื่อ “Pulchala Clinic” เลขที่ 18/97 หมู่บ้านเทอเรซ ซอยรามอินทรา 65 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ และพบ น.ส.ณัฐชานันท์ พิทักษ์ชัยกร หรือแนน อายุ 22 ปี ได้เช่าสถานที่แล้วเปิดคลินิกเถื่อน จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
อ้างว่าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามทั้งที่ไม่ได้เป็นแพทย์จริงและมีการใช้ใบปริญญาบัตรและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพปลอมเพื่อสร้างความเชื่อถือ โดยน.ส.ณัฐชานันท์ เป็นเพียงนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามการลักลอบเปิดคลินิกเถื่อนนั้นทางกระทรวงยุติธรรม โดยดีเอสไอ และกระทรวงสาธารณสุข แพทยสภา ได้ร่วมกันทำบันทึกข้อตกลงในการปราบปรามคลินิกและแพทย์เถื่อน โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุคลินิกเถื่อนหรือแพทย์ที่ต้องสงสัยว่าใช้ใบอนุญาตปลอม ได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมฯ โทร. 090-1231230 หรือตรวจสอบรายชื่อแพทย์ที่มีใบอนุญาตถูกต้องได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา ที่มีฐานข้อมูลแพทย์อยู่เกือบ 5 หมื่นรายชื่อ
แต่ที่ผ่านมาพบว่ามีบริษัทหรือสถานพยาบาลเอกชนที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพจริงมาแอบอ้างตัวหลอกลวงให้บริการ สำหรับสถิติระหว่างเดือน ต.ค. 2555-กันยายน 2556 พบว่ามีการร้องเรียนคลินิกเถื่อนแล้ว 30 แห่ง โดยกรณีของคลินิกเถื่อนหากฝ่าฝืนจะมีโทษฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.สถานพยาบาล มาตรา 16 และมาตรา 24 จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีหมอเถื่อน ถือเป็นการกระทำเข้าข่ายฝ่าฝืนพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม มาตรา 26 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีการปลอมแปลงเอกสาร ใบปริญญา และใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม จะมีความผิดตามกฎหมายอาญา เข้าข่ายต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้น ก่อนเข้ารับบริการด้านการแพทย์ควรตรวจสอบประวัติผู้ทำการรักษาอย่างรอบคอบ โดยสามารถตรวจสอบสถานประกอบการและแพทย์ผู้ได้รับอนุญาตได้จากเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข www.hss.moph.go.th หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกอ้างชื่อไปใช้กล่าวว่า เคยให้ข้อมูลและหลักฐานเกี่ยวกับการสมัครงานแพทย์กับผู้ต้องหาซึ่งเปิดเว็บไซต์รับสมัครแพทย์ตนจึงติดต่อและมอบเอกสารประกอบการสมัครงานไปได้ ต่อมามีเพื่อนติดต่อว่าพบว่าชื่อของตนถูกนำไปโพสต์ประกาศให้บริการด้านความงาม ดังนั้นขอเตือนถึงผู้ที่เข้ารับบริการด้านความงามควรตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพให้ชัดเจน เนื่องจากขณะนี้ทราบว่ามีแพทย์เถื่อนจำนวนมากที่อาศัยแอบอ้างชื่อผู้อื่นไปให้การรักษาที่ผิดกฎหมาย