เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ต.ท.ศิริพงศ์ ประมวลมา พงส.สน.สำราญราษฎร์
รับแจ้งเหตุ คนร้ายใช้มีดแทงคอเด็ก ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าวัดมรรณพาราม ถนนตะนาว แขวงเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ฤทธิกร สายสนั่น ณ อยุธยา ผกก.สน.สำราญราษฎร์ และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบริเวณรถสุขาเคลื่อนที่ของกทม. หมายเลขทะเบียน 99-5757 กรุงเทพ
ซึ่งจอดให้บริการประชาชนอยู่บริเวณหน้าวัดมรรณพาราม เนื่องจากวันนี้เป็นเทศกาลงานเทกระจาดของทางศาลเจ้าพ่อเสือ พบรอยเลือดเป็นทางยาวที่บริเวณบันไดทางขึ้นห้องน้ำหญิง ขณะที่บริเวณด้านหน้ากำแพงวัดพบเด็กหญิง ทราบชื่อต่อมา ด.ญ.อรทัย หลิมสกุล อายุ 8 ขวบ สวมเสื้อยืดคอกลมลายทางสีชมพูคาดน้ำตาลเข้ม สวมกางเกงขาสั้นลายการ์ตูนสีน้ำตาล ถูกมีดพกสั้น ยาวประมาณ 7 นิ้วปักเข้าที่บริเวณไหปลาร้าข้างขวาเสียบคาอยู่ เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลกลาง ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวน นายชูศักดิ์ ยอมประโคน เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ผู้ดูแลรถสุขาดังกล่าว ให้การว่า
ก่อนเกิดเหตุมีประชาชนเข้าห้องน้ำเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนเองนั่งดูทีวีอยู่บริเวณด้านหน้ารถไม่ทันสังเกต จนกระทั่งมีคนตะโกนขอความช่วยเหลือ ตนจึงหันไปมองเห็นเด็กหญิงดังกล่าวเดินลงมาจากรถ โดยมีมีดปักคาอยู่ ก่อนจะล้มฟุบลงข้างกำแพงวัด ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุมองเห็นไม่ชัดเจน เพราะช่วงเวลาดังกล่าวชุลมุนมาก ทราบเพียงว่าวิ่งหายเข้าไปภายในวัดมรรณพาราม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย เป็นหญิง ผมยาวประบ่า ท่าทางเหมือนคนเร่ร่อน สติไม่ดี
พักอาศัยอยู่ภายในวัดมรรณพารามไปสอบสวน เพราะมีประชาชนเห็นหญิงคนดังกล่าววิ่งออกมาจากทางข้างวัดมรรณพาราม เหมือนกับหนีอะไรหรือว่าตกใจอะไรบางอย่าง ก่อนชาวบ้านและประชาชนที่มางานเทกระจาด จะช่วยกันควบคุมตัวไว้และส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 สอบปากคำ น.ส.พัชรินทร์ หรือหนู พาชอบ อายุ 25 ปี
บ้านเลขที่ 48 หมู่ 6 ต.ปะอาว อ.เมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุใช้มีดปลอกผลไม้ปลายแหลมแทงคอ ด.ญ.อรทัย หรือน้องใบตอง และ ยังให้นางสมหญิง แซ่เล้า อายุ 36 ปี มารดา ด.ญ.อรทัย และนายกุ้ง โคกอารี อายุ 36 ปี พ่อเลี้ยง มาดูหน้าผู้ต้องสงสัย ว่ารู้จักกันมาก่อนหรือไม่ โดยทั้งคู่ยืนยัยว่าไม่เคยรู้จักกับ น.ส.พัชรินทร์ มาก่อน
จากนั้นประสานตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝง รอยเลือดบนมีดที่ใช้แทง ด.ญ.อรทัย พร้อมให้ฝ่ายสืบสวน ออกหาพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ และพยานแวดล้อมจากกล้องวงจรปิดรอบๆที่เกิดเหตุ
พล.ต.ต.วัลลภ เผยว่า เบื้องต้นสอบปากคำ น.ส.พัชรินทร์ ซึ่งมีลักษณะสติไม่สมประกอบ ยังให้การวกไปวนมา
แต่จับใจความได้ว่า อยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานีกับพ่อแม่ และเดินทางมาเที่ยวกรุงเทพฯได้พักหนึ่งแล้วโดยพักอยู่กับเพื่อนไม่ทราบว่าที่ไหน และมาเที่ยวงานเทกระจาดศาลเจ้าพ่อเสือมารับของแจกเหมือนกัน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ กำลังประสานพ่อแม่และญาติพี่น้องมาสอบปาก รวมทั้งจะส่งตัวผู้ต้องสงสัยไปตรวจสอบกับแพทย์จิตรเวชว่า มีอาการทางประสาทจริงหรือไม่ แต่ในทางคดีพนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยใช้อาวุธมีด ส่งฟ้องศาลอาญารัชดา หากเป็นคนสติไม่ดีจริงก็นำตัวไปรักษาจนหายแล้ว ค่อยมารับโทษ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะพิจารณาอย่างไรตามขั้นตอน